ไม่ผิดคาดเลยซักนิด ถ้าทุกโพลจากทุกสำนักในประเทศจะเทคะแนนบุคคลที่เป็นที่สุดแห่งปี 2017 และยกคำว่า
"ฮีโร่หรือซุปเปอร์ไอดอล" ให้กับผู้ชายคนนี้
"ตูน-บอดี้สเเลม" หรือ
พี่ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย ที่นอกจากจะเป็นนักร้องดังนิสัยดีขวัญใจหลายๆ คนแล้ว ตอนนี้พี่ตูนยังกลายเป็นเสมือนฮีโร่ของคนไทยทั้งประเทศ จาก
"โครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ" ซึ่งเป็นการวิ่งระดมทุนเพื่อซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ จากอ.เบตง ถึง อ.แม่สาย เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ล่าสุดพี่ตูนและทีมงานก็พิชิตเส้นชัยที่เหนือสุดแดนสยาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นที่เรียบร้อย ด้วยระยะทางทั้งหมด 2,215.40 กิโลเมตร
ความเชื่อที่กลายเป็น "ปรากฏการณ์แห่งศรัทธา"
ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบตลอดทั้งโครงการ ทั้งสื่อและผู้คนทั่วไปแทบทุกเพศทุกวัยต่างให้ความสนใจว่าโครงการครั้งนี้จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ เพราะใครจะเชื่อว่าผู้ชายตัวเล็กผอมบาง เป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียง แต่ไม่ใช่นักกีฬาอาชีพ จะสามารถวิ่งจากใต้สุดของประเทศไปจนถึงเหนือสุด ด้วยระยะทางรวมกว่า 2,000 กม. ในระยะเวลาเพียงแค่ 55 วัน (บ้าไปแล้ว!)
แต่สิ่งที่ผู้ชายคนนี้พิสูจน์ให้เราเห็น
ด้วยความเชื่อ ความมุ่งมั่น ความทุ่มเท และพยายามอย่างหนักเพื่อทำตามเป้าหมายให้สำเร็จ พร้อมทั้งการสนับสนุนจากทีมงานและกำลังใจจากทั่วทุกสารทิศที่ส่งมา
เขาทำสำเร็จ!! แม้จะต้องเจอกับอุบัติเหตุไม่คาดฝัน และอาการบาดเจ็บที่รุมเร้าตลอดการวิ่ง แต่ที่สุดแล้วเขาก็สามารถวิ่งได้ตามเป้าทุกอย่าง พร้อมยอดเงินที่วางไว้ก่อนวิ่งคือเงิน 10 บาทจากคนไทยทั้งประเทศ รวม 700 ล้านบาท แต่ถึงตอนนี้ (วันที่ 27 ธันวาคม 2560) ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่คนไทยทั้งประเทศได้เห็นจากพี่ตูนและทีมงาน ส่งผลให้ยอดบริจาคทะลุเป้าเกินไปถึง 1,200 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย และคาดว่าจะยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังไม่ปิดโครงการ
นอกจากเป้าหมายหลักเรื่องการระดมทุนบริจาคแล้ว
พี่ตูนยังสร้างแรงสั่นสะเทือนให้ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพ ดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย และเข้าใจปัญหาทางสาธารณสุขกันมากขึ้น โดยสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเป้าหมายหลักที่พี่ตูนหวังไว้หลังจากจบโครงการ
" วันที่เราวิ่งถึงเส้นชัยคือวันสุดท้ายและวันจบของกิจกรรมครั้งนี้ แต่ผมอยากจะให้จุดจบของการวิ่งครั้งนี้เป็นเหมือนจุดเริ่มต้น ของการที่คนในพื้นที่ต่างๆ จะหันกลับไปดูโรงพยาบาลในพื้นที่ของตัวเองว่าพร้อมแล้วหรือยัง จะดีขึ้นได้ไหม ใครมีแรงเท่าไรลองร่วมด้วยช่วยกัน ใครมีแรงมาก ลองออกไอเดียว่าจะทำอย่างไรเพื่อช่วยคุณหมอคุณพยาบาลในพื้นที่ให้มีเครื่องมือที่ดีขึ้น ให้มีคุณภาพชีวิตที่โรงพยาบาลมากขึ้น
ผมอยากให้วันนี้เป็นวันเริ่มต้นของการหันกลับไปมองรอบๆ ตัว คิดว่าไม่มากก็น้อย คงมีใครหลายคนที่ได้มองหันกลับไปที่โรงพยาบาลในบ้านเกิดตัวเองและอยากทำให้มันดีขึ้น ผมเชื่ออย่างนั้น และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกอยากจะได้มากที่สุดคืออยากให้คนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเอง เพราะผมเชื่อว่าไม่ว่าเราจะถมเงินไปกับโรงพยาบาลมากเท่าไรมันก็ไม่พอ ถ้าคนยังไม่ดูแลสุขภาพ ซึ่งเราสามารถป้องกันสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย ดูแลโภชนาการที่ดี ผมอยากให้เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งเหล่านี้ ที่สุดท้ายแล้วคิดว่าจะเป็นการแก้ปัญหาโรงพยาบาลอย่างยั่งยืนที่สุด "
"ผมไม่ใช่นักกีฬาอาชีพ แต่เป็นแค่นักร้องที่รักการวิ่ง และคิดว่านี่คือสิ่งที่เราจะทำประโยชน์ให้สังคมได้"
“ตลอดเส้นทางทุกคนบอกผมเป็นคนดีผมเป็นฮีโร่
แต่ส่วนตัวผมคิดว่าผมไม่ได้เป็นคนดีหรือฮีโร่ ความจริงแล้วฮีโร่ตัวจริงอยู่ที่โรงพยาบาล ใส่ชุดสีขาว ใส่หมวกสีขาว จึงขอเสียงให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน รวมถึงฮีโร่อีกคน คือ คนไทยทุกคนที่ช่วยกันบริจาค ซึ่งโครงการนี้อยากให้เห็นถึงคุณค่าของเศษเงินของแต่ละคนที่รวมกันเป็นพันล้านบาท เพื่อช่วยคุณหมอและประชาชนทุกคนที่จะได้รับประโยชน์”
ก็คงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรที่ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ในสังคมเราจะยกย่องและใช้พี่ตูนเป็นแบบอย่างในการสั่งสอนคนรุ่นหลังในการใช้ชีวิตตามฝันและทำประโยชน์เพื่อสังคม
เพราะจากการกระทำทั้งหมดที่ผ่านมา คือสิ่งที่พี่ตูนพิสูจน์ให้เราเห็นว่า คนธรรมดาก็เป็นฮีโร่ได้ แค่ลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่ออย่างเต็มความสามารถ แม้จะต้องพบเจอกับอุปสรรค ความท้อแท้ หรือโดนคนบางกลุ่มติฉินนินทาสงสัยในเจตนา แต่การกระทำ ความมุ่งมั่น และความสำเร็จที่เกิดขึ้นจะเป็นสิ่งที่ช่วยพิสูจน์ให้เราได้ดีและดังที่สุด
ภาพความประทับใจที่เราได้เห็นตลอดการวิ่งของพี่ตูนและโครงการก้าวคนละก้าว