สอบเข้ามหาวิทยาลัย

เริ่มต้นชีวิตดี ด้วย 5 สิ่งที่คนประสบความสำเร็จระดับโลกทำเหมือนกัน

บทความนี้ AdmissionPremium ขอเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการชวนน้องๆ และเพื่อนๆ มาเปลี่ยนโหมตเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม มาปฏิวัติกิจวัตรประจำวันที่แสนจะน่าเบื่อเพื่อให้ชีวิตวัยเรียนและวัยทำงานของเราประสบความสำเร็จได้ดีขึ้น ทั้งเรื่องการเรียน สุขภาพ และชีวิตส่วนตัว ด้วย 5 กิจวัตรที่คนประสบความสำเร็จระดับโลกทำเหมือนกัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้เราเข้าใกล้สิ่งที่ใฝ่ฝันได้เร็วขึ้นนั่นเอง จะมีอะไรบ้าง ตามพี่ AdmissionPremium มาดูกันได้เลยจ้าาา


ตื่นเช้า
สาเหตุที่ทำให้การตื่นเช้ามีผลต่อความสำเร็จนั้น เพราะเวลาเช้ามักเป็นเวลาที่เงียบ และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากกว่าเวลาอื่น นอกจากนั้นยังช่วยให้มีเวลาทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การตื่นเช้าตรงนี้ต้องมาพร้อมกันการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอตั้งแต่ตอนกลางคืน ไม่ใช่ว่านอนตี 2 ตื่น ตี 5 แต่หากมีสถานการณ์บังคับก็เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่อย่าทำบ่อยจะดีกว่า มีตัวอย่างคนดังหลายคนที่ตื่นเช้าเสมอ ไม่ว่าจะเป็น Tim Cook ตำแหน่ง CEO คนดังจากบริษัท Apple ใช้เวลานอนหลับอยู่ที่ประมาณ 7 ชั่วโมงต่อวัน โดยเขาจะเข้านอน 21.30 น. และตื่นตั้งแต่ 04.30 น. เพื่อเตรียมพร้อมการทำงานในวันนั้น ส่วน Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Amazon.com ธุรกิจ E-commerce รายใหญ่ของโลกก็ใช้เวลานอนราว 7 ชั่วโมงต่อวันเช่นกัน ซึ่งเขาจะเข้านอนประมาณ 22.00 น. และตื่น 05.00 น. ฉะนั้นการทำงานหามรุ่งหามค่ำคงไม่ใช่เทรนสุดฮิตของคนสมัยใหม่แล้วล่ะ


อ่านหนังสือดีๆ
การอ่านหนังสือคือการย่นย่อวิถีและแนวคิดของคนสำเร็จอีกวีธีหนึ่ง เป็นไปได้น้อยมากที่จะเห็นคนสำเร็จเป็นคนที่อ่านหนังสือน้อย หรือเรียนรู้น้อย เพราะอย่างนั้นแล้วจึงสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า การอ่านหนังสือเป็นประจำเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คนสำเร็จได้ (เป็นเพียงหนึ่งปัจจัยเท่านั้น) แต่ไม่ได้มีกฎตายตัวว่าต้องเป็นหนังสือประเภทไหน ขอให้เพียงเริ่มต้นอ่านเป็นใช้ได้ แล้วค่อยขยับไปอ่านแบบหลากหลายดู แต่ก็อาจจะมีน้องๆ หลายคนบอกว่า ยุ่งจนไม่มีเวลาอ่านหนังสือดีๆ หากเป็นแบบนั้นแล้ว เราอาจจะเข้าใจเรื่องการอ่านหนังสือผิดไปหน่อย การอ่านไม่จำเป็นที่ต้องใช้เวลานานๆ แต่เป็นการอ่านสั้นๆ ก่อนนอน 10 นาที ตอนเช้า 10 นาที ค่อยๆเริ่มจากทีละนิด แต่หากยุ่งจริงๆ สมัยนี้ฟัง Podcasts หรือฟังหนังสือเสียงแทนได้

ลงมือทำ ทันที
“10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น” สุภาษิตนี้เป็นเรื่องจริงเสมอ อย่ามัวแต่คิดจนไม่ได้ลงมือทำอะไร เพราะการลงมือทำส่งผลและมีประสิทธิภาพ ทำให้เราเห็นข้อผิดพลาดได้เร็วกว่า ไม่ต้องรอจนเพอร์เฟ็กต์ เราสามารถทำไป แก้ไปได้ ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดในการลงมือทำ คือ อาชีพของนักกีฬา อย่างเช่น ไมเคิลจอร์แดน นักบาสเกตบอลชื่อดัง ที่กระโดดเป็นพันครั้งในแต่ละอาทิตย์ เขายังได้กล่าวถึงการทำงานหนักกว่า “อุปสรรคไม่ใช่เรื่องที่สามารถหยุดคุณได้ หากคุณวิ่งเข้าหามันโดยไม่หันกลับหลัง สุดท้ายแล้วก็จะพบว่าคุณข้ามผ่านมันไปได้”

ออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ
สุขภาพดี คือต้นทุนชีวิตที่เราสร้างได้ แน่นอนว่ามีหลายงานวิจัยที่ออกมาบอกเราว่า การออกกำลังกายเป็นประจำส่งผลดีกว่าไม่ออกกำลังกาย ทั้งช่วยในเรื่องของความเครียด และส่งผลต่อการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ แต่ก็จะมีหลายคนที่รู้สึกว่าการออกกำลังกายเป็นยาขมของชีวิต ให้ลองเปลี่ยนความคิดจากการคำว่า “ออกกำลังกาย” เป็น “การเดินทุกวัน” หรือ “แค่เปลี่ยนที่เดินเล่น” จริงๆ แล้วก็คือเรื่องเดียวกันนั้นแหละ 

สม่ำเสมอ และไม่หยุดพยายาม
หากถามว่า ข้อไหนสำคัญที่สุด ก็คงต้องบอกว่าเป็นข้อนี้นี่แหละ “วินัยเป็นเพื่อนกับความสำเร็จ” หากทุกข้อที่กล่าวมาไม่สามารถทำเป็นนิสัยได้ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ ลองเลือกจากข้อใดข้อหนึ่งก่อน แล้วทำให้เป็นนิสัย จึงค่อยเพิ่มมาอีกข้อ การเปลี่ยนนิสัยหรือกิจวัตรแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินความสามารถและความตั้งใจของเราอย่างแน่นอน 


ทุกความสำเร็จ จึงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ เพียงแค่เราค่อยๆ ลองปรับกิจวัตรประจำวันทีละนิดละหน่อย เพื่อพัฒนาตัวเราขึ้นให้ดีกว่าเดิม ลองหาสิ่งใหม่ๆ หรือเพิ่มทักษะให้ตัวเองหลังว่างเว้นจากงาน เชื่อว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จตามที่ทุกคนใฝ่ฝันได้อย่างแน่นอน


ที่มา BrandThink