ในปัจจุบัน เมื่อเทคโนโลยีก้าวเข้ามามีบทบาทต่อสังคมมากขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ ย่อมต้องปรับตัวให้ทันตามยุคสมัย จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าโมเดลธุรกิจที่น่าจับตามองมากที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้น “สตาร์ทอัพ (Startup)” ซึ่งเป็นธุรกิจแนวใหม่ที่เกิดขึ้นจากการนำไอทีเข้ามาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น แอปพลิเคชันต่าง ๆ ทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดและสร้างรายได้อย่างมหาศาล
“นางสาวณัฏฐารีย์ ศรีวะปะ (สปาย)” และ “นางสาวกฤตพร ยงเกียรติพานิช (มดแดง)” นักศึกษาสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ คณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น คือ คนรุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจเรื่องสตาร์ทอัพเป็นอย่างมากและได้รับประสบการณ์มากมายจากการเข้าร่วมแข่งขัน “Startup Thailand League 2019” สปาย และเพื่อนๆ ในทีมเริ่มทำธุรกิจ Startup ด้านป้ายโฆษณาดิจิทัล ที่สามารถวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลของผู้ที่เดินผ่านหรือสนใจมองดูโฆษณา จำแนกตามเพศและช่วงอายุได้
ในส่วนของมดแดง และทีม ซึ่งประกอบด้วยเพื่อนๆ พี่ๆ จากทั้งสาขาวิศวฯ คอมพิวเตอร์ / สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ เริ่มต้นทำธุรกิจ Startup ด้วยการร่วมกันพัฒนาแอปพลิเคชัน ONEKASET สำหรับเป็นสื่อกลางในการจับคู่ธุรกิจ ระหว่าง 1) นายทุนที่อยากมีผลผลิตทางการเกษตรเป็นของตัวเองกับเกษตรกร และ 2) เจ้าของที่ดินว่างเปล่ากับเกษตรกรที่ต้องการที่ดินในการทำการเกษตร ซึ่งจะช่วยในการสร้างรายได้เพิ่มให้แก่ทุกฝ่าย
ก้าวแรกสู่สตาร์ทอัพ ของสปายและมดแดง
“เราลงแข่งสตาร์ทอัพตั้งแต่ปี 61 เพราะเคยได้ยินชื่อโครงการนี้ แต่ไม่รู้เลยว่าสตาร์ทอัพคืออะไร จึงตัดสินใจเข้าแข่งขันเพื่อท้าทายความคิดและท้าทายตัวเราเองด้วย ซึ่งในปีแรกไม่ผ่านเข้ารอบระดับภาค นั่นอาจเป็นเพราะไม่ได้เข้าแข่งขันตั้งแต่ช่วงแรกและเข้าแข่งขันอีกครั้งในปี 62 เพื่อทดสอบตัวเองว่าถ้าเราเริ่มต้นแข่งขันตั้งแต่แรกเราจะสามารถไปถึงจุดนั้นได้หรือไม่และอยากรู้ว่าประสบการณ์การแข่งขันในระดับประเทศนั้นเป็นยังไง”
หัวใจหลักของสตาร์ทอัพ
คือ ไอเดีย และความกล้าที่จะลงมือทำ เพราะจุดแข็งของสตาร์ทอัพคือการเป็นโมเดลธุรกิจขนาดเล็ก ทำให้เราสามารถลองสิ่งใหม่ ๆ ได้ตลอด ถึงจะไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างน้อยก็ได้ลงมือทำ นอกจากนี้การทำสตาร์ทอัพเราสามารถหาเงินทุนได้จากความคิดสร้างสรรค์ของเราผ่านการ Pitching ซึ่งการที่ได้พาร์ทเนอร์ที่เป็นบริษัทมาช่วยสนับสนุนทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้รวดเร็วมากขึ้น ไม่เพียงแต่เรื่องของเงินทุน แต่ยังรวมถึงทรัพยากรอื่น ๆ และเครือข่ายทางธุรกิจอีกด้วย ทำให้เราได้เรียนรู้และนำประสบการณ์ตรงนี้มาพัฒนาธุรกิจต่อไปได้”
เดินอย่างไรให้ถึงฝัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการแข่งขันนี้ คือ การทำงานกันเป็นทีม ซึ่งบางครั้งก็เป็นคนไม่รู้จัก ในการแข่งขันนี้เราต้องทำงานร่วมกับคณะวิศวะและไอทีด้วย เราจึงต้องปรับตัวเข้าหาคนอื่นและรับผิดชอบหน้าที่ในทีมของตัวเองให้ดีที่สุด การที่เราต้องทำงานกับคนหลายรูปแบบนี้เองทำให้เรารู้จักโลกกว้างขึ้น เรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากสายงานอื่นมากขึ้น เพราะเราต่างมีความถนัดคนละแบบจึงต้องคอยซัพพอร์ตกันและกัน นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าทีมเวิร์คค่ะ”