สอบเข้ามหาวิทยาลัย

7 สิ่งนี้เฟรชชี่ต้องเจอ


7 สิ่งนี้เฟรชชี่ต้องเจอ

ผ่านไปแล้วกับช่วงสงครามการเข้าเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยที่น้องๆหลายต้องฝ่าฝันด่านต่างๆ  มามากมายแต่พี่Admision Premium ขอบอกไว้เลยว่านี้เป็นการเริ่มต้นเท่านั้น เพราะว่าเรายังต้องเจออะไรหลายๆ  อย่างในรั้วมหาวิทยาลัย จากพี่ใหญ่ม.6 มาเป็นเฟรชชี่  ซึ่งแน่นอนว่าการเป็นน้องใหม่ก็จะมีอะไรใหม่ๆ ให้น้องต้องได้เจออย่างแน่นอน วันนี้พี่จึงนำ " 7 สิ่งนี้เฟรชชี่ต้องเจอ “ มาฝาก  และน้องๆ จะต้องเจออะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย!!!


 

1. รับน้องใหม่ใส่ๆ แบบเฟรชชี่

การที่เราไปยังที่ต่างๆ  ก็ย่อมได้รับการต้อนรับเสมอ  เช่นเดียวกันกับการเป็นน้องใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยน้องก็จะได้เจอกิจกรรมการต้อนรับที่อบอุ่น สนุกสนานเฮฮาปาจิโก๊ะกันเลยทีเดียว ที่ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ในชีวิตที่มีแค่ครั้งเดียวแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีความแต่ต่างกันไปแล้วแต่ความสร้างสรรค์ของกิจกรรมที่พี่ๆ  อยากต้อนรับน้องๆ บางที่น้องๆ อาจจะได้ออกมาเต้นน่ารักๆ หรืออาจจะแต่งตัวแปลกๆ ก็ว่ากันไป คิดแค่นี้ก็เริ่มสนุกละ


 

2. พี่รหัส-น้องรหัส พี่เทค-น้องเทค

แน่นอนว่าเมื่อเป็นน้องก็ต้องมีพี่ และจะมีพี่ๆ พี่จะเข้ามาดูแลน้องๆ ผ่านสายรหัสนักศึกษาประจำตัวน้องๆ  ซึ่งจะกลายเป็นความผูกพันของพี่น้องร่วมสถาบันจริงๆ รุ่นพี่ที่เป็นพี่รหัส หรือ พี่เทคต้องคอยดูแลช่วยเหลือรุ่นน้องเฟรชชี่ในเรื่องต่างๆ เช่น ยกมรดกหนังสือที่เคยเรียนให้ ช่วยติววิชาต่างๆ แนะนำการเรียน และคอยให้คำปรึกษาในเรื่องการใช้ชิวิตในรั้วมหาวิทยาลันเป็นต้น


3. ทำกิจกรรมมากขึ้น

ในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นจะมีกิจกรรมเยอะแยะมากมายให้เฟรชชี่อย่างน้องๆ ต้องได้เจอทั้งกิจกรรมบังคับของมหาวิทยาลัย  ของคณะ กิจกรรมของชมรม ทั้งหมดนี้เพื่อให้น้องๆ ได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ  เพิ่มมากขึ้น  เช่น กิจกรรมชมรมสนุกๆ ออกค่ายอาสาสร้างฝายปลูกป่า  แจกเสื้อผ้ากันลมหนาว  หรือจะเป็นชมรมละครเวที  กีฬาหรือเชียร์ลีดเดอร์ส ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้แหละที่จะทำให้น้องได้พบปะกับผู้คนมากขึ้นทั้งรุ่นพี่และเพื่อนเฟรชชี่ด้วยกัน

4. เรียนน้อยลง เข้าห้องสมุดเยอะขึ้น

แน่นอนว่าการเรียนที่น้อยลงนั้นอาจจะเป็นในส่วนของวิชาที่ต้องเรียนในแต่ละวันเหลือเพียงวันละ 2 -  3 วิชาเท่านั้น แต่เพิ่มเวลาในการเรียนรู้มากขึ้นจากที่เราเคยเรียนวิชาละ 1 ชั่วโมง ก็เพิ่มเวลาขึ้นเป็น 2 - 3 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว  แต่สิ่งที่สำคัญ คือการหาความรู้ด้วยตัวเองดังนั้นน้องๆจะได้เข้าห้องสมุดเป็นว่าเล่นเลย ก็เปรียบเหมือบ้านหลังที่สองเลยหละ


 

5. อยู่หอครั้งแรกในชีวิต

แน่นอนว่าการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย บางคนต้องห่างจากบ้านเพื่อไปเรียนในมหาวิทยาลัยในฝันจึงจำเป็นต้องห่างจากบ้าน  เพื่อไปพักอยู่หอพัก  ซึ่งอาจจะเป็นครั้งแรกของน้องๆ  หลายคน  และเป็นอีกหนึ่งบททดสอบที่น้องๆ ต้องดูแลรับผิดชอบเองทุกอย่าง รวมถึงการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างต้องรู้จักบริหาร จัดการให้ดี  ก็เปรีบยเหมือนการจำลองชีวิตในวันข้างหน้าของน้องๆ นั้นเอง


ขอบคุณภาพจากwww.girlsallaround.com


6.เป็นตัวเองมากขึ้น

ช่วงเวลามหาวิทยาลัย ถือว่าเป็นช่วงที่น้องๆ  หลายคนอาจจะกำลังค้นหาตัวตนของตนเอง  จึงทำให้น้องสามารถเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น  ทั้งเสื่อผ้า หน้าผม  รวมไปถึงแฟชั่นการแต่งตัว เรียกได้ว่าจัดเต็ม


7.ต้องมีความรับผิดชอบ

แม้วิชาเรียนจะไม่เยอะ  แต่บอกได้เลยว่างานต่างๆ ไม่น้อยตามวิชาเรียนเลย อาจารย์ในมหาวิทยาลัยจะสอนและสั่งงานเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นหน้าที่ของน้องๆ ต้องบริหารจัดการเวลา ส่งงานและอ่านหนังสือให้ทันก่อนสอบด้วยตัวเองล้วนๆ เอง อาจารย์จะไม่มาตามจ้ำจี้งานเราเหมือนสมัยมัธยมอีกแล้ว เพราะท่านถือว่าเราเริ่มเป็นผู้ใหญ่ ต้องดูแลรับผิดชอบตัวเองให้ได้   

     


สิ่งหนึ่งที่พี่อยากจะฝากน้องๆ ไว้คืออยากให้น้องๆ เขาในคำว่ามหาวิทยาลัยอย่างแท้จริง  เพราะจริงๆ การเรียนในมหาวิทยาลัยคือการเรียนรู้ด้วยตนเอง  แสวงหาความรู้ด้วยตัวเอง  รวมถึงยังเป็นสถานที่ๆ มีกการวิจัยต่าง ๆ  เพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม  ดังนั้นอย่างมัวหลงกับความเป็นเฟรชชี่ให้มากนัก  เพราะความเป็นเฟรชชี่มันอยู่กับเราแค่ ปีเดียว แต่การเรียนสิที่ต้องอยู่กับน้องๆ ไปอีกนาน