เปิดเทอมใหม่ ปลุกไฟให้ลุกโชน!!
เพลอแป๊บเดียว เวลาของการพักผ่อนสำหรับปิดเทอมใหญ่ก็หมดไปแบบไม่รู้ตัว น้องๆ หลายคนคงกำลังเพลินกับวันหยุดสุดหรรษาจนลืมไปว่าเดี๋ยวก็จะเปิดเทอมแล้ว "แต่ก็นะยังขี้เกียจอยู่เลย เป้าหมายที่เคยตั้งไว้ก็หล่นหายไปตามทาง ไฟในตัวก็เริ่มหมด แล้วทีนี้จะทำยังไงดี?" วันนี้พี่Admission Premium มีวิธีมาปลุกไฟของน้องให้ลุกโชนอีกครั้ง จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลย!!
1. หาสาเหตุที่ทำให้เราหมดไฟ
สิ่งแรกที่น้องๆ ต้องทำก่อนที่จะลงมือแก้ไขปัญหาอะไร น้องต้องหาสาเหตุของปัญหาเหล่านั้นให้ได้ เพราะฉะนั้น เมื่อน้องรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเรียน กับการเปิดเทอมแบบนี้น้องก็ต้องหาสาเหตุให้เจอว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น เป็นเพราะเรียนไม่ตรงกับใจที่อยากเรียน เพื่อนๆไม่ดี สไตล์การเรียนไม่เวิร์ค บรรยากาศในการเรียนไม่โอเค หรือบางทีต้นตอของปัญหาอาจเกิดอาจจะเป็นเพราะเราขี้เกียจก็ได้นะ จากนั้นก็ลงมือแก้ไขมันซะ
2.ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
แน่นอนการที่น้องๆ จะทำอะไรน้องๆก็ต้องตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน แม้มันจะเป็นครั้งที่ร้อยที่ล้านก็ควรตั้งไว้ เพราะมันช่วยทำให้เราเห็นภาพ ว่าต้องทำอะไร อย่างไร ให้เสร็จเมื่อไหร่ ถ้าพูดง่ายๆ ก็คือมันมีเวลาเป็นตัวบังคับเราให้ไปถึงเป้าหมายนั้นเอง แถมอีกนิด เป้าหมายตามหลัก Smart Goal คือต้องชัดเจน วัดผลได้ บรรลุผลได้จริง อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง มีกำหนดเวลา นะจ๊ะน้องๆ
3. เปลี่ยนสไตล์การเรียนบ้างก็ดีนะ
รู้หรือเปล่าว่าในบางครั้งสไตล์การเรียนอะไรที่เราคิดว่าชอบ คิดว่าใช่ แต่สุดท้ายอาจจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่ชอบได้เหมือนกัน และถ้าเริ่มรู้สึกเบื่อการเรียนแบบเดิมๆ เมือไหร่ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าได้เวลาลองปรับเปลี่ยนสไตล์การเรียนของตัวเองแล้ว เช่น ทุกๆ ครั้งที่เข้าห้องเรียนน้องก็จะนั่งข้างหน้า ก็ลองเปลี่ยนไปนั่งหลังห้องดูบ้าง ควรก้าวออกจาก Comfort Zone แล้วลองทำสิ่งใหม่ ๆ บ้างก็ดีเหมือนกันนะ เพราะบางที่จะหน้าห้องหรือหลังน้องก็ไม่สำคัญ เพราะความรู้อยู่ที่ตัวบุคคลจะไฝ่หา ไม่ใช่สถานที่
4.ทำแบบทดสอบจิตวิทยา
อาจจะแปลกใจ ว่าเห้ย การทำแบบทดสอบจิตวิทยาจะช่วยให้เราเติมไฟตัวเองได้อย่างไร แต่หลายๆ แบบทดสอบเหล่านี้ มักจะช่วยให้เราได้ “รู้จัก” และ “เข้าใจ” ตัวเองมากขึ้น รู้จุดอ่อน จุดแข็ง อะไรไหนที่ชอบ ที่เหมาะกับเรา สภาพแวดล้อมใด งานใด คนลักษณะแบบใด สถานการณ์ไหนที่เราจะเกรงกลัว หรือสถานการณ์ไหนที่จะส่งเสริมเรา เมื่อเราเข้าใจตัวเองมากขึ้น ก็จัดการกับความเหนื่อยล้าหมดไฟในใจได้ดีขึ้นเช่นกัน หรือน้องๆ จะลองทำแบบทดสอบ บุคลิก 16 แบบ จากแบบทดสอบ MBTI ที่ช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น ก็น่าสนใจนะ
5.เช็คลิสเป็นสิ่งสำคัญ
ช่วงที่เราหมดไฟ มักจะเป็นเหมือนช่วง “ดำดิ่ง” ของชีวิต มองไปทางไหนก็มืดแปดด้าน หรือมองอีกแง่ก็คือ เราไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหน จึงเกิดความเครียดขึ้นไปอีก วิธีการแก้ก็คือ มีเช็คลิสให้ตัวเอง คอยสำรวจตัวเองอยู่เสมอว่า เราอยู่จุดไหนแล้ว เป้าหมายของเราคืออะไร ห่างไกลแค่ไหน ถ้าจริงๆ เราใกล้ถึงแล้ว ก็จะถือเป็นกำลังใจกับตัวเอง หรือถ้าเราเห็นว่าจะมีอะไรที่แก้ไข พัฒนาให้ดีขึ้นได้ ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เราทำอะไรบางอย่าง แบบมีจุดหมายไม่ไร้ทิศทาง
6.ดื่มน้ำให้มากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ
สุดท้ายที่สำคัญที่สุด และหลายคนที่รีบประสบความสำเร็จอาจลืมให้ความสำคัญกับสิ่งนี้ ก็คือการทำในสิ่งที่รัก หรือบางคนอาจจะชอบการนอน และการนอนให้เต็มอิ่มคือนอน หยุดคิดเรื่องงาน เรื่องเรียน ให้สมองได้พัก หยุดไถมือถือ ให้ใจได้ห่างโลกที่หมุนเร็วๆบ้าง แล้วนอนหลับอย่างเต็มอิ่ม ตื่นมาสดใสชาร์ทพลังตัวเองต่อไป ไม่ใช่แค่หลับตา แต่การต้องชาร์ทพลังด้วยการหลับอย่างมีคุณภาพ และทำเป็นประจำ
แน่นอนน้องๆ ว่าการพักเพื่อเติมไฟของเราก็มีหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไป ขอให้เลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองลองนำไปใช้กันดูนะ สุดท้ายแล้วอย่าเพิ่งท้อและคิดว่าไฟที่มอด คือตอนจบที่ไม่อาจจุดขึ้นมาให้ลุกโชนได้อีกแล้ว ขอให้เชื่อในตัวเอง ยึดมั่นในความฝัน เขาทำได้ เราก็ต้องทำได้ สู้นะเด็กๆ
>>www.medium.com
>>www.mangozero.com