สัมภาษณ์ยังไงให้พิชิตใจกรรมการ

      อีกไม่นานกับการเปิดรับสมัคร TCAS รอบแรกน้องๆ หลายคนคงกำลังทำ Portfolio เพื่อเข้าเรียนคณะที่ใช่ในสาขาที่ชอบ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่พี่อยากให้น้องๆ ได้เตรียมตัวไว้คือประตูด่านถัดไปกับการสอบสัมภาษณ์ที่จะพาน้องๆ ไปถึงฝั่งฝัน โดยวันนี้พี่มีแนวคำถามและเทคนิคในการตอบคำถามเพื่อพิชิตใจกรรมการมาฝากน้องๆ เพื่อจะได้เตรียมตัวกันก่อน






​
 

1. คำถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว

       เป็นคำถามแรกที่ต้องเจอแน่นอน สิ่งแรกที่น้องๆ ควรทำนั้นคืออย่า Panic เด็ดขาดตั้ง Focus ให้ดีแล้วเริ่มตอบคำถาม พี่ว่าจริงๆ แล้วส่วนนี้ก็คงไม่เชิงคำถามมากมายแต่เป็นการแนะนำตัวพูดข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ - สกุล , ชื่อเล่น , การศึกษา , ความสนใจ หรือแม้กระทั่งความสามารถพิเศษ เทคนิคในจุดแรกนั้นคือ ความเป็นธรรมชาติเป็นตัวของตัวเอง เพราะเวลาเราเป็นตัวของตัวเองทุกๆ อย่างมันจะลื่นไหลไปเอง
       แหนะ!!! น้องอย่าลืมนะครับนี้คือคำถามแรกที่น้องๆ จะเจอ ฉนั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่น้องๆ ควรสร้าง First impression หรือ ความประทับใจครั้งแรกด้วยการ ยิ้ม ไหว้ ทักทาย แต่งกายให้เรียบร้อยนั้นเองจ้า



​
 

2. คำถามเกี่ยวกับเหตุผลที่มาเรียนคณะหรือสาขานี้

      แน่นอนสิ่งที่น้องๆ ต้องเจอในคำถามถัดไปเรียกได้ว่าเป็นคำถามชี้ชะตากันเลยทีเดียวนั้นคือ ทำไมถึงเลือกมาเรียนคณะนี้? หรือสาขานี้? โดยส่วนมากน้องๆ หลายคนคงจะตอบว่า เป็นคณะที่ฝัน เป็นสาขาที่อยากมาเรียน ซึ่งมันไม่ว้าว! เพราะใครๆ เขาก็ตอบกัน เทคนิคที่พี่อยากแนะนำนั้นคือ น้องต้องแสดงให้กรรมการเห็นถึง Mindset เพราะ Mindset เป็นสิ่งที่แยกคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตออกจากคนที่ยังไม่รู้แม้แต่ความฝันของตัวเอง พี่เชื่อว่ากรรมการต้องว้าวและอาจทำให้น้องๆ ก้าวขาเข้าไปแล้ว 50 % 



​
 

3. คำถามเกี่ยวกับการเรียนการสอนภายในคณะที่น้อง ๆ เลือกเรียน

      น้องๆ หลายคนอาจจะงงว่าจะถามทำไม? ก็อย่างที่บอกไงครับ ว่านั้นคือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการศึกษาค้นคว้าว่าน้องได้มีการศึกษาข้อมูลเบื่องต้นเกี่ยวกับคณะหรือสาขาที่อยากเรียนมาหรือเปล่า เตรียมตัวพร้อมแค่ไหนเกี่ยวกับการเรียน น้องอาจจะต้องศึกษาหาข้อมูลเชิงลึกสักหน่อย แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นเลยทีเดียว
      อ๊ะๆ สิ่งที่สำคัญในการตอบคำถามข้อนี้นั้น คือ ห้ามแถเด็ดขาดนะจ๊ะ เพราะถ้าแถไปพลาดแน่นอน และหากเราไม่รู้ให้น้องตอบในเชิงว่า เท่าที่ทราบมา...  หรือ ถ้าไม่รู้จริงๆ ก็บอกไปเลยว่า จะไปศึกษาหาข้ออมูลเพิ่มเติมในส่วนนี้



​
 

4. คำถามเกี่ยวกับงานอดิเรก หรือกิจกรรมที่น้องๆ เคยทำมา

      คำถามในส่วนนี้จะเป็นตัวที่ช่วยบ่งบอกถึง EQ ของน้องๆ ในการอยู่ร่วมกับสังคมการใช้ชีวิตและการปรับตัว สำหรับเด็กกิจกรรมคำถามนี้ถือว่าได้เปรียบเลยหล่ะ ข้อนี้ทริกของการตอบ คือ น้องๆ อาจจะต้องตอบสร้างภาพเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำให้สอดคล้องกับคณะที่จะเข้า หรือถ้าน้องๆ จะตอบแบบตรงๆ ก็ขอให้คุณน้องอธิบายเพิ่มเติมไปว่า เพราะอะไรถึงเข้าร่วมและกิจกรรมที่ทำมีประโยชน์อะไรบ้าง




​
 

5. คำถามวัดกึ๋น!!

      แน่นอนคำถามเหล่านี้จะเป็นคำถามวัดกึ๋นปฏิภาณไหวพริบของน้องๆ ว่าน้องนั้นมีปฏิภาณไหวพริบดีแค่ไหน เพราะเป็นการวัดEQ เกี่ยวกับการจัดการกับอารมณ์ที่อยู่ในภาวะกดดันแนวการตอบที่น้องๆ ควรจะตอบแบบเป็นแผน เช่น แผน A ให้น้องบอกไปเลยถึงความตั้งใจที่อยากติดคณะนี้จริงๆ แสดงจุดยืนของตัวเองให้ชัดเจน หรือจะเป็นแผน B ที่เตรียมไว้คือ คงต้องปรึกษาทางบ้าน หรือ รอรอบต่อไป เป็นแผนสำรองของเราก็บอกไป จุดสำคัญของคำถามข้อนี้คือขอให้น้องๆ ควบคุมอารมณ์ ตอบด้วยความมั่นใจยิ้มไว้เยอะๆ อย่างน้อยก็ทำให้กรรมการเห็นว่าเราสามารถควบคุมสติได้ และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ

       สุดท้ายแล้วในการสัมภาษณ์ยังต้องมีสิ่งภายนอกอีกที่น้องๆ ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวให้พร้อมดูเรียบร้อย เตรียมเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ให้พร้อม การเข้าห้องสัมภาษณ์ควรเคาะประตูสักเล็กน้อย เวลาสัมภาษณ์ยิ้มเยอะ ๆ สบสายตากับกรรมการให้บ่อยๆ ติดตามข่าวสารบ้านเมือง และสิ่งที่สำคัญนั้นคือน้องๆ ต้องบอกตัวเองไว้เลย
I can do it