สอบเข้ามหาวิทยาลัย

10 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้! ของหน้ากากอีกาดำ "เอ๊ะ จิรากร"

UploadImage

หลังจากที่แข่งขันมาเป็นเวลาหลายเดือน ล่าสุดรายการ The Mask Singer ก็เดินทางมาถึงรอบสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทุกสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ผู้เข้าแข่งขันหน้ากากอีกาดำอย่างพี่ เอ๊ะ จิรากร ก็ได้แสดงความสามารถในการร้องเพลงที่ทำให้หลายคนทึ่งกันมาก จนทำให้หลายคนอยากรู้จักพี่เอ๊ะกันมากขึ้น โดยพี่เอ๊ะยังบอกในรายการว่า 
 
"สาเหตุที่เลือกใส่หน้ากากอีกาดำ เพราะชอบหนังเรื่อง เดอะโครว์ อีกาพญายม และที่ตัดสินใจรับมารายการนี้ ต้องขอบคุณทางเวิร์คพอยท์ ที่ทำให้ความฝันผมเป็นจริง

UploadImage
 
AdmissionPremium  ได้รวบรวม 10  เรื่องที่คุณอาจไม่รู้! ของหน้ากากอีกาดำ "เอ๊ะ จิรากร" มาฝากให้น้องๆ ได้ติดตามกันต่อมาด้วย
 
1. ชื่นชอบเเนวเพลงร็อก และเคยทำงานกับวงใต้ดินมาก่อน

จุดเริ่มต้นในการเป็นศิลปินของคุณเอ๊ะนั้น เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าในอดีตนั้นเขาเคยทำงานกับศิลปินแนวเมทัลและวงใต้ดินมามากมาย และเคยมีโอกาสได้ทำงานกับวง Dezember กับ Heretic ด้วย ก่อนที่จะได้ทำวง NTL (NOTHING TO LOSE) ขึ้นมา 
UploadImage

2. เคยอยู่กับค่ายเพลงในเครือ RS เป็นเวลานานถึง 3 ปี

ก่อนหน้าที่จะมาเซ็นสัญญากับค่ายแกรมมี่นั้น คุณเอ๊ะ จิรากร เคยได้อยู่ค่ายเพลง Monster Music ในเครือ RS ที่ดูแลโดยศิลปินรุ่นใหญ่อย่างคุณ เจี๊ยบ พิสุทธิ์ มาก่อน โดยเขาได้อยู่กับค่ายเป็นเวลาสามปีโดยไม่มีผลงานออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน ก่อนที่ค่ายจะปิดตัวลง ซึ่งเรื่องราวนี้นั้นตรงกับที่หน้ากากอีกาดำนั้นพูดในรายการ The Mask Singer ตอนตอบคำถามด้วย

3.หั่ง Potato เป็นคนที่ชักชวนให้เขามาร้องไกด์ให้กับวงโปเตโต้ และ ฟองเบียร์ 

หลังจากที่ได้แยกทางกับค่ายเก่านั้น คุณเอ๊ะก็ได้มาเป็นศิลปินฝึกหัดในค่าย UP G จากการชักชวนของเพื่อนนักดนตรี และมีโอกาสได้พบกับ หั่ง Potato อดีตโปรดิวเซอร์ที่กลายมาเป็นมือกีต้าร์ของวงโปเตโต้ โดยหลังจากนั้นเขาก็ได้มาร่วมร้องไกด์ให้กับเพลงของวงโปเตโต้หลายๆเพลง อย่างเช่นซิงเกิ้ล รักเธอไปทุกวัน จนได้ร่วมงานกับนักแต่งเพลงอย่าง ฟองเบียร์ ปฏิเวธ ในฐานะนักร้องไกด์
 
UploadImage

4. การเปิดเพลงผิด ทำให้กลายเป็นศิลปินเต็มตัวในที่สุด 

หลังจากที่คุณเอ๊ะได้มาร่วมงานกับฟองเบียร์ได้ระยะหนึ่ง สัญญาเขาก็ใกล้หมด คุณฟองเบียร์เองเลยตัดสินใจแต่งเพลงขึ้นมาชื่อว่าเพลง ไม่มีตรงกลาง เพื่อให้คุณเอ๊ะได้นำไปร้องในฐานะศิลปินอิสระหลังหมดสัญญา ซึ่งหลังจากที่เพลงเสร็จไม่นาน คุณฟองเบียร์ก็มีโอกาสได้พบกับ กู๋ ไพบูลย์ ผู้บริหารค่ายแกรมมี่ และในการพบเจอครั้งนั้นอากู๋ได้ขอฟังผลงานเพลงใหม่ที่คุณฟองเบียร์เขียนให้กับวงโปเตโต้ แต่คนเปิดเพลงนั้นดันเปิดเพลง ไม่มีตรงกลาง ขึ้นมา ซึ่งอากู๋นั้นชอบเพลงดังกล่าวและเสียงของคุณเอ๊ะมาก จนทำให้เขาได้มีผลงานในฐานะคนเบื้องหน้าในที่สุด หลังจากที่อยู่กับแกรมมี่มา 8 ปี 

5. ผลงานเพลง "ใจกลางความรู้สึกดีดี" และ "จากนี้ไปจนนิรันดร์" ของเขานั้นเคยเป็นเพลงของศิลปินท่านอื่นมาก่อน

ถ้าพูดถึงผลงานเพลงที่เป็นเหมือนโลโก้ประจำตัวของ เอ๊ะ จิรากร นั้น หลายคนจะต้องนึกถึงเพลง ใจกลางความรู้สึกดีๆ และ จากนี้ไปจนนิรันดร์ แน่นอน แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า ก่อนหน้านี้นั้นคุณฟองเบียร์ได้แต่งทั้งสองเพลงนี้ขึ้นมา เพื่อโปรเจ็คอื่น โดยเพลง ใจกลางความรู้สึกดีดี นั้นตอนแรกเป็นเพลงที่คุณฟองเบียร์แต่งขึ้นมาให้กับเอเจนซี่ เพื่อใช้กับโฆษณารถมอเตอร์ไซค์ แต่สุดท้ายแล้วเพลงนี้นั้นไม่ได้ถูกนำไปใช้ และได้กลายมาเป็นเพลงฮิตของคุณเอ๊ะในที่สุด
ส่วนเพลง จากนี้ไปจนนิรันดร์ นั้นในตอนแรกเคยเป็นเพลงที่คุณ โดม ปกรณ์ ลัม ให้คุณฟองเบียร์แต่งขึ้นมาเพื่อใช้กับละครเรื่อง รักไม่มีวันตาย แต่ในตอนหลังนั้นคุณโดมก็ได้เลือกใช้เพลงอื่นแทนเพราะเพลง จากนี้ไปจนนิรันดร์ นั้นขาดฟีลความเป็นร็อก จนทำให้เพลงนี้นั้นได้กลายเป็นผลงานของคุณเอ๊ะในอัลบั้มชุด Love pill ในที่สุด และกลายเป็นซิงเกิ้ลที่ได้รับความนิยมมากตามงานแต่งงาน  

 

6.ผลงานเพลงของเขานั้น เป็นเพลงรักฟีลกู้ดเกือบทั้งหมด  

ใครที่เป็นแฟนเพลงของ เอ๊ะ จิรากร นั้น อาจจะสังเกตว่า ผลงานเพลงของคุณเอ๊ะนั้นเป็นเพลงรักแนวสมหวังเกือบทุกเพลงเลย ไม่ว่าจะเพลง ใจกลางความรู้สึกดีๆ, ไม่มีตรงกลาง, ระหว่างเราสองคน โดยที่ผ่านมานั้นคุณเอ๊ะเคยร้องเพลงเนื้อหาเศร้าเพียงแค่สองครั้ง ซึ่งก็คือเพลง ตั้งใจ และ ด้วยความปราถนาดี ซึ่งทั้งสองเพลงนั้นก็ยังมีกลิ่นอายความมองโลกในแง่ดีซ่อนอยู่ แต่ถึงจะไม่ได้ทำผลงานเพลงร็อกออกมา คุณเอ๊ะก็ยังคงร้องเพลงร็อกเวลาขึ้นคอนเสิร์ตหลายๆงาน ซึ่งทำให้เขาเป็นศิลปินที่มีงานจ้างเยอะมาก เพราะความสามารถในการร้องและให้ความบันเทิงที่ค่อนข้างหลากหลาย

7. จบศึกษาศาสตร์ แต่ไม่ได้เป็นครูเลยสักนิด

เรียนที่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เขาเรียน 4 ปี พี่เอ๊ะจัดไป 5 ปี

8. ฉายา “เอ๊ะ ร้อยเสียง”

พี่เอ๊ะเลียนเสียงเก่งมาก จนได้ฉายา “เอ๊ะ ร้อยเสียง” ไม่ว่าจะเสียงอาแอ๊ด คาราบาว, อัสนี-วสันต์, ติ๊ก ชีโร่, พี่โต ซิลลี่ฟูลส์ แต่ถ้าให้เป๊ะสุดๆ เลยก็คือเสียงพี่โจ้ วงพอส นี่แหละ เป๊ะไปยันเสียงหัวเราะขนาดที่พี่ๆ วงพอสยังคอนเฟิร์ม และชวนให้พี่เอ๊ะไปขึ้นคอนเสิร์ตร้องแทนเสียงพี่โจ้เลย
 
UploadImage
 

9. เป็นเจ้าพ่อโปรเจกต์

ไม่ได้เป็นแค่นักร้อง แต่พี่เอ๊ะยังมีกิจการอื่นๆ ด้วยนะ ทั้งร้าน เอ๊ะเอ๊ะ ทะเลนึ่ง ขายอาหารทะเลสดๆ แซบๆ และร้าน Shoes Wish ขายรองเท้าผู้หญิงปังๆ ก่อนหน้านี้ก็เคยขาย CC Cream ผสมน้ำผึ้งยี่ห้อ Betty Bee ด้วย ถือเป็นเจ้าพ่อโปรเจ็กต์ตัวจริงเลย
 
UploadImage
 


10. แต่งานแล้ว มีลูกน่ารักมาก

พี่เอ๊ะแต่งงานแล้วกับภรรยาที่สวยมาก และมีลูกๆ ที่น่ารักถึง 2 คนด้วยกัน คือน้องเอญ่าและน้องพีเจ รวมถึงน้องของขวัญที่เกิดกับภรรยาเก่า เรียกได้ว่ามีทายาทเสียงดีเต็มไปหมดเลย
 
 

ชอบๆ555 ทุกคนดูสนใจคุณแม่

โพสต์ที่แชร์โดย aejirakorn (@aejirakorn) เมื่อ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก : sanook.com,IG : aejirakorn , IG :ayachompoo , แฟนเฟสบุ๊ค The Mask Singer , Ae Jirakorn