สอบเข้ามหาวิทยาลัย

บริษัทจีนผลิตหัวปากกาลูกลื่นสำเร็จ ลากเส้นยาว 800 เมตรไม่มีสะดุด

บริษัทจีนผลิตหัวปากกาลูกลื่นสำเร็จ  ลากเส้นยาว 800 เมตรไม่มีสะดุด “หัวปากกาลูกลื่น” ที่ผลิตโดย “ไท่หยวน ไอร่อนแอนด์สตีล”(ภาพซินหวา) ซั่งไห่อิสต์ สื่อทางการจีนรายงาน (11 ม.ค.) บริษัทจีนวิจัยการผลิตหัวปากกาลูกลื่นได้สำเร็จหลังซุ่มวิจัยนาน 5 ปี

 
UploadImage
 
       
    วันอังคารที่ผ่านมา  (10 ม.ค) “ไท่หยวน ไอร่อนแอนด์สตีล” (Taiyuan Iron & Steel : TISCO) บริษัทผู้ผลิตเหล็กและเหล็กกล้าชั้นนำของจีนประกาศว่า ได้วิจัยการผลิต “หัวปากกาลูกลื่น” ได้เป็นผลสำเร็จ หลังจากที่ได้ทุ่มทุนวิจัยมานานนับ 5 ปี     

   รายงานระบุว่า ประเทศจีนเป็นประเทศผู้ผลิตปากกาลูกลื่นที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก ด้วยจำนวนการผลิตปากกามากกว่า 3.8 หมื่นล้านด้ามต่อปี แต่ที่ผ่านมาจีนกลับไม่สามารถผลิตหัวปากกาลูกลื่นที่มีคุณภาพได้ เนื่องจากกระบวนการผลหัวปากกามีความซับซ้อนมากถึง 20 ขั้นตอน จึงต้องนำเข้าหัวปากกาจากประเทศญี่ปุ่น นับเป็นมูลค่า 17 ล้านดอลล่าร์ หรือราว 600 ล้านบาทต่อปี
       
   บริษัทไท่หยวนเปิดเผยว่า ผลสำเร็จของการวิจัยจะทำให้ประเทศจีนสามารถพึ่งพาตนเองในการผลิตปากกาได้ โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถผลิตหัวปากกาทดแทนการนำเข้าได้ทั้งหมดภายในเวลา 2 ปี 
       
  ทั้งนี้ ผลการทดสอบคุณภาพในห้องทดลองชี้ว่าหัวปากกาของบริษัทไท่หยวน สามารถลากเส้นได้ยาว 800 เมตรโดยไม่ขาดตอน มีคุณภาพทัดเทียมกับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ

 

ปากกาลูกลื่น เกิดขึ้นได้อย่างไร ? 

    การเขียนโดยใช้ปากกาเป็นวัฒนธรรมยุโรป แรกเริ่มเดิมทีใช้ขนนกบางชนิดที่ดูดหมึกได้เขียน ต่อมาก็พัฒนาเป็นเอาปากกาเหล็กแหล่มๆมาสวมที่ปลายขนนก ให้เส้นที่ได้มันคมขึ้น แล้วก็กลายมาเป็นปากกาหมึกซึม ซึ่งมีปัญหามาก ต้องพกขวดหมึก เขียนไปต้องคอยดูดหมึก และเลอะเทอะไปหมด


   คนที่คิดปากกาลูกลื่นได้ชื่อ ลาซาโล บิโร (László Bíró) นักหนังสือพิมพ์ชาวฮังกาเรี่ยน มีชีวิตอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งมีปัญหาเหมือนชาวยุโรปอื่นๆ คือรำคาญปากกาเดิมที่สกปรก ต้องเติมหมึก บิโร พบว่าหมึกที่ใช้พิมพ์หนังสือพิมพ์มันแห้งเร็วดี น่าจะไม่เลอะ แต่ก็มีปัญหาคือพอเอาไปใส่ในปากกาแบบเดิม มันดันไม่ไหลออกมา ด้วยความช่วยเหลือของพี่ชายที่เป็นนักเคมี ก็เลยพัฒนาปากกาที่มีลูกเหล็กอยู่ที่ปลายขึ้นมา

    ต่อมา ปี 1940 ปิโรหนีพวกนาซีไปที่อาเจนตินา และจดสิทธิ์บัตร เพื่อขายปากกาลูกลื่นที่นั่นและเมื่อ มิลตั้น เรย์โนด์ (Milton Reynolds) นักธุรกิจชาวอเมริกันเห็นปากกาของปิโรว่าใช้งานดีมาก แถมยังไม่ได้จดสิทธิบัตรที่สหรัฐอเมริกา ก็เลย
ก็อปไปจดซะเลย

   ต่อมา เรย์โนด์ ก็ขายปากกาลูกลื่นที่อเมริกาจนรวยสัสๆ พัฒนาปากกาลูกลื่นให้หัวเล็กลง เขียนไม่สะดุด และทำปากกาที่เห็นอยู่ในรูปนี้ขายทั่วโลก แล้วความยากของมันอยู่ตรงไหน ?


   ปัญหาคือส่วนปลายของปากกาลูกลื่นนั้นต้องใช้โลหะทำหัวปากกา และลูกบอลขนาดเล็กมากๆครับ  ลูกบอลต้องกลมดิ๊ก  พอดีกับหัวปากกา  ทั้งหมดต้องแข็งแรงทนแรงกดของมือได้โดยไม่เสียรูป เมื่อผู้บริโภคต้องการปากกาที่เขียนมาให้เส้นขนาด 0.5-0.3 มิลลิเมตร ทำให้มันเป็นไปไม่ได้เลยด้วยการทำงานของมือมนุษย์ ต้องใช้เครื่องจักรที่มีความแม่นยำสูงมากๆ เท่าน้น  แล้วยังต้องมีโจทย์เรื่องการผลิตจำนวนมากให้เท่ากันหมด และคุ้มทุนในการทำเป็นอุตสาหกรรม ประเทศที่ผลิตหัวปากกาแบบนี้ได้ตอนนี้บนโลกมีแค่ ญี่ปุ่น เยอรมัน และสวิตเซอร์แลนด์ เท่านั้น


   โรงงานปากกาทั่วโลกต้องนำเข้าหัวปากกาจากประเทศเหล่านี้ แต่ทำส่วนหมึก และตัวด้ามเอง ( ข้อมูลบางส่วนจาก แฟนเพจ Starless Night - Harit Mahaton )


   และบางความเห็นของสมาชิก Pantip ที่รับทราบเรื่องราวนี้จาก กระทู้ Pantip ได้มองว่า 

"  สิ่งที่เขาได้คือองค์ความรู้ในการผลิตวัสดุที่คงทนสุดๆ
และการขึ้นรูปโลหะขนาดเล็กที่ต้องใช้ความแม่นยำสูง
ไปจนถึงองความรู้ในการค้นคว้าและพัฒนา
มันมากกว่าแค่หัวปากกาลูกลื่นที่เขาได้รับ " 

 
 
UploadImage
 

     ซึ่งพี่จ๋า Admission Premium  ค่อนข้างเห็นด้วยกับความเห็นข้างต้นนะ  เพราะสิ่งที่ประเทศจีนเขาได้รับ คือองค์ความรู้ใหม่ที่มันมีค่ามากกว่า "การทำหัวปากกาลูกลื่น" สำเร็จ  แต่ก็ไม่แน่นะ ต่อไปอาจจะเขาอาจะรับจ้างผลิตเองก็ได้ในอนาคต จริงไหม ? 


   ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://pantip.com/topic/36018124 ,  Starless Night - Harit Mahaton , ผู้จัดการ online