สวัสดีค่ะ จากที่ห่างหายกันไปนาน พี่จ๋า AdmissionPremium ได้กลับมาแล้วค่ะ ที่หายไปไปเก็บข้อมูลเจาะลึกอาชีพจริงมาฝากน้องๆกันจ้า โดยในบทความนี้พี่จะกล่าวถึง " Second Job " หรือ คนที่มีสองอาชีพนั่นเองค่ะ โดยพี่ว่าบางคนที่พี่รู้จักเขาก็ไม่ได้งานที่ตรงกับสายเรียนแต่เขาประสปความสำเร็จในชีวิตได้ตั้งมากมาย และหนึ่งในนั้น พี่จะหยิบยก "คนสองอาชีพ" เอามาฝากเพื่อเปิดมุมมองให้กับน้องๆ ในเรื่องของอาชีพ
บุคคลแรก :
Makeup Artist & เจ้าของธุรกิจร้านสักคิ้ว
พี่ฟริ้น ได้ฝึกงานกับ บ.แอ๊กแซก และได้มีโอกาสแต่งหน้า ทำผม ให้กับพี่วู้ดดี้ จากนั้นมาก็เลยกลายเป็นช่างประจำตัวของพี่วู้ดดี้มาจนถึงทุกวันนี้ และจากนั้นมาเริ่มมาเปิดร้านของตนเอง โดยทำธุรกิจสักคิ้ว ทำหน้า แต่งผม ทำธุรกิจมาได้ถึง 3 ปี สามารถสร้างบ้านได้ มูลค่า 11 ล้าน จากที่ตั้งใจจะสร้างบ้านให้คุณพ่อ คุณแม่ ไว้ที่ 3 ล้าน โดยพี่ฟริ้นยังบอกอีกว่า วิชาเรียนทีได้เอามาปรับใช้ในการทำร้านของตนเอง คือวิชา การสื่อสารการตลาด และวิชาการประชาสัมพันธ์ เช่น โปรโมทร้านตนเอง ทำโปรโมชั่นต่างๆ
บุคคลที่ 2 : นักพากย์ & ธุรกิจขายของเล่น
พี่ไบค์ เล่าว่าเริ่มจากตอนเด็ก ชอบหยิบจับการ์ตูนมาพากย์เล่น บวกกับตัวเองได้มาเรียนวิชาวาทะ ก็ยิ่งจุดประกายความชอบให้กับตัวเขาเอง จนกลายมาเป็นอาชีพ "นักพากย์" ระหว่างที่เรียนชั้นปีที่ 2 ได้เปิดร้านธุรกิจขายของเล่นของตนเอง และได้นำความรู้ทีได้
ระหว่างเรียนนั้นมาปรับใช้กับธุรกิจของตนเอง ก็คือวิชาการตลาดเชิงบูรณาการและการจัดการธุกิจ และยังเปิดเพจของตนเองขึ้นมาชื่อว่า Pony THShop โดยได้ทำคลิปวิดีโอของตนเองขึ้นเพจที่มีคนชมมากว่า 4 หมื่น ก็ได้คววามรู้จากการเรียนสาขาภาพยนตร์ ฯ นำมาปรับใช้
บุคคลที่ 3 ติ่งเกาหลี&ฟรีเเลนซ์
พี่เฟรม เริ่มจากการทำงานฟรีแลนซ์เพื่อที่อยากจะเรียนรู้การใช้ชีวิตนอกมหา'ลัย อย่างจริงจัง โดยได้มีโอกาสทำพวก Production House ได้จับงานโฆษณาชิ้นใหญ่เลยคือ โฆษณาตึกของ AIA เป็นงานของชาวต่างชาติ ต่อจากนั้นมาได้ทำงานที่ต้องส่งอาจารย์ โดยพื้นฐานเป็นคนชอบเกาหลี ชอบบรรยากาศเกาหลี จึงได้นำความชอบของตนเองมาถ่ายทอดเป็นร้านบรรยากาศสไตล์เกาลี ทำงานส่งอาจารย์ และเป็นจุดเริ่มต้นของร้านอาหารติ่งเกาหลี ที่มีสาขาทั้งหมด 8 สาขาและกำลังเปิดที่สปป.ลาว พี่เฟรมยังบอกว่า
"ถ้าตั้งใจจริงแล้ว ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ขอแค่กล้าคิด กล้าทำ "
บุคคลที่ 4 สาวสื่อสารองค์กร กับธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้า
พี่แซ คนที่มองเห็นโอกาสทางเทคโนโลยี จึงจับธุรกิจที่มีอยู่แล้วคือร้านร้านเสื้อผ้าในแบรนด์ของตนเอง เพิ่มมาเป็นการขายออนไลน์ ซึ่งยอดขายที่ได้มากกว่ายยอดขายหน้าร้านเสียอีก ตรงนี้จึงเป็นรายได้เสริมนอกจากงานหลักที่ทำอยู่ พี่แซยังบอกอีกว่า "กล้าที่จะคิด กล้าที่จะทำ ก็ไม่ต้องกลัว และ ทุกการทำงานย่อมมีอุปสรรค และการที่จะได้ไกลนั้นต้องมีใจรักจริงๆ "
จากทีอ่านรื่องราวของพี่ๆ คนสองอาชีพแล้ว น้องๆจะเห็นได้ว่า งานที่เริ่มต้นของพี่ๆเขานั้น เริ่มมาจาก ใจที่รักจริง บวกกับความกล้า และการนำความรู้ที่ได้เรียนมาประยุกต์ใช้ในการทำงานในอาชีพของตนเอง น้องๆละคะ มีความฝันอะไรกันมั่ง ลองร่างความฝันของตนเองคร่าวๆ ดูก่อนก็ได้ค่ะ ไม่แน่นะ น้องๆอาจจะเป็นคนสองอาชีพในอนาคตหรือเร็วกกว่านั้นน้องๆอาจจะเริ่มต้นได้ตั้งแต่ตอนเรียนที่มหาวิทยาลัยก็เป็นได้
เรื่องราวคนสองอาชีพ