“ตามโลกให้ทันกับการเรียน MBA ในยุคดิจิทัล” รีวิวหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต CIBA : U-REVIEW
“วิสัยทัศน์” หนึ่งในชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ที่จะประกอบสร้างตัวตนของผู้บริหาร และยิ่งสำคัญขึ้นไปอีกในโลกที่เทคโนโลยีผลักดันให้ทุกอย่างก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ผู้บริหารจึงต้องมีวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้า ตามให้ทันความเปลี่ยนแปลง ทันสถานการณ์ หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต CIBA มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จึงมีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้มีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้นักศึกษาที่จะจบออกไปเป็นนักธุรกิจ นักศึกษาที่เป็นนักธุรกิจอยู่แล้ว หรือนักศึกษาที่กำลังจะก้าวสู่การเป็นผู้บริหารได้เรียนรู้ในสิ่งที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุด ตามโลกให้ทันกับการเรียน MBA ในยุคดิจิทัล
สำหรับการเรียนหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตนั้น ปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของการตลาดยุคดิจิทัล และนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงกระบวนการเรียนที่จะลดการสอบให้มากที่สุด หรือบางวิชาอาจจะไม่มีการสอบ แต่จะเป็นการเรียนที่นำปัญหาอุปสรรคในการทำงาน หรือสิ่งที่พบเจอในธุรกิจของนักศึกษามาเป็นกรณีศึกษา ฉะนั้นนักศึกษาจะได้เรียนในสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้จริงๆ ในเรื่องที่ใกล้ตัวจริงๆ อีกทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานในบริษัท และบริษัทของนักศึกษาเองด้วย
“เราเปลี่ยนรูปแบบการเรียนไปมาก ให้เป็นลักษณะที่ลดการสอบไปให้ได้มากที่สุด
ต้องเข้าใจว่าคนที่มาเรียน MBA นั้นเป็นคนทำงาน”
ดร.รชฏ ขำบุญ
ผู้อำนวยการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากทางมหาวิทยาลัยเปิดมายาวนาน ทำให้มีบุคลากรทางการศึกษาที่เพียงพอ มีความสมดุลกับปริมาณของนักศึกษา และยังมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากสายงานโดยตรงมาให้ความรู้เพิ่มเติม แชร์ประสบการณ์ที่แตกต่างจากในห้องเรียน สิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างในการเรียน MBA ที่นี่คือการไปดูงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อไปดูวิธีการบริหารงานในบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่
โดยการเรียนจะมีการเรียนในวันเสาร์วันเดียวเท่านั้น เพื่อให้เหมาะกับบุคคลในวัยทำงาน แต่อาจจะมีบางครั้งที่จะเรียนวันธรรมดาปกติเพิ่มเติม ให้จบการศึกษาในระยะเวลา 1 ปีครึ่ง หรือ 18 เดือน ทำให้นักศึกษาพร้อมออกไปทำงานได้ในเวลาที่เร็วที่สุด
วิสัยทัศน์ที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง อาจฟังดูยากจะเข้าใจ ยากต่อการเข้าถึง แต่ที่จริงแล้วสิ่งที่เรียกว่าวิสัยทัศน์ที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงนี้มีอยู่ในทุกสิ่งรอบตัว และใกล้ตัวกว่าที่ใครคิด เพียงแต่เราต้องมองให้ออก รู้จักการเรียนรู้ เข้าใจความเปลี่ยนแปลง มองหาแนวโน้มความเป็นไปในอนาคต แล้วนำไปปรับใช้กับสิ่งต่างๆ นำไปแก้ปัญหาร้อยแปด เพียงเท่านี้อุปสรรคที่กว่าหนักหนาก็ไม่ต่างจากบันไดให้ก้าวข้าม
สำหรับการเรียนหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตนั้น ปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของการตลาดยุคดิจิทัล และนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงกระบวนการเรียนที่จะลดการสอบให้มากที่สุด หรือบางวิชาอาจจะไม่มีการสอบ แต่จะเป็นการเรียนที่นำปัญหาอุปสรรคในการทำงาน หรือสิ่งที่พบเจอในธุรกิจของนักศึกษามาเป็นกรณีศึกษา ฉะนั้นนักศึกษาจะได้เรียนในสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้จริงๆ ในเรื่องที่ใกล้ตัวจริงๆ อีกทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานในบริษัท และบริษัทของนักศึกษาเองด้วย
“เราเปลี่ยนรูปแบบการเรียนไปมาก ให้เป็นลักษณะที่ลดการสอบไปให้ได้มากที่สุด
ต้องเข้าใจว่าคนที่มาเรียน MBA นั้นเป็นคนทำงาน”
ดร.รชฏ ขำบุญ
ผู้อำนวยการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากทางมหาวิทยาลัยเปิดมายาวนาน ทำให้มีบุคลากรทางการศึกษาที่เพียงพอ มีความสมดุลกับปริมาณของนักศึกษา และยังมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากสายงานโดยตรงมาให้ความรู้เพิ่มเติม แชร์ประสบการณ์ที่แตกต่างจากในห้องเรียน สิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างในการเรียน MBA ที่นี่คือการไปดูงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อไปดูวิธีการบริหารงานในบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่
โดยการเรียนจะมีการเรียนในวันเสาร์วันเดียวเท่านั้น เพื่อให้เหมาะกับบุคคลในวัยทำงาน แต่อาจจะมีบางครั้งที่จะเรียนวันธรรมดาปกติเพิ่มเติม ให้จบการศึกษาในระยะเวลา 1 ปีครึ่ง หรือ 18 เดือน ทำให้นักศึกษาพร้อมออกไปทำงานได้ในเวลาที่เร็วที่สุด
วิสัยทัศน์ที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง อาจฟังดูยากจะเข้าใจ ยากต่อการเข้าถึง แต่ที่จริงแล้วสิ่งที่เรียกว่าวิสัยทัศน์ที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงนี้มีอยู่ในทุกสิ่งรอบตัว และใกล้ตัวกว่าที่ใครคิด เพียงแต่เราต้องมองให้ออก รู้จักการเรียนรู้ เข้าใจความเปลี่ยนแปลง มองหาแนวโน้มความเป็นไปในอนาคต แล้วนำไปปรับใช้กับสิ่งต่างๆ นำไปแก้ปัญหาร้อยแปด เพียงเท่านี้อุปสรรคที่กว่าหนักหนาก็ไม่ต่างจากบันไดให้ก้าวข้าม