หน้าแรก คลังความรู้ การพัฒนาตนเอง

คิดจะเรียนเภสัช ต้องไม่พลาด 15 เรื่องสำคัญสำหรับสายเภสัช

วันที่เวลาโพส 18 พฤศจิกายน 67 14:01 น.
อ่านแล้ว 0
ทีมงาน AdmissionPremium
   คิดจะเรียนเภสัช ต้องไม่พลาด 15 เรื่องสำคัญสำหรับสายเภสัช

   ถ้าคุณกำลังเล็งเรียนเภสัชศาสตร์และอยากรู้ว่าต้องเตรียมตัวหรือเข้าใจอะไรบ้าง เรารวบรวม 15 เรื่องสำคัญที่สายเภสัชห้ามพลาดมาให้แล้ว! ตั้งแต่การเลือกมหาวิทยาลัย เกณฑ์การสมัคร ไปจนถึงเส้นทางอาชีพหลังเรียนจบ ใครที่ฝันอยากเป็นเภสัชกรต้องมาเช็กเรื่องเหล่านี้ให้ครบ!
  


   1. เส้นทางการเรียนที่ยาวนานพร้อมความท้าทาย 6 ปี
    การเรียนเภสัชไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ค่ะ ใช้เวลาถึง 6 ปี เพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลสุขภาพผู้คน ตั้งแต่ปีแรกที่เรียนพื้นฐาน จนถึงปีสุดท้ายที่ต้องฝึกงานจริงในภาคปฏิบัติ เภสัชกรต้องเรียนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติครบถ้วนเลยนะคะ

   2. ต้องรักชีวะกับเคมี
    ใครที่รักชีวะและเคมีคงถูกใจสุดๆ เพราะเภสัชกรต้องรู้จักทั้งเคมีของชีวิตและการทำงานของสารในร่างกาย จนสามารถนำมาใช้พัฒนายาใหม่ๆ ให้เหมาะกับความต้องการในแต่ละช่วงเวลาค่ะ
 
  3.
การสอบใบประกอบวิชาชีพ: ผ่านด่านให้เป็นเภสัชเต็มตัว
    การจะเป็นเภสัชกรไม่ได้มีแค่การเรียนจบ 6 ปีเท่านั้นนะคะ ยังต้องสอบใบประกอบวิชาชีพถึง 2 รอบ รอบแรกสอบตอนปี 5 และรอบสองสอบตอนปี 6 ผ่านครบทั้งสองรอบ ถึงจะเป็นเภสัชกรที่ได้รับการยอมรับและสามารถทำงานในวิชาชีพได้

  4. สาขาวิชาที่หลากหลายให้เลือกตามใจชอบ
    โลกเภสัชไม่ได้มีแค่การจ่ายยาอย่างเดียวค่ะ เภสัชแบ่งออกเป็น 4 สาขาหลักให้เลือกตามความสนใจ:
  • บริบาลเภสัชกรรม: ใครรักการดูแลคนไข้ จ่ายยา และให้คำปรึกษา เลือกสายนี้ได้เลยค่ะ
  • วิทยาศาสตร์เภสัชกรรม: สำหรับคนที่อยากสร้างสรรค์ยาใหม่ เป็นนักวิจัย พัฒนายา
  • เภสัชกรรมทางสังคม: เน้นเรื่องตลาด กฎหมายเกี่ยวกับยา และการบริหาร
  • เภสัชวิทยาและพิษวิทยา: ศึกษาเรื่องการดูดซึมยาในร่างกาย วิเคราะห์ผลกระทบของยา


 5. มหาวิทยาลัยเปิดสอนเยอะ
   ปัจจุบันมีถึง 19 มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนเภสัช ค้นหาที่ที่เหมาะกับตัวเองและสมัครตามฝันได้เลยค่ะ
  • คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทริน์เอเชีย
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • สำนักวิชาเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหวิทยาลัยพายัพ
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

   6. กฎหมายกับเภสัชเป็นสิ่งที่ต้องไปด้วยกัน
    เภสัชกรไม่เพียงต้องรู้เรื่องยา แต่ต้องรู้กฎหมายเกี่ยวกับยา เพราะการใช้ยาและการจ่ายยาต้องอยู่ในขอบเขตที่ถูกต้องและปลอดภัยต่อผู้ป่วยค่ะ

   7. อาชีพหลากหลายที่เปิดรอคุณ
    เภสัชกรสามารถทำงานได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานใน ร้านขายยา โรงพยาบาล บริษัทผลิตยา หรืองานวิจัยและพัฒนายา เรียกได้ว่าเป็นอาชีพที่เปิดโอกาสให้เรามากมาย

   8. ความรอบคอบคือหัวใจสำคัญ
     การคำนวณยาที่ถูกต้องคือสิ่งที่เภสัชกรต้องทำได้ดี เพราะการผิดพลาดในการคำนวณอาจทำให้เกิดผลเสียใหญ่หลวงต่อผู้ป่วยได้ค่ะ

   9. การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด
     เภสัชกรต้องเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดเวลา เพราะวงการยาพัฒนาตลอด มีการค้นพบยาใหม่ๆ และแนวทางการรักษาที่เปลี่ยนแปลง เภสัชกรจึงต้องพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัวค่ะ



  10. ใบประกอบวิชาชีพต่างประเทศ: ใบผ่านทางสู่การทำงานทั่วโลก
     หากฝันอยากไปทำงานต่างประเทศ เภสัชกรก็มีโอกาสไปทำงานได้ค่ะ แต่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพของประเทศนั้นๆ ด้วย ซึ่งอาจจะต้องสอบเพิ่มเติมตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศ

  11. การเรียนต่อเฉพาะทาง: สร้างความเชี่ยวชาญตามใจฝัน
    หลังจากจบปริญญาตรีแล้ว เภสัชกรยังสามารถเรียนต่อเฉพาะทางในสาขา
  • สาขาวิชาเภสัชกรรมคลินิกและเภสัชกรรมโรงพยาบาล
  • สาขาวิชาเภสัชกรรมชุมชน
  • สาขาวิชาเภสัชสาธารณสุข
  • สาขาวิชาเภสัชเคมี
  • สาขาวิชาเภสัชเวท
  • สาขาวิชาเภสัชวิเคราะห์
  • สาขาวิชาเทคโนโลยีเภสัชกรรม
  • สาขาวิชาการบริหารเภสัชกิจ
  • สาขาวิชานิติเภสัชศาสตร์
  • เภสัชวิทยา

   12. ค่าเทอมเท่าไร?
     ค่าเทอมของคณะเภสัชอยู่ระหว่าง 20,000 - 75,000 บาท ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยที่เลือกเรียนค่ะ



  13. เงินเดือนสวยงาม
     เมื่อจบใหม่และทำงานในโรงพยาบาลรัฐ เงินเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 35,000 - 60,000 บาท ส่วนถ้าทำงานในโรงพยาบาลเอกชน อาจได้รับถึง 50,000 - 80,000 บาทเลยทีเดียวค่ะ

  14. การสอบเข้า: โอกาสที่ไม่ได้มีแค่ครั้งเดียว
     การสอบเข้าเภสัชสามารถทำได้ 3 รอบตามระบบ TCAS (Portfolio,quota,กสพท)

   15. อาชีพที่ตลาดต้องการสูงมาก
  • ความต้องการใช้ยาสูงขึ้น: ประชาชนให้ความสำคัญกับสุขภาพ ต้องการคำแนะนำและการจ่ายยาที่เหมาะสม
  • การเติบโตของอุตสาหกรรมยา: การวิจัยและพัฒนายาใหม่ต้องการผู้เชี่ยวชาญ
  • การบริการในชุมชน: ร้านขายยาต้องการเภสัชกรเพื่อให้คำแนะนำและจ่ายยา
  • การดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล: โรงพยาบาลต้องการเภสัชกรในการตรวจสอบและคัดเลือกยา
  • ป้องกันการใช้ยาผิดพลาด: เภสัชกรช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ยา
  • ความต้องการใบประกอบวิชาชีพ: จำนวนเภสัชกรที่ได้รับใบประกอบวิชาชีพมีจำกัด จึงเป็นที่ต้องการสูง

    การเตรียมตัวสำหรับสายเภสัชไม่ใช่แค่เรื่องของคะแนน แต่ต้องรู้ครบทั้งเกณฑ์ การเรียน และโอกาสในอนาคต หวังว่า 15 ข้อที่เรานำมาฝาก จะช่วยให้คุณพร้อมก้าวเข้าสู่เส้นทางเภสัชศาสตร์อย่างมั่นใจ ขอให้ทุกคนได้เรียนในคณะที่หวังไว้ และไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจ!

คนอื่นๆอ่านเรื่องนี้ แล้วมักจะอ่านเรื่องต่อไปนี้ต่อ

หมวด