หน้าแรก คลังความรู้ การพัฒนาตนเอง

เตรียมสอบ TCAS68 อย่างมือโปร! ตารางอ่านหนังสือแต่ละวิชาวันละกี่ชั่วโมง #DEK68 ต้องรู้

วันที่เวลาโพส 08 สิงหาคม 67 14:30 น.
อ่านแล้ว 0
ทีมงาน AdmissionPremium
    เตรียมสอบ TCAS68 อย่างมือโปร! ตารางอ่านหนังสือแต่ละวิชาวันละกี่ชั่วโมง  #DEK68 ต้องรู้
 

     สวัสดี DEK68 ทุกคน! ถ้าคุณกำลังเตรียมตัวสอบ TCAS68 และอยากเป็นมือโปรในการจัดตารางอ่านหนังสือ วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากกัน มาดูกันว่าควรอ่านหนังสือแต่ละวิชาวันละกี่ชั่วโมงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด พร้อมทั้งเทคนิคการบริหารเวลาในการเตรียมตัวสอบ มาเริ่มกันเลย!
 

  • TGAT ENG อ่านวันละ 1.5 ชั่วโมง/วัน
    • อ่านวันละ 1.5 ชั่วโมง/วัน
    • เริ่มท่องศัพท์ได้เลย เน้นคำศัพท์จากข้อสอบเก่าๆ และศัพท์พื้นฐานที่เจอบ่อยในบทความทั่วไป
    • ฝึกทำโจทย์ Reading เยอะๆ เพราะพาร์ตนี้คะแนนเยอะที่สุด อ่านและแปลได้ก็คือทำข้อสอบได้เลย ศัพท์ไม่ลึก แทบไม่มีวิเคราะห์อะไร
    • แกรมมาร์ไม่ต้องเน้นมาก ทบทวนแค่แกรมมาร์สำคัญๆ ที่จะเจอในพาร์ต Text completion ก็พอ
 
  • TGAT2 (พาร์ตเหตุผล): อ่านวันละ 1.5 ชั่วโมง/วัน
    • คนที่พื้นฐานดี: หมายถึงคนที่เข้าใจเนื้อหาและแนวคิดของแต่ละหัวข้อในพาร์ตเหตุผลอย่างดี ซึ่งสามารถเริ่มทำข้อสอบและโจทย์เพิ่มเติมได้เลย เพราะความเข้าใจพื้นฐานดีจะช่วยให้ทำข้อสอบได้ง่ายขึ้น
    • คนที่ยังไม่แม่นคอนเซปต์: หมายถึงคนที่ยังไม่เข้าใจแนวคิดหลักๆ หรือเทคนิคการทำข้อสอบ แนะนำให้ศึกษาและทำความเข้าใจแนวคิดก่อนที่จะเริ่มทำข้อสอบเพื่อไม่ให้ทำผิดพลาดมากเกินไป

  • TGAT3 (พาร์ตสมรรถนะการทำงาน): อ่านวันละ 1.5 ชั่วโมง/วัน
    • นึกถึงสิ่งที่คนส่วนใหญ่ใช้แก้ปัญหา: หมายถึงการใช้วิธีแก้ปัญหาที่เป็นที่นิยมและเป็นมาตรฐานทั่วไปในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ
    • ตั้งเป้าคะแนนให้สูง: หมายถึงการตั้งเป้าหมายให้ได้คะแนนสูงเข้าไว้ เช่น ไม่ควรได้คะแนนต่ำกว่า 70 จากเต็ม 100 คะแนน เนื่องจากพาร์ตนี้ไม่ยากมากและสามารถทำคะแนนได้สูงหากเตรียมตัวดี
 
  • TPAT1 ความถนัดแพทย์ กสพท อ่านวันละ 1.5 ชั่วโมง/วัน
  • ข้อสอบ 3 ปีล่าสุด:
    • ข้อสอบในช่วง 3 ปีหลังมานี้มีรูปแบบและแนวทางที่คล้ายกัน ทำให้การศึกษาข้อสอบเก่าๆ ช่วยให้เราเข้าใจแนวข้อสอบและเตรียมตัวได้ดีขึ้น
  • กราฟ/ตาราง การวิเคราะห์คณิตศาสตร์แบบแพทย์:
    • ต้องมีความสามารถในการอ่านและวิเคราะห์ข้อมูลจากกราฟและตาราง ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการสอบนี้
    • การวิเคราะห์คณิตศาสตร์แบบแพทย์หมายถึงการใช้คณิตศาสตร์ในบริบทที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ เช่น การคำนวณปริมาณยา การวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ เป็นต้น
  • การประยุกต์ตรรกศาสตร์ เงื่อนไข และโจทย์เชาวน์:
    • ต้องมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์และประยุกต์ใช้ตรรกศาสตร์ในการแก้โจทย์
    • ต้องสามารถวิเคราะห์และตีความเงื่อนไขต่างๆ และแก้โจทย์เชาวน์ได้
  • มิติสัมพันธ์:
    • ข้อสอบส่วนนี้ออกน้อยมาก ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเตรียมมาก
  • จริยธรรม:
    • การฝึกแนวข้อสอบจริยธรรมใน 3 ปีล่าสุดจะช่วยให้เข้าใจแนวทางของข้อสอบและสามารถเตรียมตัวได้ตรงจุด
  • การเชื่อมโยง:
    • ข้อสอบการเชื่อมโยงในปี 66 และ 67 มีความง่าย ทำให้การฝึกทำข้อสอบเก่าจะช่วยเพิ่มคะแนนในพาร์ตนี้ได้
 
  • TPAT3 ความถนัดด้านวิทย์ & วิศวะ อ่านวันละ 2 ชั่วโมง/วัน
  • การอ่านอย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อวัน:
    • ควรมีการอ่านและทบทวนเนื้อหาอย่างน้อย 2 ชั่วโมงทุกวันเพื่อให้เกิดความสม่ำเสมอในการเตรียมตัว
  • พื้นฐานฟิสิกส์และการคำนวณ:
    • ถ้าพื้นฐานด้านนี้ไม่ดี ควรรีบปรับปรุงตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้ทันกับการเตรียมตัวและไม่เป็นภาระในช่วงใกล้สอบ
  • หัวข้อด้านตัวเลขแนวเชาวน์:
    • ข้อสอบด้านนี้มักจะใช้เวลาในการหาคำตอบนาน ดังนั้นควรฝึกทำโจทย์เพื่อเพิ่มความเร็วและความแม่นยำในการแก้ปัญหา
  • หัวข้อข่าวสาร:
    • การติดตามข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะช่วยให้เราทันกับข้อมูลใหม่ๆ และสามารถตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปัจจุบันได้
 
  • ТРАТ5 ความถนัดทางครุศาสตร์ อ่านวันละ 1 ชั่วโมง/วัน
  • การอ่านอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อวัน:
    • ควรมีการอ่านและทบทวนเนื้อหาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงทุกวันเพื่อให้เกิดความสม่ำเสมอในการเตรียมตัว
  • การเตรียมตัวสำหรับวิชา TPAT5:
    • วิชานี้ใช้เวลาเตรียมตัวไม่นาน แต่ควรเน้นการทำโจทย์ที่เป็นประยุกต์ ไม่ใช่การท่องจำแบบเก่า
  • ระดับความยากของข้อสอบ:
    • ข้อสอบ TPAT5 ปี 67 มีระดับความยากพอๆ กับปี 66 และแนวโจทย์ก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ทำให้สามารถใช้ข้อสอบเก่ามาเป็นแนวทางในการเตรียมตัวได้
  • การทำโจทย์ประยุกต์:
    • เน้นการทำโจทย์ประยุกต์ที่ต้องใช้ความเข้าใจและการคิดวิเคราะห์มากกว่าการท่องจำแบบเดิม
  • การเตรียมตัวให้ถูกแนว:
    • ข้อสอบ TPAT5 ในปัจจุบันไม่ได้เน้นการท่องจำเหมือนสมัยก่อน ดังนั้นการเตรียมตัวควรเน้นการเข้าใจและการประยุกต์ใช้ความรู้
 
     เป็นยังไงบ้างกับเคล็ดลับการจัดตารางอ่านหนังสือที่เราแชร์ไป? หวังว่าจะช่วยให้น้อง ๆ DEK68 มีแผนการเรียนที่ชัดเจนและเตรียมตัวสอบ TCAS68 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมปรับตารางให้เหมาะสมกับตัวเอง พักผ่อนให้เพียงพอ และตั้งใจอ่านหนังสืออย่างต่อเนื่อง สู้ ๆ นะทุกคน! ขอให้ประสบความสำเร็จในการสอบครั้งนี้และก้าวเข้าสู่มหาวิทยาลัยในฝันได้อย่างมั่นใจ!


 

คนอื่นๆอ่านเรื่องนี้ แล้วมักจะอ่านเรื่องต่อไปนี้ต่อ

หมวด