หน้าแรก คลังความรู้ การพัฒนาตนเอง

สายแพทย์ต้องฟังทางนี้ เตรียมตัวสัมภาษณ์ MMI อย่างมืออาชีพ! เคล็ดลับที่ช่วยคุณผ่านฉลุย

วันที่เวลาโพส 06 สิงหาคม 67 15:59 น.
อ่านแล้ว 0
พี่กบ AdmissionPremium
     สายแพทย์ต้องฟังทางนี้ เตรียมตัวสัมภาษณ์ MMI อย่างมืออาชีพ! เคล็ดลับที่ช่วยคุณผ่านฉลุย ​ 

      สวัสดีค้าบน้องๆวันนี้พี่มีเคล็บดีๆในการสอบสัมภาษณ์ MMI มาแชร์ให้น้องๆได้รู้กันว่าต้องทำยังไงบ้างในการเตรียมตัวก่อนเพราะฉนั้นน้องๆที่กำลังสนใจในคณะแพทย์นี้ต้องรู้อะไรบ้างมาดูกัน! 

   การสัมภาษณ์ MMI คืออะไร? 
   รู้จักการสัมภาษณ์แบบ Multiple Mini Interview (MMI) 
   การสัมภาษณ์แบบ Multiple Mini Interview หรือที่เรียกว่า MMI เป็นกระบวนการคัดเลือกที่ใช้กันมากในคณะแพทยศาสตร์และวิชาชีพด้านสุขภาพอื่นๆ หลายแห่งทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศอเมริกา แคนาดา และสหราชอาณาจักร รูปแบบการสัมภาษณ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อประเมินผู้สมัครในด้านต่างๆ โดยเน้นที่ทักษะและคุณสมบัติที่จำเป็นต่อการเป็นแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ดี 

   วิธีการทำงานของ MMI 
   MMI ประกอบด้วยหลายสถานี (stations) ซึ่งแต่ละสถานีจะใช้เวลา 5-10 นาที ผู้สมัครจะต้องเดินทางไปยังสถานีต่างๆ และตอบคำถามหรือทำกิจกรรมตามโจทย์ที่กำหนดไว้ ผู้สัมภาษณ์ที่สถานีต่างๆ มักจะเป็นแพทย์ พยาบาล หรือนักวิชาการด้านสุขภาพ 

   วัตถุประสงค์หลักของ MMI 
   เป็นวิธีการคัดเลือกที่ใช้ในหลายสถาบันการศึกษาเพื่อประเมินผู้สมัครในหลายด้าน โดยเน้นที่ทักษะและคุณสมบัติที่จำเป็นต่อการเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ดี MMI ประกอบด้วยสถานีต่างๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักดังนี้ 
   1. วัดความมุ่งมั่นตั้งใจ 
   หนึ่งในวัตถุประสงค์สำคัญของ MMI คือการวัดความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้สมัครในการเข้ามาศึกษาและประกอบอาชีพในสายงานแพทย์ ความมุ่งมั่นตั้งใจสามารถเห็นได้จากการตอบคำถามและการแสดงออกถึงความกระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหา การมีความตั้งใจจริงในการพัฒนาตนเองและการทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น 
   2. วัดความสามารถในการตัดสินใจ 
   MMI ช่วยประเมินความสามารถในการตัดสินใจของผู้สมัคร โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีความซับซ้อนและต้องการการพิจารณาอย่างรอบคอบ ความสามารถนี้สำคัญมากในการประกอบอาชีพทางการแพทย์ เพราะต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วและแม่นยำในสถานการณ์วิกฤต การแสดงออกถึงความมีเหตุผลและการวิเคราะห์ปัญหาอย่างมีระบบเป็นสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ต้องการเห็น 
   3. วัดทักษะในการสื่อสาร 
   ทักษะในการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญในการเป็นแพทย์ที่ดี การสัมภาษณ์แบบ MMI มีสถานีที่มุ่งเน้นการประเมินทักษะการสื่อสารของผู้สมัคร ทั้งการสื่อสารกับผู้ป่วย ทีมงาน และผู้ปกครอง การพูดให้ชัดเจน เข้าใจง่าย และการฟังอย่างตั้งใจเป็นคุณสมบัติที่ผู้สมัครต้องแสดงออกมา 
   4. วัดภาวะผู้นำ 
   การแสดงออกถึงภาวะผู้นำเป็นสิ่งที่ MMI มุ่งเน้นในการประเมิน ผู้สมัครต้องมีความสามารถในการนำทีม แก้ไขปัญหา และตัดสินใจในสถานการณ์ที่ต้องการการนำ ทักษะนี้จะช่วยให้ผู้สมัครสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทายและสามารถนำทีมงานให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ 
   5. วัดการทำงานร่วมกับผู้อื่น 
   การทำงานเป็นทีมเป็นสิ่งสำคัญในการประกอบอาชีพทางการแพทย์ MMI มีสถานีที่มุ่งเน้นการประเมินความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ผู้สมัครต้องแสดงออกถึงความสามารถในการร่วมมือ การสนับสนุน และการแก้ไขปัญหาร่วมกับทีมงาน ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในการทำงานในสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ 
   6. วัดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาชีพแพทย์ 
   การมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาชีพแพทย์เป็นสิ่งสำคัญในการประเมินผู้สมัคร MMI มีสถานีที่ทดสอบความรู้ในด้านต่างๆ ของการแพทย์ รวมถึงความเข้าใจในปัญหาทางจริยธรรม และการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ ผู้สมัครต้องแสดงให้เห็นว่ามีความรู้และสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์จริงได้ 

   ข้อดีของการสัมภาษณ์แบบ MMI 
   ข้อดีของ MMI นั้นหลากหลายและมีความสำคัญมาก ดังนี้ 
   1. การประเมินที่หลากหลาย 
   MMI ช่วยให้สามารถประเมินผู้สมัครในหลายด้าน เช่น ทักษะการสื่อสาร การตัดสินใจ การทำงานร่วมกับผู้อื่น และความเป็นผู้นำ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นทักษะที่จำเป็นในการเป็นแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ดี 
   2. ลดความลำเอียง 
   การมีหลายสถานีและผู้สัมภาษณ์หลายคนช่วยลดความลำเอียงจากการตัดสินใจของผู้สัมภาษณ์เพียงคนเดียว ทำให้การประเมินมีความเป็นธรรมและมีความถูกต้องมากขึ้น ผู้สมัครแต่ละคนจะได้รับการประเมินจากผู้สัมภาษณ์หลายคนในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน 
   3. เน้นทักษะที่สำคัญ 
   MMI มุ่งเน้นการทดสอบทักษะที่สำคัญในการประกอบอาชีพ เช่น การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การตัดสินใจอย่างรอบคอบ การทำงานเป็นทีม และการแสดงออกถึงภาวะผู้นำ การประเมินในสถานีเหล่านี้ช่วยให้เห็นภาพรวมของผู้สมัครได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 
   4. ทดสอบในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง 
   สถานีใน MMI มักจะออกแบบให้เป็นสถานการณ์ที่ผู้สมัครอาจพบเจอจริงในการปฏิบัติงาน ทำให้การประเมินสามารถสะท้อนความสามารถในการปฏิบัติงานจริงได้ดีกว่าการสัมภาษณ์แบบดั้งเดิม ผู้สมัครจะได้แสดงทักษะในการแก้ไขปัญหาและการตัดสินใจในสถานการณ์ที่มีความซับซ้อน 
   5. สร้างประสบการณ์ที่ท้าทายและน่าสนใจ 
   MMI เป็นกระบวนการที่ท้าทายและน่าสนใจสำหรับผู้สมัคร เนื่องจากแต่ละสถานีมีความหลากหลายและไม่ซ้ำกัน ทำให้ผู้สมัครต้องเตรียมตัวและแสดงทักษะในหลายด้าน การสัมภาษณ์แบบนี้ยังช่วยลดความเครียดจากการเผชิญหน้ากับผู้สัมภาษณ์คนเดียวเป็นเวลานาน 
   6. ประเมินความพร้อมในการเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 
   MMI ช่วยให้สามารถประเมินความพร้อมของผู้สมัครในการประกอบอาชีพทางการแพทย์ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางวิชาการ ความเข้าใจในปัญหาจริยธรรม การทำงานร่วมกับผู้อื่น หรือภาวะผู้นำ การประเมินเหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้สมัครที่ได้รับคัดเลือกมีคุณสมบัติที่เหมาะสม 

   การเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์แบบ MMI 
   มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการสัมภาษณ์แบบนี้มีความหลากหลายและท้าทายในหลายด้าน ผู้สมัครต้องมีการเตรียมตัวอย่างรอบคอบเพื่อให้สามารถแสดงทักษะและคุณสมบัติที่ดีที่สุดของตนเองออกมาได้ นี่คือขั้นตอนและแนวทางการเตรียมตัวสำหรับ MMI 
   1. ทำความเข้าใจกับรูปแบบ MMI 
   - ศึกษาโครงสร้าง: ทำความเข้าใจกับรูปแบบการสัมภาษณ์ MMI ว่าประกอบด้วยสถานีต่างๆ ที่แต่ละสถานีมีระยะเวลา 5-10 นาที และมีหัวข้อที่หลากหลาย เช่น การสื่อสาร การตัดสินใจ ปัญหาจริยธรรม และการทำงานเป็นทีม 
   - รู้จักกับสถานี: ศึกษาประเภทของสถานีที่อาจเจอ เช่น สถานีบทบาทสมมุติ สถานีปัญหาทางจริยธรรม และสถานีการแก้ไขปัญหา 
   2. ฝึกฝนการตอบคำถาม 
   - ค้นหาตัวอย่างคำถาม: หาตัวอย่างคำถาม MMI จากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น หนังสือ เว็บไซต์ และบทความออนไลน์ 
   - ฝึกฝนเป็นประจำ: ฝึกตอบคำถามอย่างสม่ำเสมอ โดยเน้นที่การตอบคำถามให้ตรงประเด็น ชัดเจน และมีเหตุผล 
   - ขอความคิดเห็น: ขอให้เพื่อนหรือครอบครัวช่วยฟังและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการตอบคำถามของคุณ เพื่อปรับปรุงการตอบคำถามให้ดียิ่งขึ้น 
   3. พัฒนาทักษะการสื่อสาร 
   - ฝึกการพูด: ฝึกการพูดให้ชัดเจนและตรงประเด็น การใช้ภาษากายและการแสดงอารมณ์อย่างเหมาะสมในการสื่อสาร 
   - ฝึกการฟัง: ฝึกการฟังอย่างตั้งใจและตอบสนองต่อคำถามหรือสถานการณ์อย่างเหมาะสม การแสดงความเข้าใจและการตอบกลับที่มีเหตุผล 
   4. ศึกษาเกี่ยวกับปัญหาจริยธรรม 
   - เรียนรู้หลักการจริยธรรม:
ศึกษาหลักการและแนวคิดเกี่ยวกับจริยธรรมทางการแพทย์ เช่น ความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย การรักษาที่เป็นธรรม และการตัดสินใจในสถานการณ์ที่ซับซ้อน 
   - ฝึกวิเคราะห์สถานการณ์: ฝึกวิเคราะห์สถานการณ์ที่มีปัญหาทางจริยธรรมและคิดหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม 
   5. เตรียมตัวสำหรับสถานีบทบาทสมมุติ 
   - เรียนรู้การแสดงบทบาทสมมุติ:
ศึกษาและฝึกฝนการแสดงบทบาทสมมุติในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การอธิบายสถานการณ์ยากๆ ให้ผู้ป่วยฟัง หรือการให้คำปรึกษาในสถานการณ์ที่ซับซ้อน 
   - ทำความเข้าใจกับบทบาท: ทำความเข้าใจกับบทบาทที่คุณอาจต้องแสดงในสถานีบทบาทสมมุติ และเตรียมตัวในการตอบสนองต่อสถานการณ์เหล่านั้น 
   6. พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม 
   - ฝึกทำงานร่วมกับผู้อื่น:
เข้าร่วมกิจกรรมที่ต้องทำงานเป็นทีม เช่น โครงการกลุ่มหรือกิจกรรมอาสาสมัคร เพื่อฝึกทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น 
   - เรียนรู้การสนับสนุนทีม: ฝึกการสนับสนุนและการแก้ไขปัญหาร่วมกับทีมงาน เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
   7. เตรียมความรู้เกี่ยวกับวิชาชีพแพทย์ 
   - ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิชาชีพ:
อ่านหนังสือและบทความเกี่ยวกับการแพทย์ และเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาและความท้าทายในวิชาชีพแพทย์ 
   - ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงาน: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของแพทย์ในสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการทำงานในทีมและการดูแลผู้ป่วย 

   มหาวิทยาลัยที่ใช้ MMI 
   คณะแพทย์ ยอดฮิตในประเทศไทย ที่เปิดรับสมัครใน TCAS รอบ 1 หรือรอบ Pottfolio ส่วนใหญ่ใช้การสอบสัมภาษณ์แบบ MMI เป็นด่านสุดท้ายในการคัดเลือกน้องๆ เข้าเป็นตัวจริง โดยอาจมีสัดส่วนคะแนนที่แตกต่างกัน ซึ่งมากที่สุดเท่าที่มีประกาศใน Requirements มา คือมีสัดส่วนคะแนนของ MMI มากถึง 70% เลยทีเดียว 
   - คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
   - คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 
   - คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล 
   - คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 
   - คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 
   - คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 


   หวังว่าน้องๆจะได้ข้อคิดหรือได้เข้าใจในหลายๆอย่างเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ MMI และสอบติดคณะที่ๆน้องสนใจ ขอให้โชคดีน๊า:D 

คนอื่นๆอ่านเรื่องนี้ แล้วมักจะอ่านเรื่องต่อไปนี้ต่อ

หมวด