หน้าแรก คลังความรู้ การพัฒนาตนเอง

10 มหาลัยสุดแปลกที่คุณอาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อน!

วันที่เวลาโพส 06 มิถุนายน 67 10:48 น.
อ่านแล้ว 0
พี่ Hyskoa Inwza
     10 มหาลัยสุดแปลกที่คุณอาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อน !  

     วันนี้พี่มาแนะนำมหาลัยที่น่าสนใจมากที่อาจะจะมีน้องๆ สนใจอยู่บ้าง หรือคนที่กำลังหาที่เรียนต่างประเทศแปลก ๆ และตรงใจสำหรับน้อง ๆ ไปดูกันเล๊ย 


   1.Deep Springs College (สหรัฐอเมริกา) 

   ประวัติความเป็นมา: Deep Springs College ก่อตั้งขึ้นในปี 1917 โดย L.L. Nunn ผู้มีความประสงค์ที่จะสร้างวิทยาลัยที่เน้นการศึกษาแบบปฏิบัติจริงและการพัฒนาผู้นำ ตั้งอยู่ในหุบเขาลึกของทะเลทราย High Desert ในรัฐแคลิฟอร์เนีย วิทยาลัยนี้เป็นหนึ่งในวิทยาลัยขนาดเล็กที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยมีนักเรียนเพียง 26 คนต่อรุ่น 
   ลักษณะพิเศษ: วิทยาลัยนี้เน้นการศึกษาแบบปฏิบัติจริง นักเรียนจะต้องมีส่วนร่วมในงานฟาร์มและงานบริการชุมชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ มีการผสมผสานระหว่างการศึกษาด้านวิชาการและการทำงานจริง นักเรียนจะได้รับการศึกษาแบบเข้มข้นในบรรยากาศที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติและชุมชนเล็กๆ 
   หลักสูตรและวิชาเรียน: Deep Springs College มีหลักสูตรที่เน้นการศึกษาทั่วไป (liberal arts) นักเรียนจะได้เรียนวิชาพื้นฐานในด้านมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ วิชาที่สอนมีความหลากหลายและเข้มข้นเพื่อพัฒนาความคิดและทักษะการวิเคราะห์ 
   ประสบการณ์นักศึกษา: นักศึกษาที่ Deep Springs College จะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ไม่เหมือนใคร โดยการทำงานในฟาร์ม การเลี้ยงสัตว์ การทำสวน และการจัดการชุมชน นักเรียนจะได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม การบริหารจัดการเวลา และการรับผิดชอบในงานที่ทำ 
   สิ่งอำนวยความสะดวก: แม้ว่าจะเป็นวิทยาลัยขนาดเล็ก แต่ Deep Springs College มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอสำหรับการศึกษาและการทำงาน รวมถึงห้องเรียน ห้องสมุด ฟาร์ม และที่พักอาศัยสำหรับนักศึกษา 
   โอกาสในการฝึกงานและเครือข่าย: นักเรียนที่จบจาก Deep Springs College มักได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วสหรัฐอเมริกาเมื่อพวกเขาโอนไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี นอกจากนี้ นักเรียนยังได้รับการฝึกงานและสร้างเครือข่ายที่มีค่าในวงการต่างๆ 
   ค่าเล่าเรียนและทุนการศึกษา: นักเรียนที่ Deep Springs College จะได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายในการอยู่ วิทยาลัยนี้มีนโยบายให้การศึกษาฟรีเพื่อให้นักเรียนทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยไม่มีอุปสรรคทางการเงิน 
   การรับสมัครและคุณสมบัติผู้สมัคร: การรับสมัครที่ Deep Springs College มีการแข่งขันสูง วิทยาลัยต้องการนักเรียนที่มีความสามารถทางวิชาการสูง มีทักษะการเป็นผู้นำ และมีความตั้งใจในการเรียนรู้และทำงาน การสมัครเข้าเรียนต้องส่งใบสมัครออนไลน์พร้อมเรียงความ จดหมายแนะนำ และผ่านการสัมภาษณ์ 
   ข้อมูลเพิ่มเติม: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Deep Springs College และการสมัครเรียน สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของวิทยาลัยได้ที่ Deep Springs College
   Bard College at Simon's Rock (สหรัฐอเมริกา) 

 
 2.Bard College at Simon's Rock (สหรัฐอเมริกา) 

   ประวัติความเป็นมา: Bard College at Simon's Rock ก่อตั้งขึ้นในปี 1966 โดย Elizabeth Blodgett Hall เพื่อให้โอกาสแก่นักเรียนที่ต้องการเริ่มต้นการศึกษาระดับปริญญาตรีก่อนที่จะจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย ตั้งอยู่ใน Great   
   ลักษณะพิเศษ: Simon's Rock เป็นวิทยาลัยแห่งแรกและแห่งเดียวในสหรัฐอเมริกาที่เปิดรับนักเรียนที่ยังไม่จบมัธยมปลายให้เข้าเรียนในระดับปริญญาตรี โดยเน้นการศึกษาแบบ Liberal Arts มีบรรยากาศการเรียนรู้ที่เข้มข้นและท้าทาย 
   หลักสูตรและวิชาเรียน: Bard College at Simon's Rock มีหลักสูตรที่เน้นการศึกษาทั่วไป (liberal arts) นักเรียนสามารถเลือกศึกษาในหลากหลายสาขาวิชา เช่น มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และศิลปะ วิทยาลัยนี้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การเขียน และการวิจัย 
   ประสบการณ์นักศึกษา: นักศึกษาที่ Simon's Rock จะได้เรียนรู้ในบรรยากาศที่กระตุ้นการคิดสร้างสรรค์และการอภิปราย นักเรียนมีโอกาสเข้าร่วมในโครงการวิจัยและกิจกรรมนอกหลักสูตรที่หลากหลาย รวมถึงการฝึกงานและโครงการบริการชุมชน 
   สิ่งอำนวยความสะดวก: วิทยาลัยมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันสำหรับการศึกษาและการพักอาศัย รวมถึงห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ห้องสมุด โรงละคร ศูนย์ศิลปะ และหอพักนักศึกษา 
   โอกาสในการฝึกงานและเครือข่าย: นักเรียนที่ Simon's Rock มีโอกาสฝึกงานและสร้างเครือข่ายกับองค์กรต่างๆ วิทยาลัยยังมีโครงการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์ที่หลากหลาย 
   ค่าเล่าเรียนและทุนการศึกษา: ค่าเล่าเรียนที่ Bard College at Simon's Rock ประมาณ $60,000 ต่อปี (รวมค่าที่พักและอาหาร) แต่วิทยาลัยมีทุนการศึกษาและเงินช่วยเหลือสำหรับนักศึกษาที่มีความต้องการ สามารถสมัครขอรับทุนได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด 
   การรับสมัครและคุณสมบัติผู้สมัคร: Simon's Rock เปิดรับสมัครนักเรียนที่มีความสามารถทางวิชาการสูงและมีความพร้อมในการเริ่มเรียนระดับปริญญาตรีก่อนจบมัธยมปลาย การสมัครเข้าเรียนต้องส่งใบสมัครออนไลน์พร้อมเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบแสดงผลการเรียน จดหมายแนะนำ และเรียงความ 
   ข้อมูลเพิ่มเติม: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bard College at Simon's Rock และการสมัครเรียน สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของวิทยาลัยได้ที่ Bard College at Simon's Rock

   3.Olin College of Engineering (สหรัฐอเมริกา) 

   ประวัติความเป็นมา: Olin College of Engineering ก่อตั้งขึ้นในปี 1997 โดย Franklin W. Olin Foundation ตั้งอยู่ในเมือง Needham รัฐแมสซาชูเซตส์ Olin College มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงการศึกษาวิศวกรรมและสร้างวิศวกรที่มีทักษะที่ตอบสนองต่อความต้องการของโลกในศตวรรษที่ 21 
   ลักษณะพิเศษ: Olin College มีการเรียนการสอนที่เน้นการทำโครงการและการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริง นักเรียนทุกคนต้องทำงานในโครงการที่ต้องการการแก้ปัญหาและการสร้างนวัตกรรม ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปีสุดท้าย นอกจากนี้ ยังไม่มีการให้เกรดแบบทั่วไป นักเรียนจะได้รับการประเมินผลผ่านการพัฒนาทักษะและความสามารถในทางปฏิบัติ 
   หลักสูตรและวิชาเรียน: Olin College มีหลักสูตรวิศวกรรมที่หลากหลาย เช่น วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ และวิศวกรรมเชิงระบบและการออกแบบ นักเรียนจะได้เรียนวิชาพื้นฐานทางวิศวกรรมและการออกแบบ รวมถึงการเรียนรู้ผ่านโครงการและการวิจัยที่เน้นการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง 
   ประสบการณ์นักศึกษา: นักศึกษาที่ Olin College จะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นการทำงานเป็นทีม การแก้ปัญหาและการสร้างนวัตกรรม นักเรียนจะมีโอกาสทำงานในโครงการที่ท้าทายและมีผลกระทบต่อสังคมจริงๆ นอกจากนี้ยังมีการทำงานร่วมกับบริษัทและองค์กรต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์ 
   สิ่งอำนวยความสะดวก: Olin College มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยสำหรับการเรียนการสอนและการทำวิจัย รวมถึงห้องปฏิบัติการที่ครบครัน โรงงานสร้างต้นแบบ และพื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีหอพักและพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ 
   โอกาสในการฝึกงานและเครือข่าย: นักเรียนที่ Olin College มีโอกาสฝึกงานในบริษัทและองค์กรชั้นนำทั่วโลก วิทยาลัยมีความร่วมมือกับบริษัทต่างๆ เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์ที่หลากหลายและสร้างเครือข่ายที่มีค่าในวงการวิศวกรรม 
   ค่าเล่าเรียนและทุนการศึกษา: ค่าเล่าเรียนที่ Olin College ประมาณ $54,000 ต่อปี (รวมค่าที่พักและอาหาร) แต่ Olin College มีนโยบายให้ทุนการศึกษาแก่ทุกคนโดยมอบทุนการศึกษาแบบเต็มจำนวนบางส่วนแก่ทุกนักเรียน รวมถึงมีทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการ 
   การรับสมัครและคุณสมบัติผู้สมัคร: Olin College เปิดรับสมัครนักเรียนที่มีความสนใจและทักษะในด้านวิศวกรรม การสมัครเข้าเรียนต้องส่งใบสมัครออนไลน์พร้อมเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบแสดงผลการเรียน จดหมายแนะนำ และเรียงความ รวมถึงต้องผ่านการสัมภาษณ์และการทดสอบความสามารถ 
   ข้อมูลเพิ่มเติม: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Olin College of Engineering และการสมัครเรียน สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของวิทยาลัยได้ที่ Olin College of Engineering

   4.University of the Underground (เนเธอร์แลนด์) 

   ประวัติความเป็นมา: University of the Underground ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย Dr. Nelly Ben Hayoon นักออกแบบประสบการณ์ที่มีชื่อเสียง มหาวิทยาลัยนี้ตั้งอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีวิสัยทัศน์ในการสร้างสถานศึกษาแบบไม่แสวงหาผลกำไรที่เน้นการศึกษานอกกรอบและการสร้างสรรค์อย่างไม่มีขีดจำกัด 
   ลักษณะพิเศษ: มหาวิทยาลัยนี้เน้นการเรียนการสอนที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้สถานที่ต่างๆ เช่น สถานีรถไฟใต้ดิน พิพิธภัณฑ์ และคลับกลางคืน เป็นห้องเรียน University of the Underground มุ่งเน้นการบูรณาการศิลปะ การออกแบบ วิทยาศาสตร์ และการเมืองเข้าด้วยกัน นักเรียนจะได้ทำงานในโครงการที่ท้าทายและเปลี่ยนแปลงสังคม 
   หลักสูตรและวิชาเรียน: หลักสูตรของ University of the Underground เป็นแบบปริญญาโท เน้นการศึกษาด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงทางสังคม มีการเรียนการสอนในหัวข้อต่างๆ เช่น การออกแบบเชิงประสบการณ์ การเมืองและวิทยาศาสตร์ ศิลปะและเทคโนโลยี นักเรียนจะได้ทำงานในโครงการที่มีผลกระทบต่อสังคมและสร้างการเปลี่ยนแปลง 
   ประสบการณ์นักศึกษา: นักศึกษาที่ University of the Underground จะได้เรียนรู้ในบรรยากาศที่ท้าทายและสร้างสรรค์ การเรียนรู้จะเน้นการทำงานเป็นทีม การวิจัย และการปฏิบัติจริง นักเรียนจะได้มีโอกาสทำงานร่วมกับศิลปิน นักออกแบบ และนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง 
   สิ่งอำนวยความสะดวก: มหาวิทยาลัยไม่มีวิทยาเขตหลัก แต่นักเรียนจะได้เรียนในสถานที่ต่างๆ ที่มีความหลากหลายและน่าสนใจ เช่น สถานีรถไฟใต้ดิน พิพิธภัณฑ์ และคลับกลางคืน สถานที่เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และการสร้างสรรค์ 
   โอกาสในการฝึกงานและเครือข่าย: นักเรียนที่ University of the Underground จะมีโอกาสฝึกงานและสร้างเครือข่ายกับองค์กรและบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการศิลปะ การออกแบบ และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมีความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์ที่หลากหลาย 
   ค่าเล่าเรียนและทุนการศึกษา: University of the Underground มีนโยบายให้การศึกษาโดยไม่มีค่าเล่าเรียนสำหรับนักเรียนทุกคน โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรและผู้สนับสนุนที่มีความตั้งใจจะสนับสนุนการศึกษาและการสร้างสรรค์นวัตกรรม 
   การรับสมัครและคุณสมบัติผู้สมัคร: มหาวิทยาลัยเปิดรับสมัครนักเรียนจากทั่วโลกที่มีความสนใจและความสามารถในการสร้างสรรค์และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การสมัครเข้าเรียนต้องส่งใบสมัครออนไลน์พร้อมเอกสารที่จำเป็น เช่น ประวัติการศึกษา พอร์ตโฟลิโอ และเรียงความ นอกจากนี้ยังต้องผ่านการสัมภาษณ์ 
   ข้อมูลเพิ่มเติม: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ University of the Underground และการสมัครเรียน สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยได้ที่ University of the Underground

   5.Napora University (สหรัฐอเมริกา) 

   ประวัติความเป็นมา: Napora University ก่อตั้งขึ้นในปี 1974 โดย Chogyal Trongsa Rinpoche พระลามะจากทิเบตที่มีความต้องการนำการศึกษาแบบพุทธศาสนามาสู่ตะวันตก ตั้งอยู่ในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด 
   ลักษณะพิเศษ: มหาวิทยาลัยเน้นการศึกษาในด้านการพัฒนาจิตใจและจิตวิญญาณ มีการบูรณาการระหว่างการศึกษาแบบพุทธศาสนาและการศึกษาแบบตะวันตก เน้นการเรียนรู้แบบสัมผัสประสบการณ์และการฝึกสมาธิเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร 
   หลักสูตรและวิชาเรียน: Napora University มีหลักสูตรที่หลากหลายทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท สาขาวิชาที่โดดเด่นได้แก่ จิตวิทยา, การศึกษาแบบบูรณาการ, ศิลปะการแสดงและการเขียน, ธรรมชาติบำบัด และการศึกษาด้านจิตวิญญาณ 
   ประสบการณ์นักศึกษา: นักศึกษาที่ Napora University จะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีการบูรณาการระหว่างการศึกษาแบบปฏิบัติและการศึกษาแบบทฤษฎี การฝึกสมาธิและการทำสมาธิในชีวิตประจำวันเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ 
   สิ่งอำนวยความสะดวก: Napora University มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการศึกษาและการพัฒนาจิตใจ เช่น ศูนย์ฝึกสมาธิ ห้องสมุดที่มีหนังสือและวัสดุการศึกษาเกี่ยวกับพุทธศาสนาและจิตวิทยา 
   โอกาสในการฝึกงานและเครือข่าย: นักศึกษามีโอกาสฝึกงานในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยา ศิลปะ และการพัฒนาจิตวิญญาณ รวมถึงการเข้าร่วมโครงการวิจัยและการฝึกอบรมกับผู้เชี่ยวชาญในวงการ 
   ค่าเล่าเรียนและทุนการศึกษา: ค่าเล่าเรียนสำหรับนักศึกษาปริญญาตรีประมาณ $33,000 ต่อปี มหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษาและเงินช่วยเหลือสำหรับนักศึกษาที่มีความต้องการ 
   การรับสมัครและคุณสมบัติผู้สมัคร: Napora University เปิดรับสมัครนักศึกษาจากทั่วโลก นักศึกษาต้องมีผลการเรียนที่ดี และมีความสนใจในด้านการพัฒนาจิตใจและจิตวิญญาณ การสมัครเข้าเรียนต้องมีการส่งใบสมัครออนไลน์พร้อมเอกสารที่จำเป็น 
   ข้อมูลเพิ่มเติม:Naropa University

   6.Shimer College (สหรัฐอเมริกา) 

   ประวัติความเป็นมา: Shimer College ก่อตั้งขึ้นในปี 1853 โดย Frances Wood Shimer และ Cinderella Gregory ในเมือง Mount Carroll รัฐอิลลินอยส์ ต่อมาได้ย้ายไปตั้งอยู่ในชิคาโก วิทยาลัยนี้เป็นหนึ่งในวิทยาลัยเล็กๆ ที่เน้นการศึกษาแบบเสรีนิยม (liberal arts) และการเรียนรู้ผ่านการอ่านและการสนทนาหนังสือคลาสสิก 
   ลักษณะพิเศษ: Shimer College มีหลักสูตรที่เน้นการอ่านหนังสือคลาสสิกและการสนทนาในกลุ่มเล็กๆ (Great Books program) ไม่มีการบรรยายในห้องเรียน นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการอภิปรายและวิเคราะห์เนื้อหาจากหนังสือที่ได้รับมอบหมาย การศึกษาเน้นการพัฒนาความคิดวิเคราะห์และการสื่อสาร 
   หลักสูตรและวิชาเรียน: Shimer College มีหลักสูตรที่เรียกว่า Great Books program ซึ่งครอบคลุมหลายสาขาวิชา เช่น มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ นักเรียนจะได้อ่านหนังสือคลาสสิกจากนักคิด นักเขียน และนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง และร่วมอภิปรายและวิเคราะห์ในกลุ่ม 
   ประสบการณ์นักศึกษา: นักศึกษาที่ Shimer College จะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ไม่เหมือนใคร โดยการมีส่วนร่วมในการอภิปรายและการวิเคราะห์หนังสือคลาสสิก การเรียนรู้ในกลุ่มเล็กๆ ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างนักเรียนและอาจารย์ และส่งเสริมการเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง 
   สิ่งอำนวยความสะดวก: Shimer College มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการพักผ่อน รวมถึงห้องสมุดที่มีหนังสือคลาสสิกและวัสดุการศึกษาอื่นๆ ห้องเรียนที่ออกแบบมาเพื่อการอภิปราย และพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ 
   โอกาสในการฝึกงานและเครือข่าย: นักเรียนที่ Shimer College มีโอกาสฝึกงานและสร้างเครือข่ายกับองค์กรต่างๆ ผ่านโครงการฝึกงานและการศึกษานอกสถานที่ วิทยาลัยยังมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันอื่นๆ เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์ที่หลากหลาย 
   ค่าเล่าเรียนและทุนการศึกษา: ค่าเล่าเรียนที่ Shimer College ประมาณ $40,000 ต่อปี (รวมค่าที่พักและอาหาร) แต่วิทยาลัยมีทุนการศึกษาและเงินช่วยเหลือสำหรับนักศึกษาที่มีความต้องการ สามารถสมัครขอรับทุนได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด 
   การรับสมัครและคุณสมบัติผู้สมัคร: Shimer College เปิดรับสมัครนักเรียนที่มีความสนใจในหนังสือคลาสสิกและการเรียนรู้ผ่านการสนทนา การสมัครเข้าเรียนต้องส่งใบสมัครออนไลน์พร้อมเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบแสดงผลการเรียน จดหมายแนะนำ และเรียงความ นอกจากนี้ยังต้องผ่านการสัมภาษณ์ 
   ข้อมูลเพิ่มเติม: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Shimer College และการสมัครเรียน สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของวิทยาลัยได้ที่ Shimer College

   7.Aalborg University (เดนมาร์ก) 

   ประวัติความเป็นมา: Aalborg University ก่อตั้งขึ้นในปี 1974 ตั้งอยู่ในเมือง Aalborg ประเทศเดนมาร์ก มหาวิทยาลัยมีวิทยาเขตเพิ่มเติมในเมือง Esbjerg และโคเปนเฮเกน AAU เป็นที่รู้จักในด้านการวิจัยและการศึกษาที่เน้นการทำโครงการและการแก้ปัญหาจริง 
   ลักษณะพิเศษ: AAU มีระบบการเรียนรู้ที่เรียกว่า "Problem-Based Learning" (PBL) ซึ่งนักเรียนจะเรียนรู้ผ่านการทำงานในโครงการและการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ระบบนี้เน้นการทำงานเป็นทีมและการเรียนรู้ที่มีการบูรณาการระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติ 
   หลักสูตรและวิชาเรียน: Aalborg University มีหลักสูตรที่หลากหลายในหลายสาขาวิชา เช่น วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และการจัดการ นักเรียนสามารถเลือกเรียนในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก 
   ประสบการณ์นักศึกษา: นักศึกษาที่ AAU จะได้เรียนรู้ผ่านการทำงานในโครงการและการแก้ปัญหาจริง นักเรียนจะมีส่วนร่วมในการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรม โดยทำงานร่วมกับอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้น การเรียนรู้แบบ PBL ช่วยพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมและการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ 
   สิ่งอำนวยความสะดวก: AAU มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยสำหรับการเรียนการสอนและการวิจัย รวมถึงห้องปฏิบัติการ ห้องสมุด และพื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีหอพักนักศึกษา และศูนย์กีฬาสำหรับนักเรียน 
   โอกาสในการฝึกงานและเครือข่าย: นักเรียนที่ AAU มีโอกาสฝึกงานในบริษัทและองค์กรชั้นนำ มหาวิทยาลัยมีความร่วมมือกับอุตสาหกรรมและองค์กรต่างๆ เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์ที่หลากหลายและสร้างเครือข่ายที่มีค่าในวงการต่างๆ 
   ค่าเล่าเรียนและทุนการศึกษา: สำหรับนักเรียนจากประเทศในกลุ่ม EU/EEA การศึกษาในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่ AAU ไม่มีค่าเล่าเรียน ส่วนนักเรียนจากนอกกลุ่ม EU/EEA อาจต้องจ่ายค่าเล่าเรียนที่ประมาณ €10,000-14,000 ต่อปี มหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษาและเงินช่วยเหลือสำหรับนักศึกษาที่มีความต้องการ 
   การรับสมัครและคุณสมบัติผู้สมัคร: AAU เปิดรับสมัครนักเรียนจากทั่วโลกที่มีคุณสมบัติตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด การสมัครเข้าเรียนต้องส่งใบสมัครออนไลน์พร้อมเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบแสดงผลการเรียน จดหมายแนะนำ และเรียงความ นอกจากนี้บางหลักสูตรอาจต้องการผลการทดสอบภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL หรือ IELTS 
   ข้อมูลเพิ่มเติม: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Aalborg University และการสมัครเรียน สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยได้ที่ Aalborg University

   8.Minerva Schools at KGI (สหรัฐอเมริกา) 

   ประวัติความเป็นมา: Minerva Schools ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดย Ben Nelson โดยร่วมมือกับ Keck Graduate Institute (KGI) ตั้งอยู่ในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย Minerva มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้วยการเน้นการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และการใช้เทคโนโลยี 
   ลักษณะพิเศษ: Minerva Schools เป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่มีวิทยาเขตหลัก นักเรียนจะได้เรียนรู้ผ่านการเดินทางและการใช้ชีวิตในเมืองต่างๆ ทั่วโลก ทุกปีนักเรียนจะย้ายไปเรียนในเมืองใหม่ เช่น ซานฟรานซิสโก เบอร์ลิน บัวโนสไอเรส โซล ลอนดอน มุมไบ และไฮฟา การเรียนการสอนเน้นการเรียนรู้แบบออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเฉพาะ 
   หลักสูตรและวิชาเรียน: Minerva Schools มีหลักสูตรปริญญาตรีที่เน้นการบูรณาการหลายสาขาวิชา เช่น ศิลปศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นักเรียนจะได้เรียนรู้ผ่านโครงการและการวิจัยที่เน้นการแก้ปัญหาจริงๆ 
   ประสบการณ์นักศึกษา: นักศึกษาที่ Minerva จะได้เรียนรู้ผ่านการใช้ชีวิตและการศึกษาในเมืองต่างๆ ทั่วโลก การเรียนการสอนออนไลน์ช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้จากอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความคิด การเรียนรู้เน้นการอภิปราย การทำงานเป็นทีม และการแก้ปัญหาจริง 
   สิ่งอำนวยความสะดวก: เนื่องจาก Minerva Schools ไม่มีวิทยาเขตหลัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จะอยู่ในเมืองที่นักเรียนไปเรียน นักเรียนจะได้พักในที่พักที่จัดเตรียมไว้และใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในเมืองนั้นๆ เช่น ห้องสมุด พื้นที่ทำงานร่วมกัน และสถานที่สำหรับกิจกรรมต่างๆ 
   โอกาสในการฝึกงานและเครือข่าย: นักเรียนที่ Minerva มีโอกาสฝึกงานและสร้างเครือข่ายในเมืองต่างๆ ทั่วโลก มหาวิทยาลัยมีความร่วมมือกับองค์กรและบริษัทชั้นนำเพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์ที่หลากหลายและมีคุณค่า 
   ค่าเล่าเรียนและทุนการศึกษา: ค่าเล่าเรียนที่ Minerva Schools ประมาณ $32,000 ต่อปี (ไม่รวมค่าที่พักและค่าใช้จ่ายอื่นๆ) มหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษาและเงินช่วยเหลือสำหรับนักศึกษาที่มีความต้องการ นักเรียนสามารถสมัครขอรับทุนได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด 
   การรับสมัครและคุณสมบัติผู้สมัคร: Minerva Schools เปิดรับสมัครนักเรียนจากทั่วโลก การสมัครเข้าเรียนต้องส่งใบสมัครออนไลน์พร้อมเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบแสดงผลการเรียน จดหมายแนะนำ และเรียงความ นอกจากนี้นักเรียนต้องผ่านการสัมภาษณ์และการทดสอบความสามารถ 
   ข้อมูลเพิ่มเติม: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Minerva Schools at KGI และการสมัครเรียน สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยได้ที่ Minerva Schools at KGI

   9.Bennington College (สหรัฐอเมริกา) 

   ประวัติความเป็นมา: Bennington College ก่อตั้งขึ้นในปี 1932 ตั้งอยู่ในเมือง Bennington รัฐเวอร์มอนต์ วิทยาลัยนี้เป็นที่รู้จักในฐานะสถาบันที่เน้นการศึกษาแบบเสรีนิยม (liberal arts) และการเรียนรู้ผ่านการสร้างสรรค์และการปฏิบัติ 
   ลักษณะพิเศษ: Bennington College มีระบบการเรียนที่ไม่เหมือนใคร นักเรียนมีอิสระในการออกแบบหลักสูตรการเรียนของตนเองโดยร่วมมือกับที่ปรึกษาทางการศึกษา เรียกว่าระบบ "Plan Process" นักเรียนจะต้องสร้างแผนการเรียนที่สะท้อนความสนใจและเป้าหมายส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังมีการเรียนรู้ผ่านการทำงานจริงในโปรแกรม "Field Work Term" 
   หลักสูตรและวิชาเรียน: Bennington College มีหลักสูตรที่ครอบคลุมหลากหลายสาขาวิชา เช่น มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ศิลปะ และการเขียน นักเรียนสามารถออกแบบหลักสูตรที่ตอบสนองความสนใจเฉพาะของตนเอง และมีโอกาสเรียนรู้ผ่านโครงการและการวิจัยที่เน้นการปฏิบัติ 
   ประสบการณ์นักศึกษา: นักศึกษาที่ Bennington College จะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นการสร้างสรรค์และการปฏิบัติจริง การเรียนรู้ในบรรยากาศที่เปิดกว้างและสนับสนุนการทดลองและนวัตกรรม นักเรียนจะมีโอกาสทำงานในโปรแกรม "Field Work Term" ที่ให้นักเรียนได้ทำงานจริงในสาขาที่ตนสนใจทุกปีการศึกษา 
   สิ่งอำนวยความสะดวก: Bennington College มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยสำหรับการเรียนการสอนและการสร้างสรรค์ รวมถึงห้องสมุดที่มีหนังสือและทรัพยากรการศึกษา พื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกัน ห้องปฏิบัติการ และสตูดิโอสำหรับศิลปะและการออกแบบ 
   โอกาสในการฝึกงานและเครือข่าย: นักเรียนที่ Bennington College มีโอกาสฝึกงานในบริษัทและองค์กรชั้นนำผ่านโปรแกรม "Field Work Term" มหาวิทยาลัยมีเครือข่ายที่กว้างขวางกับอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์ที่หลากหลายและสร้างเครือข่ายที่มีค่าในวงการต่างๆ 
   ค่าเล่าเรียนและทุนการศึกษา: ค่าเล่าเรียนที่ Bennington College ประมาณ $56,000 ต่อปี (รวมค่าที่พักและอาหาร) มหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษาและเงินช่วยเหลือสำหรับนักศึกษาที่มีความต้องการ นักเรียนสามารถสมัครขอรับทุนได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด 
   การรับสมัครและคุณสมบัติผู้สมัคร: Bennington College เปิดรับสมัครนักเรียนจากทั่วโลก การสมัครเข้าเรียนต้องส่งใบสมัครออนไลน์พร้อมเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบแสดงผลการเรียน จดหมายแนะนำ และเรียงความ นอกจากนี้นักเรียนยังต้องส่งตัวอย่างงาน (Portfolio) สำหรับสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ 
   ข้อมูลเพิ่มเติม: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bennington College และการสมัครเรียน สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของวิทยาลัยได้ที่ Bennington College

   10.The Evergreen State College (สหรัฐอเมริกา) 

   ประวัติความเป็นมา: The Evergreen State College ก่อตั้งขึ้นในปี 1967 ตั้งอยู่ในเมืองโอลิมเปีย รัฐวอชิงตัน มหาวิทยาลัยนี้เป็นที่รู้จักในด้านการศึกษาแบบเสรีนิยม (liberal arts) ที่เน้นการเรียนรู้แบบบูรณาการและการประยุกต์ใช้ความรู้ในชีวิตจริง 
   ลักษณะพิเศษ: Evergreen ไม่มีการแบ่งหลักสูตรออกเป็นวิชาแยกต่างหาก นักเรียนจะเรียนรู้ผ่านโปรแกรมการศึกษาแบบบูรณาการที่เรียกว่า "Coordinated Studies" ซึ่งครอบคลุมหลายสาขาวิชาพร้อมกัน นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยไม่มีระบบการให้เกรดแบบดั้งเดิม นักเรียนจะได้รับการประเมินผลผ่านการเขียนรายงานและข้อเสนอแนะจากอาจารย์ 
   หลักสูตรและวิชาเรียน: Evergreen เสนอหลักสูตรที่หลากหลายและยืดหยุ่น นักเรียนสามารถเลือกศึกษาในสาขาต่างๆ เช่น มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ศิลปะ และการศึกษาเชิงสิ่งแวดล้อม นักเรียนมีอิสระในการออกแบบหลักสูตรการเรียนของตนเองตามความสนใจและเป้าหมายการศึกษา 
   ประสบการณ์นักศึกษา: นักศึกษาที่ Evergreen จะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติจริงและการเรียนรู้แบบบูรณาการ การเรียนรู้ผ่านโครงการและการทำงานร่วมกันในกลุ่มช่วยเสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร และการทำงานเป็นทีม 
   สิ่งอำนวยความสะดวก: Evergreen มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยสำหรับการเรียนการสอนและการวิจัย รวมถึงห้องปฏิบัติการ ห้องสมุด พื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกัน และสถานที่สำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ยังมีหอพักนักศึกษา และศูนย์กีฬาสำหรับนักเรียน 
   โอกาสในการฝึกงานและเครือข่าย: นักเรียนที่ Evergreen มีโอกาสฝึกงานในบริษัทและองค์กรต่างๆ ผ่านโครงการฝึกงานและการศึกษานอกสถานที่ มหาวิทยาลัยมีความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์ที่หลากหลายและสร้างเครือข่ายที่มีค่าในวงการต่างๆ 
   ค่าเล่าเรียนและทุนการศึกษา: ค่าเล่าเรียนที่ Evergreen ประมาณ $23,000 ต่อปีสำหรับนักเรียนในรัฐวอชิงตัน และประมาณ $42,000 ต่อปีสำหรับนักเรียนจากรัฐอื่นๆ (รวมค่าที่พักและอาหาร) มหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษาและเงินช่วยเหลือสำหรับนักศึกษาที่มีความต้องการ นักเรียนสามารถสมัครขอรับทุนได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด 
   การรับสมัครและคุณสมบัติผู้สมัคร: Evergreen เปิดรับสมัครนักเรียนจากทั่วโลก การสมัครเข้าเรียนต้องส่งใบสมัครออนไลน์พร้อมเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบแสดงผลการเรียน จดหมายแนะนำ และเรียงความ นอกจากนี้ยังมีการประเมินความสนใจและความพร้อมในการเรียนรู้แบบบูรณาการ 
   ข้อมูลเพิ่มเติม: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Evergreen State College และการสมัครเรียน สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยได้ที่ The Evergreen State College
    หวังว่าน้องๆจะได้มหาลัยที่ชอบและเจอทางที่เหมาะกับตัวน้องๆเอง ทั้งนี้ นี้เป็นเพียงมหาลัยที่แนะนำมาอาจจะไม่ตรงใจกับน้อง ๆ แต่พี่มั่นใจว่าน้องคงไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ยังไงก็หาที่เรียนให้ตัวเองให้ได้ไวๆน๊า น้องๆจะได้มีเวลาเตรียมตัวในการเข้ามหาลัยได้ดี 

 

 

 

คนอื่นๆอ่านเรื่องนี้ แล้วมักจะอ่านเรื่องต่อไปนี้ต่อ

หมวด