4 วิธีฟังเพลงที่มีผลเสียต่อการอ่านหนังสือ!!!
วันที่เวลาโพส
08 กรกฎาคม 66 12:01 น.
พี่กบ AdmissionPremium
การฟังเพลงช่วยให้ผ่อนคลายความเครียดจากการอ่านหนังสือ แต่ถ้าฟังแบบผิดวิธีจะทำให้เครียดยิ่งกว่าเดิมอีกนะ เพราะมัวแต่ฟังเพลงจนลืมอ่านหนังสือ!!
แล้วการฟังเพลงแบบผิดวิธีมีอะไรบ้างนะ??
1. ฟังเพลงที่มีเนื้อร้อง
สมองของคนเรามักจะจดจ่อได้ทีละอย่าง การฟังเพลงที่มีเนื้อร้อง โดยเฉพาะเพลงที่เราร้องได้ จะดึงเอาความสนใจของเราจากหนังสือไปสู่เพลงที่กำลังฟังทันที เนื้อหาที่กำลังอ่านอยู่จะกระเด็นออกไปจากความสนใจทันที
2. ฟังเพลงเร็วหรือเพลงร็อค
อันนี้ยิ่งกว่าข้อที่แล้วอีกนะ เพลงเร็วหรือเพลงร็อคจะทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น หัวใจเต้นอย่างมีชีวิตชีวา เลือดสูบฉีด บางคนฟังไปโยกหัวไป ไม่ได้อ่านหนังสือกันพอดี และการเปลี่ยนแปลงของร่างกายดังกล่าว มันไม่เหมาะกับการอ่านหนังสือเอาเสียเลย
3. เปิดเพลงเสียงดัง
จากข้อที่ผ่านมา เราพูดถึงเนื้อร้องและจังหวะไปแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะเปลี่ยนไปฟังเพลงที่ไม่มีเนื้อร้องหรือเพลงช้า แต่ถ้าเราเปิดเสียงดังเกินไป มันก็จะกลายเป็นเสียงรบกวนทันที ลองปรับความดังของเพลงดู ว่าความดังระดับไหนที่ทำให้เราอ่านหนังสือแล้วสบายหู และโฟกัสการอ่านได้เรื่อย ๆ ในการอ่านแต่ละครั้งก็ให้พยายามรักษาระดับเดิมไว้
4. ฟังเพลงเร้าอารมณ์
เพลงเร้าอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์รัก เศร้า เหงา สนุกสนาน ต่างก็ส่งผลต่อการอ่านหนังสือทั้งนั้น ถ้าใครเคยรับบทเป็นนางเอกหรือพระเอกเอ็มวีเวลาฟังเพลงคงเข้าใจดี เราจะเหม่อลอย และเกิดจินตนาการต่าง ๆ นานา จนลืมไปว่าตรงหน้ามีหนังสือที่ต้องอ่านอยู่!!
แล้วการฟังเพลงแบบไหนที่จะเหมาะกับการอ่านหนังสือ
จากการวิจัยหลายงานพบว่า การอ่านหนังสือไม่ได้ช่วยให้เรียนเก่งขึ้น หรืออ่านหนังสือได้ดีขึ้น แต่นิสัยการอ่านของบางคนอาจจะต้องใช้ดนตรีหรือเพลงในการสร้างสมาธิ หากใครเป็นเช่นนี้ ควรมีวิธีการเลือกฟังเพลง ดังนี้
- ฟังเพลง off-vocal หรือเพลงที่ปราศจากเนื้อร้อง
- ฟังเพลง Lo-fi หรือ Low-Fidelity คือเพลงที่มีคุณภาพเสียงอัดต่ำ ฟังแล้วเสียงจะออกซ่า ๆ แบบที่ไม่รบกวนการฟัง ปราศจากเนื้อหา ดังนั้น เราจะไม่หลุดโฟกัสไปจดจ่อกับเพลง เหมาะแก่การฟังขณะอ่านหนังสือหรือทำงาน สำหรับคนที่ไม่ต้องการความเงียบจนเกินไป
- ฟังเพลงที่มีคลื่นความถี่ใกล้เคียงกับคลื่นสมองขณะอ่านหนังสือ นั่นคือ Alpha wave 9-13 Hz
มาฟังเพลงให้ถูกวิธีขณะที่อ่านหนังสือกันเถอะ!
