สอบเข้ามหาวิทยาลัย

ภาคปกติหรือพิเศษ? ค่าเทอม คณะนิติศาสตร์ จาก 12 มหาลัยดัง

    ภาคปกติหรือพิเศษ? ค่าเทอม คณะนิติศาสตร์ จาก 12 มหาลัยดัง

    DEK68 ที่สนใจคณะนิติศาสตร์และกำลังวางแผนเรื่องค่าใช้จ่าย มาเช็กกันได้เลย! เรารวบรวมข้อมูลค่าเทอมของภาคปกติและภาคพิเศษจาก 12 มหาวิทยาลัยชื่อดังมาให้ครบ ว่าความแตกต่างระหว่างสองภาคนี้มีอะไรบ้าง และค่าใช้จ่ายต่อปีอยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อช่วยให้คุณวางแผนการเรียนและการเงินได้ชัดเจนก่อนตัดสินใจสมัคร

 

 




   คณะนิติศาสตร์ (ภาคปกติ / ภาคพิเศษ)
  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    • (ภาษาไทย ปกติ) 21,000 บาท/เทอม
  • มหาวิทยาลัยขอนแก่น
    • (ภาษาไทย ปกติ) ประมาณ 18,000 บาท/เทอม
  • มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    • (ภาษาไทย ปกติ)ประมาณ 15,000 บาท/เทอม
    • (ภาษาไทย พิเศษ)ประมาณ 22,000 บาท/เทอม
  • มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    • หลักสูตรนานาชาตินิติศาสตร์กฎหมายธุรกิจ (วิทยาเขตท่าพระจันทร์) ประมาณ 100,000 บาท/เทอม
    • (วิทยาเขตศูนย์รังสิต) ประมาณ 13,800 บาท/เทอม
    • (วิทยาเขตศูนย์ลำปาง) ประมาณ 18,800 บาท/เทอม
  • มหาวิทยาลัยนเรศวร
    • ประมาณ 15,000 บาท/เทอม
  • มหาวิทยาลัยบรูพา
    • (ภาษาไทย ปกติ) ประมาณ 21,000 บาท/เทอม
    • (ภาษาไทย พิเศษ) ประมาณ 25,000 บาท/เทอม
  • มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ
    • (ภาษาไทย ปกติ) ประมาณ 20,000 บาท/เทอม
    • (ภาษาไทย พิเศษ) ประมาณ 30,000 บาท/เทอม
  • มหาวิทยาลัยพะเยา
    • (ภาษาไทย ปกติ) ประมาณ 15,000 บาท/เทอม
  • มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
    • (ภาษาไทย ปกติ) ประมาณ 13,000 บาท/เทอม
  • มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
    • (ภาษาไทย ปกติ) ประมาณ 25,000 บาท/เทอม
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม
    • (ภาษาไทย ปกติ) ประมาณ 38,000 บาท/เทอม
    • (ภาษาไทย พิเศษ) ประมาณ 42,000 บาท/เทอม
  • มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย
    • (ภาษาไทย ปกติ) ประมาณ 25,000 บาท/เทอม


   การเรียนภาคปกติและภาคพิเศษ มีความแตกต่างในหลายแง่มุม ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละมหาวิทยาลัย แต่โดยทั่วไปสามารถสรุปความแตกต่างได้ดังนี้:

   1. เวลาเรียน

  • ภาคปกติ:
    • เรียนในช่วงเวลาปกติของวัน (เช้า-บ่าย) เช่น 8.00-16.00 น.
    • เหมาะสำหรับนักเรียนที่สามารถจัดเวลาเรียนแบบเต็มวันได้
  • ภาคพิเศษ:
    • มักจัดเรียนในช่วงเย็นหรือวันหยุดสุดสัปดาห์
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานหรือมีภารกิจระหว่างวัน เช่น นักเรียนที่ต้องการเรียนควบคู่กับการทำงาน

   2. ค่าเล่าเรียน

  • ภาคปกติ:
    • ค่าเล่าเรียนมักถูกกว่า เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากงบประมาณของรัฐหรือมหาวิทยาลัย
  • ภาคพิเศษ:
    • ค่าเล่าเรียนมักสูงกว่า เพราะเน้นการให้บริการที่ยืดหยุ่น เช่น เวลาเรียนหรือการจัดหลักสูตร

   3. ลักษณะผู้เรียน

  • ภาคปกติ:
    • ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่จบมัธยมปลายหรือเทียบเท่า
    • เน้นการเรียนแบบเต็มเวลา
  • ภาคพิเศษ:
    • มีความหลากหลายในกลุ่มผู้เรียน เช่น ผู้ที่ทำงานอยู่แล้ว ผู้เรียนที่ต้องการพัฒนาทักษะเพิ่มเติม หรือเรียนควบคู่กับการทำงาน

   4. หลักสูตร

  • ภาคปกติ:
    • ใช้หลักสูตรเดียวกันกับภาคพิเศษในบางกรณี
    • มีความเข้มข้นในการเรียนและการปฏิบัติในเวลาปกติ
  • ภาคพิเศษ:
    • อาจปรับตารางเวลาเรียนให้เหมาะสมกับผู้เรียน เช่น การลดจำนวนชั่วโมงต่อวัน แต่เรียนในระยะเวลานานขึ้น

   5. การเข้าศึกษา

  • ภาคปกติ:
    • การเข้าศึกษามักผ่านระบบคัดเลือกทั่วไป เช่น TCAS
  • ภาคพิเศษ:
    • อาจมีเงื่อนไขการรับสมัครที่ยืดหยุ่น เช่น การรับผู้เรียนที่มีประสบการณ์ทำงาน

   6. โอกาสในการสมัครงาน

  • ไม่มีความแตกต่างในแง่ของวุฒิการศึกษา เนื่องจากวุฒิการศึกษาที่ได้รับเหมือนกัน (ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย)

   สรุป

  • ภาคปกติ: เหมาะสำหรับนักเรียนที่สามารถเรียนเต็มเวลาในช่วงเวลาปกติ ค่าเล่าเรียนถูกกว่า
  • ภาคพิเศษ: เหมาะสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านเวลา เช่น ผู้ที่ต้องทำงานหรือมีภารกิจอื่น ๆ ค่าเล่าเรียนอาจสูงกว่าเพื่อรองรับความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้น

   หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ DEK68 วางแผนการเรียนในคณะนิติศาสตร์ได้อย่างมั่นใจ ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในเส้นทางที่เลือก