สอบเข้ามหาวิทยาลัย

​เปิดเผยความลับ! 7 กลยุทธ์ทำพอร์ตให้โดดเด่น ที่ใครๆ ก็ทำตามได้ อยากรู้มั้ยว่ามีอะไรบ้าง?

    เปิดเผยความลับ! 7 กลยุทธ์ทำพอร์ตให้โดดเด่น ที่ใครๆ ก็ทำตามได้ อยากรู้มั้ยว่ามีอะไรบ้าง?


  • ศึกษารายละเอียดให้ดี อ่านกฏระเบียบให้ครบถ้วน
     สำคัญมาก! ก่อนทำพอร์ตต้องอ่านระเบียบกันให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นข้อกำหนดเรื่องฟอนต์, ขนาดตัวอักษร, สีตัวอักษร, รูปแบบการนำเสนอ, หรือจำนวนหน้าที่ต้องมี อย่างเช่นสารญ, คำนำ, หรือ SOP ถ้าพลาดตรงนี้อาจโดนตัดสิทธิ์ได้เลย เพราะฉะนั้นอย่าลืมตรวจสอบให้ดี!! โดยเริ่มจากการหาข้อมูลระเบียบการยื่นพอร์ตในปีก่อนๆ ให้เสิชหาว่าคีย์คำว่า “ชื่อคณะ + ชื่อมหาวิทยาลัย + รอบพอร์ท” (เช่น เภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ รอบportfolio) เพื่อดูระเบียบที่คณะนั้นๆ กำหนดไว้

  • เน้นเนื้อหา อ่านง่าย เรียบง่าย
     งานพอร์ตไม่จำเป็นต้องอลังการ แต่ควรเน้นเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียบง่าย ไม่รก และที่สำคัญคือต้องอ่านง่ายที่สุด หากต้องการตกแต่งเยอะๆ ก็ระวังอย่าให้เนื้อหาถูกกลืนไปกับการออกแบบ

  • สารบัญไม่ต้องมีก็ได้
      อีกเรื่องคือสารบัญ ถ้ามหาวิทยาลัยไม่ได้บังคับให้มีก็ไม่ต้องใส่เลย คุณจะได้ประหยัดหน้าไปใช้กับเนื้อหาอื่นๆ เพราะหลายครั้งกรรมการมักจะข้ามหน้านี้ไปเลย พอร์ตที่ดีคือพอร์ตที่สะท้อนความเป็นตัวเอง และตรงตามความต้องการของทางคณะที่สมัครด้วยน้า

  • จัดเรียงกิจกรรมให้ตรงประเภท
     ถ้าคุณยังไม่ได้จัดหมวดหมู่กิจกรรมในแฟ้มของคุณ ตอนทำพอร์ทก็เป็นโอกาสดีเลยค่ะ! จะยิ่งดีถ้ากิจกรรมนั้นๆ สอดคล้องกับคณะหรือสาขาที่เราสมัครด้วยนะคะ!

  • สรุปเนื้อหาให้กระชับ
     ลองเขียนให้กระชับว่าใครทำอะไร ที่ไหน และอย่างไร พยายามอย่าให้ยืดเยื้อ แต่ก็ไม่ตัดรายละเอียดสำคัญออกไป จำเป็นต้องเข้าใจว่าเราได้อะไรจากกิจกรรมที่ทำไปบ้าง แล้วเขียนออกมาให้ชัดเจน แล้วค่อยมาแต่งคำให้สวยงามภายหลังก็ได้ค่ะ

  • เกียรติบัตรและรูปถ่ายสำคัญมาก
     นอกจากเกียรติบัตรแล้ว รูปถ่ายก็เป็นหลักฐานที่ช่วยยืนยันว่าคุณได้ร่วมกิจกรรมจริง อย่าลืมเก็บรวบรวมไว้ล่วงหน้านะคะเพราะตอนทำพอร์ตจะได้ไม่เสียเวลามาหาย้อนหลัง และ ถ้าเกียรติบัตรเยอะจนล้นทะลัก ใส่ไม่หมดในเนื้อหาหลัก ก็แปะไว้หน้าสุดท้ายได้เลย พร้อมรายละเอียดเล็กน้อยเพื่อให้กรรมการเห็นแล้วประทับใจในความสามารถของเรา รับรองว่าจะทำให้พวกเขาตะลึงแน่นอน!
 

  • ใส่กิจกรรมเด่นๆ ขึ้นหน้าแรกเลย!
     กรรมการมีเวลาจำกัดเวลาดูพอร์ต ดังนั้นเราต้องแสดงให้เห็นเลยว่าเรามีดีอะไรบ้าง ชอบทำอะไร แข่งขันอะไรมาบ้าง โชว์เลยตั้งแต่ต้น เช่น การแข่งขันระดับโลก, การเข้าค่ายโอลิมปิก, หรือโปรเจกต์ที่เราภูมิใจมากๆ นำมาใส่ในส่วนแรกๆ เลยนะคะ

     สุดท้ายนี้แอดมินอยากแนะนำให้ทุกคนลองเขียนเนื้อหาเองดูก่อน ถ้าจ้างทำก็ส่งเนื้อหาที่เขียนเองไปให้ร้านจัดวางแทนก็ได้ เพราะถ้าเราจ้างเขียนเนื้อหาหรือ SOP, เราจะไม่ได้ถ่ายทอดตัวตนของเราออกมา 100% เดี๋ยวถึงวันสัมภาษณ์จะไม่คุ้นเคยกับ Portfolio ของตัวเองเลย ดังนั้นเขียนเองดีที่สุด