ตามที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ขอความร่วมมือไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้กำหนดจำนวนหน้า Portfolio ของน้อง ๆ ไม่เกิน 10 หน้า (แบบไม่รวมหน้าปก) วันนี้พี่จะพาน้องๆ ไปเตรียม 5 ส่วนสำคัญที่ต้องมีใน Portfolio มีครบรับรองว่าสอบติด จบสวยแน่นอน
หน้าปก (หน้าที่ 0)
โจทย์ของน้อง ๆ ก็คือ ทำยังไงก็ได้ให้เห็นปุ๊บแล้วคนหยิบขึ้นมาดูปั๊บเลย น้องควรออกแบบให้สะดุดตา ลองใส่รูปตัวเองลงไป นำเสนอตัวเองเต็มที่ เข้าใจง่าย สรุปเนื้อหาแบบสั้นๆ และมีรายละเอียดครบถ้วนคือ ของใคร ชั้นอะไร เรียนที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ต้องเน้นส่วนที่เป็นตัวของเราที่สุด ทำออกมาให้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด
ประวัติส่วนตัว (Resume) (หน้าที่ 1)
มีข้อมูลพื้นฐานครบถ้วน เน้นความสามารถพิเศษ ทักษะที่เอื้อต่อการเรียนในคณะที่ยื่น งานอดิเรก รูปภาพที่ชัดเจน
ประวัติการศึกษา (หน้าที่ 2)
ใส่โรงเรียนที่จบมาในแต่ละระดับชั้น อาจแยกแค่ ม.ต้น ม.ปลาย ก็ได้ และได้เกรดเฉลี่ย(GPAX)เท่าไหร่ ใส่เกรดเฉลี่ยตามปีการศึกษา และโรงเรียน แนะนำว่าการทำใส่ตารางจะช่วยทำให้กรรมการอ่าน และเข้าใจได้ง่ายขึ้น
เหตุผลที่เลือกเรียนในคณะ/สาขานี้ (หน้าที่ 3)
เขียนเป็นเรียงความแบบย่อ ความยาวไม่เกิน 1 หน้า A4 ให้เน้นแสดงถึงความตั้งใจ และทัศนคติที่ดีต่อคณะ บางโครงการจะกำหนดหัวข้อมาให้ด้วย น้อง ๆ สามารถศึกษาได้จากระเบียบการของโครงการนั้น ๆ ได้เลย
รางวัล ผลงาน เกียรติบัตร (หน้าที่ 4-7) และกิจกรรม (หน้าที่ 8-7)
ส่วนนี้เป็นการดึงเอาผลงานเด่น ๆ ของน้องมาใส่ ถ้าคัดเฉพาะที่เกี่ยวกับคณะที่สมัครได้จะดีมาก ส่วนนี้ถือว่าเป็นส่วนหัวใจของการทำ Portfolio เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นส่วนที่เราจะเสนอว่าเรามีความสามารถมากเพียงไหน ควรแบ่งเป็นหมวดหมู่ ทำเป็นตารางและแนบเอกสารอ้างอิงด้วย
หมายเหตุ: ถ้ามหาวิทยาลัยกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมอื่น ๆ ให้ปรับตามที่มหาวิทยาลัยนั้น ๆ กำหนด
#Dek62 เหลือเวลาอีกเพียง 22 วันสุดท้าย สำหรับการทำ Portfolio ยื่นรอบที่ 1
มาทำพอร์ตง่ายๆในโทรศัพท์กันเถอะ เพียง 10 นาทีก็มีพอร์ตยื่นสมัครคณะ สาขา มหาวิทยาลัยในฝัน
พิเศษ ! พอร์ตละ 50 บาท ถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น !!!
สมัครคลิก > www.TCASportfolio.com