สอบเข้ามหาวิทยาลัย

กสพท 62 กำหนดการ จำนวนรับ และหลักเกณฑ์การคิดคะแนน


ช่วงเวลาของน้องๆ ที่มีความฝันเรียนในคณะแพทยศาสตร์, ทันตแพทยศาสตร์, สัตวแพทยศาสตร์, เภสัชศาสตร์ มาถึงแล้วเพราะตอนนี้ฤดูการสมัครสอบวิชาเฉพาะ กสพท อย่างเป็นทางการแล้วนั้นเอง โดยมีการแถลงข่าวในช่วงเช้าที่ผ่านมา (3 ตุลาคม 2561)

 

โดยวิชาเฉพาะของ กสพท. จะเปิดให้สมัคร 

ในวันที่ 10 - 31 ตุลาคม 2561 นี้




ในส่วนของสัดส่วนคะแนนที่นำมาคัดเลือกน้องๆ นั้นคือ วิชาสามัญ 70% และวิชาเฉพาะ 30% โดยวิชาสามัญก็มาจากการสอบวิชาสามัญ ประกอบไปด้วย วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา) 40% + คณิตศาสตร์ 1 20% + ภาษาอังกฤษ 20% + ภาษาไทย 10% + สังคมศึกษา 10%

โดยที่น้องๆ ที่กำลังศึกษา ม.6 ตอนนี้ ต้องได้คะแนนรวมของ O-NET ไม่น้อยกว่า 60% ถึงจะผ่านการคัดเลือก ส่วนเด็กซิ่วไม่ใช้ O-Net มาคัดเลือก





กำหนดการ

สมัครสอบวิชาเฉพาะ กสพท 
วันที่ : 10 – 31 ต.ค. 61

สมัครสอบและเข้าสอบ O-NET  
(วันสมัครติดตามประกาศของ สทศ.)
วันสอบ  2 – 3 มี.ค. 62
สอบวิชาเฉพาะ จัดสอบโดย กสพท  9 มี.ค. 62

สมัคร และเข้าสอบ 9 วิชาสามัญ (วันสมัครติดตามประกาศของ สทศ.)
ใช้คะแนน 7 วิชาได้แก่ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์1 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และสังคมศึกษา
วันสอบ 16 -17 มี.ค. 62

ประกาศคะแนนวิชาเฉพาะ
วันที่ : 25 มี.ค. 62

ผู้เข้าสอบยื่นคำร้องขอตรวจคะแนนวิชาเฉพาะ
วันที่ : 25 – 27 มี.ค. 62

ประกาศผลสอบ O-NET
วันที่ : 31 มี.ค. 62

สมัครผ่านระบบ TCAS และชำระเงินค่าสมัครตามจำนวนสาขาวิชาที่เลือก โดยสาขาวิชาใน กสพท เป็น 1 ใน 6 อันดับ 
วันที่ : 17 – 29 เม.ย. 62

ส่งรายชื่อผู้สมัครที่ได้จัดเรียงลำดับของแต่ละสาขาวิชาเข้าระบบ TCAS
วันที่ : 6 พ.ค. 62

ทปอ. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์และตรวจสุขภาพ
วันที่ : 9 พ.ค. 62

สอบสัมภาษณ์/ตรวจสุขภาพ
หากไม่ต้องการเข้าศึกษาให้ดำเนินการดังนี้
- ไม่ไปสอบสัมภาษณ์ หรือ
- แจ้งให้สาขาวิชาที่ได้รับการประกาศรายชื่อทราบว่าไม่ต้องการใช้สิทธิ์เข้าศึกษา
วันที่ : 10 – 14 พ.ค. 62

กสพท ส่งรายชื่อผู้ผ่านการสอบสัมภาษณ์และตรวจสุขภาพไปให้ ทปอ.
วันที่ : 15 พ.ค. 62

ทปอ. ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบสัมภาษณ์และตรวจสุขภาพ
วันที่ : 17 พ.ค. 62

 

จำนวนรับ

เปิดรับจำนวน  รวม 2,644 ที่นี่ง


 

คณะแพทย์ 20 สถาบัน 

1.คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น   20 คน
2.คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 182 คน 
3.คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย – กรมแพทย์ทหารอากาศ กองทัพอากาศ  30 คน
4.คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  55 คน
5.คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  65 คน
6.คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร  30 คน
7.คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล 154 คน
8.คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล-วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์  20 คน
9.คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล  262 คน
10.วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต (โรงพยาบาลราชวิถี)   50 คน
11.วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต (โรงพยาบาลเลิดสิน) 15 คน
12.คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ  180 คน 
13.คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  40 คน 
14.คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  70 คน
15.วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า** เพศชาย  57 คน
16.วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า** เพศหญิง 38 คน
17.สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี  10  คน
18.คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา   30  คน
19.สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 12  คน
20.คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม  15  คน
 

คณะทันตแพทยศาสตร์ 8 สถาบัน 

1.คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  80 คน
2.คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล   83 คน
3.คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่   24 คน
4.คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์   20  คน
5.คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ   55  คน
6.คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  15 คน
7.คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  30 คน
8.คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร   17 คน
 

คณะสัตวแพทยศาสตร์ 9 สถาบัน 

1.คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  150 คน
2.คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  100 คน
3.คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  30 คน
4.คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  25 คน
5.คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล  40 คน
6.คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร 10 คน
7.คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 10 คน
8.คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก  30  คน
9.คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย 10 คน
 

คณะเภสัชศาสตร์ 12 สถาบัน

1.คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม)  75 คน
2.คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สาขาวิชาเภสัชกรรมอุตสาหการ)  80 คน
3.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 120 คน
4.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  65 คน
5.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม)  20 คน
6.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (สาขาวิชาเภสัชกรรมอุตสาหการ) 20 คน
7.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม)  10 คน
8.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  45 คน
9.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม)  10 คน
10.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา 100 คน
11.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม (สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม) 15 คน
12.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ 20 คน

*** ข้อมูล ณ วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561 จำนวนรับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงทั้งเพิ่ม หรือลดได้ โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ



สนามสอบวิชาเฉพาะ

1.กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
2.จังหวัดเชียงใหม่
3.จังหวัดขอนแก่น
4.จังหวัดสงขลา
5.จังหวัดพิษณุโลก
6.จังหวัดอุบลราชธานี
7.จังหวัดชลบุรี
8.จังหวัดนครราชสีมา



 

ดาวน์โหลดเอกสารสำหรับคุณครู

เอกสารอินโฟกราฟฟิกส์ PDF >> ไฟล์แนบ 
สื่อการเรียนการสอน PowerPoint >> ไฟล์แนบ  ||  เวอร์ชัน PDF >> ไฟล์แนบ

 

ดาวน์โหลดเอกสารประกาศ กสพท

ฉบับที่ 1 >> ไฟล์แนบ
ฉบับที่ 2 >> ไฟล์แนบ

 

เวลาในการทำข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์


 

 

 

การเตรียมเอกสาร


              ก่อนสมัคร เราก็มาเตรียมเอกสารกันให้เรียบร้อยกันดีกว่า.. เพราะเอกสารต่างๆ นี้น้องๆ จะต้องอัปโหลดเข้าระบบการสมัครด้วย หากไม่สมบูรณ์หรือเอกสารผิดก็จะสมัครไม่ผ่าน เสียเวลาที่พวกเราต้องนั่งแก้ไขกันไปอีก

              พร้อมกันหรือยัง มาเตรียมเอกสารไปพร้อมกันเถอะ!

เอกสารฉบับที่ 1 : รูปถ่าย 

              สำหรับภาพถ่ายนั้นเหมือนทุกปี นั่นคือเป็นภาพเดี่ยว พื้นหลังสีขาวหรือสีน้ำเงิน ต้องหน้าตรงเต็มหน้า สวมชุดสุภาพ ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นสายตาและแว่นตาดำ ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน จะไม่มีการปรัับแต่งทางดิจิตอล เป็นไฟล์นามสกุล .jpg มีความกว้าง 180 - 500 pixel และความสูง 200 - 600 pixel และมีขนาดของไฟล์ไม่เกิน 240 kb

เอกสารฉบับที่ 2 : สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

              เอกสารต่อมา น้องๆ สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชน ไปถ่ายเอกสาร ในด้านหน้าที่มีรูปถ่ายของน้องๆ เพียงด้านเดียว ลงชื่อ-สกุล รับรองสำเนาถูกต้องด้วยลายมือของน้องๆ เอง แล้วสแกนเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นไฟล์นามสกุล .jpg หรือ .pdf ขนาดเท่ากับ A4 ไม่เกิน 2 mb 

              โดยจุดนี้เป็นปัญหามาทุกปี เพราะน้องๆ ลืมเซ็นและลงลายมือชื่อสำเนาถูกต้องหลายคนเลย ดังนั้นอย่าลืมกันนะ ;)


 

เอกสารฉบับที่ 3 : สำเนาเอกสารเพิื่มเติม และวุฒิการศึกษาอื่นๆ 


              สำหรับเอกสารเพิ่มเติมและวุฒิการศึกษาอื่นๆ ก็จะมีวิธีที่เหมือนกันกับบัตรประชาชน คือให้นำไปถ่ายเอกสารก่อน แล้วสแกนเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นไฟล์นามสกุล .jpg หรือ .pdf ขนาดเท่ากับ A4 ไม่เกิน 2 mb 

              โดยปีนี้ น้องๆ ที่กำลังศึกษาชั้น ม.6 จะส่งแค่เพียงใบ ปพ.7 (ใบรับรองผลการศึกษา) ส่วนน้องๆ ที่จบการศึกษาแล้ว จะใช้ ปพ.1:พ (ระเบียนแสดงผลการเรียน) หรือ ปพ.2 (ใบประกาศนียบัตร)

              หากเป็นน้องๆ ที่กำลังศึกษาที่สูงกว่าปีที่ 1 ต้องใช้เอกสารอนุมัติการลาออกแนบมาด้วยนะ


 

สรุปเอกสารที่ต้องเตรียมในการสมัคร


สำหรับน้องๆ ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
              1. รูปถ่ายของผู้สมัคร
              2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
              3. สำเนาเอกสารคุณวุฒิการศึกษา 
                            - ปพ.7 ( ใบรับรองผลการศึกษา ) ที่มีตราโรงเรียนประทับ และผ่านการรองรับเอกสารโดยนายทะเบียนหรือ ผู้อำนวยการสถานศึกษา
 

สำหรับน้องๆ ที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้ว 
              1. รูปถ่ายของผู้สมัคร
              2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
              3. สำเนาเอกสารคุณวุฒิการศึกษา 
                            - ปพ.1:พ (ระเบียนแสดงผลการเรียน) หรือ ปพ.2 (ใบประกาศนียบัตร)
                            - ใบลาออกจากการเป็นนิสิตนักศึกษา (ในกรณีที่ศึกษาเกินชั้นปีที่ 1 ในมหาวิทยาลัยรัฐ)


 

ดาวน์โหลดเอกสารสำหรับคุณครู

สื่อการเรียนการสอนการเตรียมเอกสารสมัคร กสพท PowerPoint >> ไฟล์แนบ ||  เวอร์ชัน PDF >> ไฟล์แนบ

 

การสมัครสอบวิชาเฉพาะ กสพท 2562

              หลังจากเราเตรียมเอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ก็มาสมัครกันได้เลย!
 

1. เข้าเว็บไซต์ http://www9.si.mahidol.ac.th/

              แล้วจะเห็นข้อความว่า "เปิดรับสมัครสอบวิชาเฉพาะ กสพท 2562" ให้ทำการกดปุ่ม "รายละเอียด" ได้เลย


2. หน้าขั้นตอนการสมัคร

              จะพบหน้ารายละเอียดขั้นตอนการสมัคร ให้น้องๆ อ่านทำความเข้าใจ หลังจากนั้นกดปุ่ม "สมัครสอบ"


3. ส่วนที่ 1 : ข้อมูลส่วนตัว

              กรอกข้อมูลของน้องๆ ลงไปได้เลย โดยจะมีให้กรอกชื่อ - สกุล / อายุ / เลขบัตรประชาชน / ที่อยู่ / หมายเลขโทรศัพท์ / E-mail (กรอกข้อมูลให้ถูกต้องตามความเป็นจริง)


4. ส่วนที่ 2 : สถานศึกษาที่กำลังศึกษา

              ในส่วนนี้ให้น้องเลือกว่ากำลังศึกษาอยู่ระดับไหน และที่ใด 


5. ส่วนที่ 3 : อันดับที่ต้องการ

              เนื่องจากการเลือกอันดับจะเลือกในระบบ TCAS รอบที่ 3 (รับตรงร่วมกัน) ในตอนนี้จึงยังไม่สามารถเลือกลำดับได้ โดยให้น้องๆ กดที่ช่องเพื่อทำเครื่องหมายว่ารับทราบแล้ว 


              เมื่อกดขั้นตอนต่อไปแล้ว จะขึ้นกล่องข้อความแสดงเตือนว่าน้องได้รับทราบแล้ว ให้กด "ยืนยัน" อีกครั้งเพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป


6. ส่วนที่ 4 : เลือกสนามสอบ

              น้องๆ สามารถเลือกลำดับจังหวัดสนามสอบ ยกเว้น กทม.และปริมณฑล เลือกลำดับเขต 1-4 


7. ส่วนที่ 5 : อัปโหลดไฟล์

              ส่วนนี้เป็นการอัปโหลดไฟล์รูปถ่าย / บัตรประชาชน / เอกสารวุฒิทางการศึกษา จากที่เราได้เตรียมไว้ในตอนต้น ก็มากดเลือกไฟล์ได้เลย 

              ในขั้นตอนนี้ น้องๆ ต้องเตรียมเอกสารทั้งหมดให้ครบแล้วอัปโหลดให้เรียบร้อยด้วยนะครับ (ไม่สามารถกลับมาอัปเพิ่มเติมได้ในภายหลังแล้วนะ)



              เมื่อกดเลือกไฟล์แล้ว จะขึ้นหน้าต่าง Pop-up ขึ้นมา เพื่อให้เรากดเลือกไฟล์ และกดอัปโหลด



              หากไฟล์อัปโหลดเรียบร้อย จะขึ้นภาพตัวอย่าง สามารถกดปิดเพื่อไปอัปโหลดเอกสารอื่นๆ หรือไปขั้นตอนต่อไปได้เลย


8. ส่วนที่ 6 : ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล

              เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จสิ้น และอัปโหลดไฟล์เอกสารทั้งหมดแล้ว จะพบกับหน้านี้ โดยให้น้องๆ ทำการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ทั้งข้อมูลของตนเอง / สถานที่สอบ และหลักฐาน ว่าถูกต้องและครบถ้วนหรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็ยังสามารถกลับไปแก้ไขได้

              หากถูกต้องแล้ว ให้กดที่กล่องท้ายหน้า เพื่อยืนยันว่าข้อมูลในแบบฟอร์มนี้ถูกต้อง เพื่อไปขั้นตอนถัดไป



              หากกด "ยืนยันข้อมูล" แล้ว จะพบกล่องข้อความเตือนว่าระบบกำลังจะบันทึกข้อมูล ให้กด OK เพื่อยืนยันและดำเนินการต่อ


9. สมัครเรียบร้อย!

              หากเราสมัครถูกต้อง เมื่อกด OK จะถือว่าการสมัครเสร็จสมบูรณ์ ให้น้องๆ เตรียมพิมพ์เอกสารการชำระเงินนำไปชำระ และรอตรวจสอบเอกสารได้เลย



 

การพิมพ์เอกสารชำระเงิน / ตรวจสอบสถานะการสมัคร

1. เข้าสู่ระบบ

              เมื่อสมัครเสร็จสิ้น จะเข้าสู่หน้าต่างเข้าสู่ระบบให้เลย หรือสำหรับน้องๆ ที่ปิดไปก่อน สามารถเข้าได้ผ่านเมนู "ตรวจสอบสถานะ การสมัครสอบวิชาเฉพาะ กสพท 2561" ผ่านหน้าเว็บไซต์ http://www9.si.mahidol.ac.th/

              โดยใส่เลขบัตรประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์ หรือ E-mail เข้าไป แล้วกด Login


2. หน้าตรวจสอบสถานะ

              หากเข้าสู่ระบบได้แล้ว จะพบกับหน้าที่จะแจ้งข้อมูล และสถานะทั้งการชำระเงินและการตรวจสอบเอกสาร ในส่วนด้านล่างจะเป็นเมนูพิมพ์ใบสมัคร และพิมพ์ใบจ่ายเงิน

              โดยที่น้องๆ จะต้องพิมพ์ใบจ่ายเงินก่อน และนำไปชำระเงิน จำนวน 800 บาท ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ Mobile App ของ SCB หรือ ตู้ ATM ของ SCB ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 ทาง กสพท จึงจะตรวจสอบเอกสารของน้องๆ


3. หน้าพิมพ์ใบสมัคร (กสพท 01)

              เมื่อกดปุ่ม "ปริ้นท์ใบสมัคร" จะแสดงกล่องข้อความแจ้งเตือนดังนี้ แล้วกด OK


              เมื่อกด OK แล้ว ก็ไปทำเครื่องหมายที่กล่อง Checkboc เพื่อยืนยันว่าข้อมูลถูกต้องแล้ว แล้วจึงกดพิมพ์ หน้าจอพิมพ์ก็จะขึ้นมา (อย่าลืมตั้งค่าหน้ากระดาษเป็น A4 และกดตั้งค่าไม่ให้แสดง Header & Footer ด้วยนะ)


4. หน้าพิมพ์ใบจ่ายเงิน (กสพท 01)

              เมื่อกดปุ่ม "ปริ้นท์ใบจ่ายเงิน" จะแสดงกล่องข้อความแจ้งเตือน หากเข้าใจแล้วกด OK



              เมื่อกด OK แล้ว จะปรากฎหน้าพิมพ์ออกมา โดยแจ้งรายละเอียดผู้สมัครและการชำระอย่างครบถ้วย อย่าลืมตรวจสอบความถูกต้องก่อนด้วยนะ แล้วจึงกดพิมพ์ หน้าจอพิมพ์ก็จะขึ้นมา (อย่าลืม.. ตั้งค่าหน้ากระดาษเป็น A4 และกดตั้งค่าไม่ให้แสดง Header & Footer)

              โดยที่น้องๆ จะต้องพิมพ์ใบจ่ายเงินก่อน และนำไปชำระเงิน จำนวน 800 บาท ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 ตามช่องทางที่กำหนด แล้วทาง กสพท จึงจะตรวจสอบเอกสารของน้องๆ




              เรียบร้อยไปแล้วสำหรับการเตรียมตัวและการสมัครสอบวิชาเฉพาะ กสพท ปีการศึกษา 2562 นี้.. ยังไงอย่างที่หน้าเว็บไซต์รับสมัครแจ้งไว้ว่าต้องรอบคอบ ตรวจสอบถวามถูกต้องให้ดีด้วยนะ เพราะหากเกิดผิดขึ้นมา อาจจต้องเสียเวลาในการส่งเอกสารใหม่อีกครั้ง