สอบเข้ามหาวิทยาลัย
เทคนิคพิชิต วิชาเฉพาะ กสพท 62
วันที่เวลาโพส
20 ก.ย. 61 14:58 น.
อ่านแล้ว
10,140
ก่อนที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย อย่างแรกเราต้องรู้จักตัวเองก่อน ยิ่งรู้จักตัวเองเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี อย่างพี่เช่นพี่แจ๊บรู้จักตัวเองว่าอยากเป็นหมอในตอน ม.4 – ม.5 เมื่อพี่แจ๊บรู้ว่าเราอยากเป็นหมอ จะทำให้พี่แจ๊บเตรียมตัวได้อย่างเร็ว เริ่มที่อ่านหนังสือเร็วแต่ว่าอ่านไปเรื่อยๆ วันละนิดวันละหน่อย ในช่วงท้ายๆ เราจะไม่เครียด พอเราไม่เครียดเราก็จะทำข้อสอบออกมาได้ดี และก็สามารถอ่านทวนได้หลายๆ รอบด้วย เพราะว่าเราเริ่มดี เตรียมตัวดี
เทคนิคการอ่านหนังสือของพี่แจ๊บมีอะไรบ้าง?
เทคนิคการอ่านหนังสือก็คือเราอ่านตามแนวข้อสอบ ถ้าเราอ่านตามแนวข้อสอบเราก็ไม่ต้องอ่านเยอะ เราอ่านน้อย อ่านตรงจุด อ่านน้อยแต่ได้มากแบบนี้ครับ สำหรับเทคนิคการแบ่งเวลาอ่านหนังสือของพี่ก็คือ จัดเวลาอ่านหนังสือวันละ 4 ชั่วโมง จะได้ไม่ต้องเครียดมาก ไม่ต้องอัดมากในช่วงท้ายๆ พี่ก็แบ่งเป็นวิชาละ 2 ชั่วโมง จะได้ไม่ต้องเบื่อมาก และโฟกัสมันได้
สำหรับเทคนิคการอ่านหนังสือของพี่ คือพี่ไม่ใช่คนที่ชอบเลคเชอร์ เพราะว่าเลคเชอร์แล้วอ่านไม่รู้เรื่อง สิ่งที่พี่ทำก็คือ พี่จะดอกจันตรงไหนที่พี่รู้สึกว่าพี่ไม่เข้าใจ ตรงไหนที่ยังจำไม่ได้ก็ดอกจันเอาไว้ก่อน พออ่านจบ 1 รอบ ก็กลับมาอ่านตรงที่เราดอกจันเอาไว้ใหม่ ช่วงใกล้ๆ สอบก็กลับมาอ่านอีก 1 รอบ ก็จะจำได้ไม่ต้องเลคเชอร์ด้วย แต่เทคนิคการเลคเชอร์หรือไม่เลคเชอร์มันแล้วแต่คนว่า ใครชอบแบบไหน ใครถนัดแบบไหนมากกว่า
ก่อนวันสอบพี่แจ๊บมีการทบทวน หยิบหนังสือขึ้นอ่านเพิ่มเติมไหม?
ก่อนวันสอบจริงเราควรเอาเนื้อหาที่เรารู้สึกว่าเรายังไม่แม่น กลับมานั่งอ่านใหม่ถึงสักประมาณ 4-5 โมงเย็นก็พอ แล้วไปพักผ่อนหรือไปทำอะไรก็ได้ที่เราอยากทำ และเราก็นอนสัก 2-3 ทุ่ม วันสอบตื่นมาจะได้สมองไบรท์ และก็ทำข้อสอบได้ไม่ประมาท
ก่อนเข้าห้องสอมควรเอาตำราขึ้นมาทบทวนไหม ?
ก่อนเข้าห้องสอบไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ ตั้งสมาธิอย่างเดียว และในห้องสอบต้องยอมรับว่าทุกคนต้องตื่นเต้นอยู่แล้ว อย่างพี่พี่ก็คิดว่า เห้ย! รู้สึกว่าเหมือนทำข้อสอบอยู่ที่บ้าน แบบนี้จะดีกว่า ถ้ารู้สึกแบบนี้มันจะไม่ค่อยตื่นเต้น พอไม่ตื่นเต้นไม่เครียด เราก็จะไม่ประมาทด้วย
ปี 60 คะแนนข้อสอบ กสพท. เฟ้อมาก ข้อสอบจริงๆ เป็นอย่างไรบ้าง ?
ที่คะแนนสอบ กสพท. ของปีนี้ มันสูงขึ้น ไม่ใช่เพราะว่าพี่ๆ เก่งขึ้นนะครับ จริงๆ เพราะว่าข้อมันง่ายลง จะมีแค่วิชาคณิตศาสตร์ตัวเดียวที่มันยากขึ้น แต่วิชาอื่นคือง่ายลงหมดเลย น้องๆ ก็ไม่ต้องตื่นเต้น ไม่ต้องตกใจ และก็ไม่ต้องกังวลกับคะแนนที่สูงขึ้นครับ
ช่วยแนะนำเทคนิคให้น้องๆ ว่าเราควรจัดการกับข้อสอบวิชาความถนัดแพทย์อย่างไร ?
ข้อสอบของความถนัดแพทย์อย่างนี้ ก็จะแบ่งเป็น 3 พาร์ท มีพาร์ทเชื่อมโยง พาร์ทจริยธรรม และก็พาร์ทเชาว์ปัญญา สำหรับพาร์ทเชาว์ปัญญาสิ่งที่เราทำได้ก็คือการทำเยอะๆ การทำเยอะๆ จะทำให้เราเห็นแนวข้อสอบที่หลากหลาย และเราจะคิดออกว่าเจอข้อนี้ มันต้องทำอย่างนี้ ส่วนพาร์ทจริยธรรม สิ่งที่ต้องทำก็คือเอาหลักการมาใส่ในหัวเรา แล้วให้เราเป็นคนดีและตอบออกไป ต้องมั่นใจในคำตอบของตัวเอง ส่วนพาร์ทเชื่อมโยงสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สติในวันทำข้อสอบ ต้องอ่านทบทวนหลายๆ รอบ และก็ต้องมีสติเชื่อมโยงมันครับ
สุดท้ายเป็นกำลังใจให้น้องๆ ที่อยากจะเข้าแพทย์เหมือนกัน ?
ถ้าน้องคนไหนที่รู้ตัวว่าเราอยากเป็นอะไร? เราต้องมีความตั้งใจที่จะทำมันให้สำเร็จให้ได้ พี่ก็ขอให้น้องคนไหนที่ตั้งใจทำมันจริงๆ ขอให้สอบติดตามที่ตัวเองคาดหวังครับ
เทคนิคการอ่านหนังสือของพี่แจ๊บมีอะไรบ้าง?
เทคนิคการอ่านหนังสือก็คือเราอ่านตามแนวข้อสอบ ถ้าเราอ่านตามแนวข้อสอบเราก็ไม่ต้องอ่านเยอะ เราอ่านน้อย อ่านตรงจุด อ่านน้อยแต่ได้มากแบบนี้ครับ สำหรับเทคนิคการแบ่งเวลาอ่านหนังสือของพี่ก็คือ จัดเวลาอ่านหนังสือวันละ 4 ชั่วโมง จะได้ไม่ต้องเครียดมาก ไม่ต้องอัดมากในช่วงท้ายๆ พี่ก็แบ่งเป็นวิชาละ 2 ชั่วโมง จะได้ไม่ต้องเบื่อมาก และโฟกัสมันได้
สำหรับเทคนิคการอ่านหนังสือของพี่ คือพี่ไม่ใช่คนที่ชอบเลคเชอร์ เพราะว่าเลคเชอร์แล้วอ่านไม่รู้เรื่อง สิ่งที่พี่ทำก็คือ พี่จะดอกจันตรงไหนที่พี่รู้สึกว่าพี่ไม่เข้าใจ ตรงไหนที่ยังจำไม่ได้ก็ดอกจันเอาไว้ก่อน พออ่านจบ 1 รอบ ก็กลับมาอ่านตรงที่เราดอกจันเอาไว้ใหม่ ช่วงใกล้ๆ สอบก็กลับมาอ่านอีก 1 รอบ ก็จะจำได้ไม่ต้องเลคเชอร์ด้วย แต่เทคนิคการเลคเชอร์หรือไม่เลคเชอร์มันแล้วแต่คนว่า ใครชอบแบบไหน ใครถนัดแบบไหนมากกว่า
ก่อนวันสอบพี่แจ๊บมีการทบทวน หยิบหนังสือขึ้นอ่านเพิ่มเติมไหม?
ก่อนวันสอบจริงเราควรเอาเนื้อหาที่เรารู้สึกว่าเรายังไม่แม่น กลับมานั่งอ่านใหม่ถึงสักประมาณ 4-5 โมงเย็นก็พอ แล้วไปพักผ่อนหรือไปทำอะไรก็ได้ที่เราอยากทำ และเราก็นอนสัก 2-3 ทุ่ม วันสอบตื่นมาจะได้สมองไบรท์ และก็ทำข้อสอบได้ไม่ประมาท
ก่อนเข้าห้องสอมควรเอาตำราขึ้นมาทบทวนไหม ?
ก่อนเข้าห้องสอบไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ ตั้งสมาธิอย่างเดียว และในห้องสอบต้องยอมรับว่าทุกคนต้องตื่นเต้นอยู่แล้ว อย่างพี่พี่ก็คิดว่า เห้ย! รู้สึกว่าเหมือนทำข้อสอบอยู่ที่บ้าน แบบนี้จะดีกว่า ถ้ารู้สึกแบบนี้มันจะไม่ค่อยตื่นเต้น พอไม่ตื่นเต้นไม่เครียด เราก็จะไม่ประมาทด้วย
ปี 60 คะแนนข้อสอบ กสพท. เฟ้อมาก ข้อสอบจริงๆ เป็นอย่างไรบ้าง ?
ที่คะแนนสอบ กสพท. ของปีนี้ มันสูงขึ้น ไม่ใช่เพราะว่าพี่ๆ เก่งขึ้นนะครับ จริงๆ เพราะว่าข้อมันง่ายลง จะมีแค่วิชาคณิตศาสตร์ตัวเดียวที่มันยากขึ้น แต่วิชาอื่นคือง่ายลงหมดเลย น้องๆ ก็ไม่ต้องตื่นเต้น ไม่ต้องตกใจ และก็ไม่ต้องกังวลกับคะแนนที่สูงขึ้นครับ
ช่วยแนะนำเทคนิคให้น้องๆ ว่าเราควรจัดการกับข้อสอบวิชาความถนัดแพทย์อย่างไร ?
ข้อสอบของความถนัดแพทย์อย่างนี้ ก็จะแบ่งเป็น 3 พาร์ท มีพาร์ทเชื่อมโยง พาร์ทจริยธรรม และก็พาร์ทเชาว์ปัญญา สำหรับพาร์ทเชาว์ปัญญาสิ่งที่เราทำได้ก็คือการทำเยอะๆ การทำเยอะๆ จะทำให้เราเห็นแนวข้อสอบที่หลากหลาย และเราจะคิดออกว่าเจอข้อนี้ มันต้องทำอย่างนี้ ส่วนพาร์ทจริยธรรม สิ่งที่ต้องทำก็คือเอาหลักการมาใส่ในหัวเรา แล้วให้เราเป็นคนดีและตอบออกไป ต้องมั่นใจในคำตอบของตัวเอง ส่วนพาร์ทเชื่อมโยงสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สติในวันทำข้อสอบ ต้องอ่านทบทวนหลายๆ รอบ และก็ต้องมีสติเชื่อมโยงมันครับ
สุดท้ายเป็นกำลังใจให้น้องๆ ที่อยากจะเข้าแพทย์เหมือนกัน ?
ถ้าน้องคนไหนที่รู้ตัวว่าเราอยากเป็นอะไร? เราต้องมีความตั้งใจที่จะทำมันให้สำเร็จให้ได้ พี่ก็ขอให้น้องคนไหนที่ตั้งใจทำมันจริงๆ ขอให้สอบติดตามที่ตัวเองคาดหวังครับ
