แน่นอนว่าถ้าคุณ Search คำที่เกี่ยวกับ
Ginius ไอคิว อัจฉริยะ หรือ
นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญ ในหน้าค้นหาของ Google ต้องปรากฏหน้าของ
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์และนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน โผล่มาเป็นสัญลักษณ์ของคำเหล่านั้น เรารู้จักเขาในชื่อนักฟิสิกส์ผู้คิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 20
บางคนที่เคยศึกษาประวัติของไอน์สไตน์อาจทราบว่า นอกจากไอน์สไตน์จะเป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะแล้ว เขายังเป็นนักไวโอลินฝีมือดีอีกด้วย แต่นั่นก็เป็นเพียงหนึ่งในเรื่องไม่ลับของไอน์สไตน์ที่น้อยคนจะรู้ และไม่นานมานี้
นิตยสาร National Geographic ก็ได้เผยแพร่
10 เรื่องราวที่น้อยคนจะรู้เกี่ยวกับไอน์สไตน์ เพื่อทำให้ทุกคนได้รู้จักและเรียนรู้เรื่องราวอันน่าสนใจของอัจฉริยะบุคคลผู้นี้มากยิ่งขึ้น
1. ไอน์สไตน์ละทิ้งสัญชาติเยอรมันของตัวเองแต่อายุ 16 ปี
ในช่วงของการเป็นวัยรุ่น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เกลียดชังลัทธิชาตินิยมและรู้สึกว่ามันจะดีกว่าถ้าเขาจะถือสัญชาติเป็น
"พลเมืองของโลก" ดังนั้น เมื่อตอนที่เขาอายุได้ 16 ปี เขาจึงตัดสินใจละทิ้งสัญชาติเยอรมันของตนเอง และกลายเป็นบุคคลไร้สัญชาติอยู่นานหลายปี จนได้รับสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ในปี 1901
2. ไอน์สไตน์แต่งงานกับนักเรียนหญิงในคลาสฟิสิกส์
Mileva Maric เป็นนักเรียนหญิงเพียงคนเดียวในคลาสฟิสิกส์จากสถาบัน Zurich Polyyechnic เธอมีความหลงใหลในวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และมีความฝันที่จะเป็นนักฟิสิกส์ แต่เธอก็ไม่ได้เป็นดังฝันเมื่อเธอแต่งงานกลายเป็นภรรยาคนแรกของไอน์สไตน์ และมีลูกด้วยกันอีก 3 คน
3. ไอน์สไตน์มีข้อมูลอยู่ในแฟ้มของ FBI มากถึง 1,427 หน้า
ในปี 1933 เอฟบีไอเริ่มจับตามองไอน์สไตน์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่เขาจะเดินทางกลับไปยังสหรัฐเป็นครั้งที่ 3 ในเอกสารของเอฟบีไอมีข้อมูลเกี่ยวกับไอสไตน์มากถึง 1,427 ที่ติดตามชีวิตของเขา สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐระบุไอน์สไตน์ได้สิทธิพิเศษยกเว้นสำหรับคนต่างด้าว แต่ไอน์สไตน์ก็ถูกครอบงำและได้รับอิทธิพลจากกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ
4. ไอน์สไตน์มีลูกนอกสมรส
Mileva ภรรยาในอนาคตของไอน์สไตน์ให้กำเนิดลูกสาวในปี 1902 ในระหว่างที่อาศัยอยู่กับครอบครัวในเซอร์เบีย ทารกมีชื่อว่า
Lieserl และเชื่อกันว่าต่อมาเธอเสียชีวิตตั้งแต่ยังแบเบาะจากโรค หรือไม่ก็ถูกยกให้แก่คนอื่นเป็นลูกบุญธรรม ไอน์สไตน์ไม่เคยพบหน้าลูกคนนี้ และการดำรงอยู่ของหนูน้อย Lieserl ไม่เคยเป็นที่เปิดเผยมาก่อน จนมีการค้นพบจดหมายของไอน์สไตน์ในปี 1987
5. ไอน์สไตน์นำเงินจากรางวัลโนเบลไปใช้หย่าภรรยาคนแรก
ด้วยความคาดหวังว่าจะชนะรางวัลโนเบล ไอน์สไตน์เสนอเงินรางวัลที่คาดว่าจะได้ให้กับภรรยาคนแรก Mileva Maric เพื่อที่เธอจะได้ตกลงหย่ากับเขา เงินรางวัลคาดว่ามีมูลค่าราว 32,250 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 10 เท่าของเงินเดือนศาสตราจารย์ในตอนนั้น
6. ไอน์สไตน์แต่งงานกับญาติของตัวเอง
Elsa ภรรยาคนที่ 2 ของไอน์สไตน์ มีศักดิ์เป็นลูกสาวของน้าไอน์สไตน์หรือน้องสาวแม่ของเขา นั่นแปลว่าพวกเขามีสถานะเป็นญาติกัน นอกจากนั้น พ่อของไอน์สไตน์และพ่อของ Elsa ก็ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกันด้วย
7. ไอน์สไตน์เป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน
ก่อนมาเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิพลเมือง ไอน์สไตน์เป็นผู้สนับสนุนหลักสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพทางการพูด เมื่อตอนที่ William Edward Burghardt ถูกฟ้องในปี 1951 จากการไม่ได้ลงทะเบียนชาวต่างชาติ ไอน์สไตน์อาสาที่จะเป็นพยานรับรองพฤติกรรมของเขา และเมื่อทนายความของ Du Bois แจ้งแก่ศาลว่าไอน์สไตน์เป็นผู้รับรอง ผู้พิพากษาจึงตัดสินใจยกเลิกคดี
8. ลูกชายของไอน์สไตน์ใช้เวลาค่อนชีวิตในสถาบันจิตเวช
Eduard ลูกชายคนที่สองของไอน์สไตน์ ที่มีชื่อเล่นว่า Tete ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคจิตเภท และต้องใช้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของเขาหลายปีในสถาบันจิตเวช นอกจากนั้น Eduard ยังมีความหลงใหลในทฤษฎีของฟรอยด์อีกด้วย ไอน์สไตน์ไม่เคยพบลูกชายอีกเลย หลังเขาอพยพไปอยู่ยังสหรัฐในปี 1933 และต่อมา Eduard ก็เสียชีวิตเมื่ออายุได้ 55 ปี ภายในคลีนิกจิตเวชแห่งหนึ่ง
9. ไอน์สไตน์มีมิตรภาพที่เหนียวแน่นกับบิดาแห่งสงครามเคมี
Fritz Haber เป็นนักเคมีชาวเยอรมัน และเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของไอน์สไตน์ ตัวเขาเป็นชาวยิวที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 Haber พัฒนาแก๊สคลอรีน อาวุธเคมีร้ายแรงที่ใช้ในการโจมตีทหาร ด้วยประสิทธิภาพการเผาไหม้ลำคอ และปอดของศัตรู จนเขาได้ชื่อว่าเป็น "บิดาแห่งอาวุธเคมี"
10. ไอน์สไตน์มีสายสัมพันธ์กับสายลับรัสเซียในปี 1935
ลูกสาวของไอน์สไตน์ Margot ได้แนะนำให้เขารู้จักกับ
Margarita Konenkova และในเวลาต่อมาเธอก็กลายเป็นคนรักคนสุดท้ายของไอน์สไตน์ ข้อมูลนี้ได้รับการสนับสนุนจากเนื้อหาจดหมายรักจำนวน 9 ฉบับที่ไอน์สไตน์ส่งถึง Konenkova และจากหนังสือที่เขียนโดยสายลับรัสเซีย พวกเขาระบุว่า Konenkova เป็นหนึ่งในสายลับรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้ไม่ได้รับการยืนยัน
ที่มา : www.posttoday.com