สอบเข้ามหาวิทยาลัย

เผยเคล็ด(ไม่)ลับค้นหาตัวเองก้าวสู่อาชีพนักบริหารที่ประสบความสำเร็จ

UploadImage


"ทุกคนต้องการขึ้นไปให้ถึงยอดเขา แต่ความสุขและการเรียนรู้นั้นเกิดขึ้นในขณะที่เรากำลังป่ายปีนต่างหาก" 

 

คนที่ได้ทำงานที่ตัวเองรัก ถือว่าน่าอิจฉากว่าคนที่ได้ทำงานที่มีเงินเดือนสูงๆ แต่ไม่มีความสุข เพราะการที่ได้ทำงานที่เรารักนั้นจะทำให้เราไม่รู้สึกว่ามันคือการทำงาน ว่ากันว่า คนที่โชคดีที่สุด ก็คือคนที่ค้นพบว่าตนเองชอบอะไรและได้ทำในสิ่งที่ชอบนั้น แต่การจะค้นพบความฝัน สำหรับบางคน มันก็ไม่ง่าย วันนี้ เราจะมาแนะนำเคล็ดลับในการค้นหาตัวเอง สำหรับน้องๆ นักเรียนที่กำลังจะจบ ม.6 และยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเรียนอะไรดี โดยจะแนะนำคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งน้องๆ ที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักบริหารมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จ ห้ามพลาดเด็ดขาด 

 

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุมกัน คณะบริหารธุรกิจมุ่งเน้นหลักสูตรที่ทันสมัยสอดคล้องกับแนวทางการจัดการสมัยใหม่ และการพัฒนาองค์กรเพื่อตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วรองรับความต้องการของตลาดแรงงานทั้งในประเทศและภูมิภาค Asean โดยมีกลุ่มวิชาที่ทันสมัยที่สุดในประเทศประกอบด้วยการจัดการธุรกิจการบินเรียนจบแล้วมีอาชีพแน่นอน ไม่ตกงาน รายได้ดี มั่นคง เป็นเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับด้านการบินได้ สาขานี้ผู้เรียนสามารถกู้ กรอ. ได้ เพราะเป็นสาขาที่ยังต้องการบุคลากรอีกเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจด้านการบิน โดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มวิชาคือ Air Cargo Management และ Airport Management

 

สาขาการจัดการธุรกิจดิจิทัล มุ่งเน้นให้นักศึกษามีความรู้ทางด้านศิลปะการออกแบบเข้าใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นและการออกแบบที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีเหล่านี้ซึ่งมีส่วนช่วยให้มนุษย์สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ตลอดจนมีความชำนาญในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์งานศิลปะสมัยใหม่และนำเสนอผลงานในวงการวิชาชีพต่อไปอย่างประสบผลสำเร็จ

 

สาขาการค้าระหว่างประเทศมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศและภูมิภาคของโลก กลยุทธ์การดำเนินการค้าระหว่างประเทศ การส่งออกและนำเข้า เข้าใจและสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ที่สำคัญของโลกที่ส่งผลต่อธุรกิจ เนื้อหาและรูปแบบการเรียนการสอนมีความทันสมัย วิทยากรมีชื่อเสียงทางด้านการค้าระหว่างประเทศทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน การผสมผสานระหว่างภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมถึงการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และสร้างเสริมประสบการณ์ความเชี่ยวชาญทางการดำเนินการค้าระหว่างประเทศ เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนสู่มืออาชีพทางด้านการค้าระหว่างประเทศ “International Trade Professionals”

 

สาขาการจัดการจะเน้นทั้งภาคทฤษฎี ปฏิบัติ การบูรณาการ และการศึกษาดูงานเพื่อเตรียมความพร้อมแก่นักศึกษาในการเสริมสร้างทักษะการเป็นนักบริหารรุ่นใหม่และผู้ประกอบการในอนาคต ตลอดจนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางธุรกิจ เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ทำธุรกิจจริงผ่านทาง E-Commerce เพื่อสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพและเป็นแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางธุรกิจที่เกิดขึ้น โดยยึดหลักการเป็นนักธุรกิจที่ดีและมีจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม

 

สาขาการตลาด มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความเข้าใจ และความรู้ด้านการจัดการการตลาด ด้านการวิเคราะห์ วิจัย วางแผนกิจกรรมทางการตลาด แบบบูรณาการ ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ และจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรในรายวิชาโดยวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถทางด้านการตลาด กิจกรรมการเรียนการสอนที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการส่งเสริมความเชี่ยวชาญให้แก่นักศึกษา สร้างประสบการณ์ตรงและรายได้ในระหว่างศึกษา โดยเน้นให้นักศึกษาได้ปฏิบัติงานจริงภายใต้สภาพแวดล้อมทางการแข่งขันของธุรกิจในปัจจุบัน

 

และสุดท้าย สาขาการเงินมุ่งให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจในระบบโครงสร้างการเงิน ทั้งตลาดเงิน ตลาดทุน และจัดเตรียมความพร้อมให้แก่นักศึกษาให้มีความเชี่ยวชาญในการประกอบวิชาชีพด้านการเงินทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยในระหว่างศึกษามีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ อาทิ ศูนย์การเรียนรู้ตลาดทุน Sripatum Investment Center by AIRA เป็นแห่งเดียวในประเทศไทย และ TSI Investment Simulation ซึ่งได้รับความร่วมมือจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีการฝึกให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ความรู้ด้านการวางแผนการเงินสู่ชุมชน และมีการฝึกปฏิบัติงานระหว่างศึกษาทั้งในหน่วยงานเอกชน และหน่วยงานของรัฐ


UploadImage 

 

เมื่อรู้จักคณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัยศรีปทุมดีแล้ว เรามาดูกันว่าบรรดาศิษย์เก่าที่จบออกไปแล้ว พวกเขาประสบความสำเร็จในอาชีพการงานกันมากน้อยแค่ไหน ซึ่งวันนี้จะขอยกตัวอย่างเพียงไม่กี่ท่าน เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว ศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จมีมากมายนับไม่ถ้วนจริงๆ เริ่มที่คุณปรีดา พันธุ์นราวิกิจ เจ้าของธุรกิจและกรรมการบริหารหลายองค์กรธุรกิจ ได้แก่สมูทคอร์ปอเรชั่น, เซฟ-ไทม์โลจิสติกส์, ไทยเอ็กซ์เพรส เอ็นเตอร์ไพรส์, เอ็น ที ซี ดีเวลลอปเม้นท์, ท๊อป เพอร์เซอร์แนล, เขาใหญ่ วัลเล่ย์ คนนี้ก็เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยศรีปทุม  ส่วนอีกคนคือคุณศักดิ์สิน ดำมณี กรรมการบริหาร บริษัทตะวันแดง สาดแสงเดือน จำกัด ก็เป็นศิษย์เก่าคณะบริหารธุรกิจเช่นกัน 

 

 

ทีนี้เรามาดูเทคนิคการค้นหาตัวเองที่น่าสนใจและทำได้ทันที โดยให้เราตั้งคำถามกับตัวเองดังต่อไปนี้ 

1. โตขึ้นอยากทำงานอะไร

ปกติวิธีที่น้องๆ ทำอยู่คือ คิดก่อนว่าจะเรียนอะไรดี แล้วค่อยคิดต่อว่าจบออกมาแล้วจะทำงานอะไร ซึ่งหลายคนตันเพราะวิธีคิดแบบนี้ สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าเราเหมาะจะเรียนคณะไหน แต่ถ้าเปลี่ยนวิธีโดยให้คิดข้ามไปอนาคตเลยว่าอยากทำงานอะไร เช่น หากอยู่ ม.6 ก็นึกข้ามไปเลยว่าอีก 5 ปีข้างหน้าอยากเป็นอะไร เป็นการมองที่จุดหมายปลายทางเลย การมองถึงอาชีพในอนาคตจะช่วยกำหนดแนวทางการเรียนให้ชัดเจนขึ้น น้องๆ ก็จะหาต่อได้ว่าถ้าอยากทำงานนั้นจะต้องเรียนคณะใด เช่นโตขึ้นอยากเป็นนักบริหาร นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องเรียนคณะบริหารธุรกิจ 

ดังนั้นถ้าน้องคนไหนยังคิดไม่ตกว่าอยากเรียนอะไร ลองนึกดูว่าอยากทำงานอะไร วิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีคิดที่รวบรัดและค่อนข้างได้ผลมาก หากมีอาชีพที่ชอบหลายอาชีพ จดมาหลายๆ อาชีพก็ได้แล้วค่อยมาวิเคราะห์ต่อด้วยตัวแปรอื่นๆ ข้อต่อไป สุดท้ายจะได้แนวทางที่เหมาะกับเราที่สุดเอง

2. หาความชอบและสิ่งที่ถนัด

ไม่ว่าทำอะไรก็ตาม หากได้ทำสิ่งที่ชอบและถนัดจะทำให้ทำสิ่งนั้นได้ดีเสมอ ว่างๆ ลองนั่งอยู่กับตัวเองซักวันหนึ่ง หากิจกรรมที่ชอบและสิ่งที่เราถนัด และถ้าให้ดีหาเผื่อไปถึงความสามารถพิเศษเลยก็ได้ จดไว้ให้เยอะที่สุด เช่น ชอบวาดภาพ ชอบร้องเพลง ชอบทำอาหาร ชอบเล่นเว็บบอร์ด ฯลฯ ความชอบและความสามารถพิเศษเหล่านี้สามารถต่อยอดไปทั้งการเรียนและการทำงานได้ บางอย่างที่คนอื่นมองว่าไร้สาระ แต่อาจช่วยให้คนๆ นั้นได้เรียนในสิ่งที่ชอบและมีความสุข แถมยังได้ทำงานที่ตัวเองรักอีกด้วย 

3. วิชาที่ชอบบอกคณะได้

อีกหนึ่งเทคนิคที่พลาดไม่ได้เลย คือ หาวิชาที่เราชอบ ซึ่งวิชาใน ม.ปลาย อาจจะเยอะ ดังนั้นให้น้องเตรียมกระดาษมาจดเลย แบ่งครึ่งหน้ากระดาษคือ วิชาที่ชอบ กับวิชาที่ไม่ชอบวิชาที่ชอบ คือ วิชาที่น้องๆ เรียนแล้วสนุก รู้สึกอินทุกครั้งที่เรียน ไม่อยากขาดเรียนเลยซักคาบ ส่วนวิชาที่ไม่ชอบ ก็คือวิชาที่ยิ่งเรียนยิ่งเหนื่อย ยิ่งอยู่ด้วยยิ่งเครียด

การแยกวิชาที่ชอบและไม่ชอบทำให้น้องๆ เห็นอนาคตของตัวเองมากขึ้นว่าควรเน้นไปทางแนวไหน เพราะแต่ละคณะมีวิชาเรียนที่แตกต่างกัน เช่น ชอบเลข ก็เหมาะกับคณะบัญชี บริหาร เศรษฐศาสตร์หรือคณะอื่นๆ ที่มีการคำนวณ บางคนชอบภาษาอังกฤษ เกลียดเลข ก็อาจเน้นไปเรียนด้านภาษาไปเลย ซึ่งในมหาวิทยาลัยก็ไม่มีเรียนเลขด้วย หรือบางคนชอบสังคมฯ กับภาษา ก็เหมาะจะเรียนพวกสายมนุษยศาสตร์ สังคมสงเคราะห์ รัฐศาสตร์ จบไปเป็นทูต นักสังคมฯ นักข่าว เป็นต้น

4. เลิกตามเพื่อน

การ “ค้นหาตัวเอง” ถ้ามัวแต่ตามเพื่อน น้องๆ จะไม่มีวันเจอสิ่งที่ตัวเองต้องการแน่นอน เข้าใจว่าช่วงวัยรุ่นติดเพื่อน อยากเข้ามหาวิทยาลัยพร้อมเพื่อน แต่ถ้าคณะที่เพื่อนเรียนเราไม่ได้อยากเรียนเลยสักนิด ผลเสียจะตกที่เราเต็มๆ อย่างแรกคือเสียการเรียนเพราะอาจเรียนไม่ไหว อย่างที่สองคือเสียใจ หากพบว่าเรียนไม่ไหวแล้วต้องสอบเข้าปี 1 ใหม่อีกรอบ ดังนั้นอยากค้นหาตัวเองให้เจอเร็วๆ ต้องเข้าใจก่อนว่าเรียนจบไปทุกคนต้องเรียนต่อในสิ่งที่ตัวเองต้องการ หากคิดแบบนี้ได้น้องๆ จะเริ่มค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบได้โดยไม่ต้องตามเพื่อนอีกต่อไป

สุดท้ายนี้หวังว่าน้องๆ จะลองนำเทคนิคนี้ไปสำรวจตัวเองดู และเมื่อพบคำตอบแล้วว่า น้องๆ อยากเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในอนาคต ก็รีบมาสมัครเรียนที่คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุมกันได้เลย 

อ่านข้อมูลสาขาวิชาเพิ่มเติมได้ที่ >> 

 

พิเศษสุดสำหรับตอนนี้ ทางมหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษามอบให้น้องสูงถึง 15,000 บาทเลยทีเดียว รีบมานะ