มาแน่ Drone Taxi เตรียมเปิดให้บริการแห่งแรกในโลกที่ 'ดูไบ' กลางปีนี้ฟันธง!!!

          เมืองที่จะพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและก้าวประโดด จำเป็นที่จะต้องมีระบบการจัดการเมืองที่ดี ซึ่งหนึ่งในปัจจัยเหล่านั้นก็คือ ระบบขนส่งมวลชนที่ดีมากๆ จนนำไปสู่การพัฒนารูปแบบขนส่งมวลชนใหม่ๆ ออกมาให้ชาวเมืองได้ใช้กัน อย่างที่ นครรัญดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ก้าวข้ามไปสู่อีกขั้นของระบบการคมนาคมสารธารณะ นั้นก็คือ ‘โดรนแท็กซี่’ ที่อากาศยานไร้คนขับสำหรับรับ-ส่งผู้โดยสาร ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการทั่วทั้งดูไบในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้
 

          นาย Mattar al-Tayer หัวหน้าสำนักงานคมนาคมนครรัฐดูไบ ได้ประกาศแผนการเปิดใช้โดรนแท็กซี่อย่างเป็นทางการในงาน World Government Summit 2017 ที่ดูไบ ว่าด้วยเรื่องของโดรนที่จะนำมาใช้ในแผนครั้งนี้ เป็นโดรนสัญญาณจีนรุ่น EHang 184 ความพิเศษอยู่ที่ตัวเครื่องสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 100 กก. บินด้วยความร็วสูงสุด 160 กม./ชม. นานถึง 30 นาที นอกจากนี้สามารถบินได้ไกลถึง 50 กม. การชาร์จแบตฯ เต็มหนึ่งครั้ง
 

          ทางสำนักงานคมนาคมนครรัฐดูไบยังระบุเพิ่มเติมว่า โดรนแท็กซี่จะใช้ระบบการบินอัตโนมัติ (Auto Pilot) ที่จะสั่งการและควบคุมโดยศูนย์บังคับการของสำนักงานคมนาคมฯ และผู้โดยสารสามารถเลือกจุดหมายปลายทางของท่านได้ด้วยตัวเองจากการป้อนข้อมูลลงบนจอทัชสกีนภายในห้องโดยสารด้วย
 

          นอกจากในที่ดูไบแล้ว โดรนแท็กซี่ยังได้อนุญาตให้ทดลองบินบนน่านฟ้า รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2016 ที่ผ่านมา โดยผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศยาน ดร.สตัฟ ไรท์ จากมหาวิทยาลัยเวสต์ออฟอิงแลนด์ สหราชอาณาจักร กล่าวว่า “ความปลอดภัยถือเป็นประเด็นสำคัญที่สุดของการให้บริการโดรนแท็กซี่เลยก็ว่าได้ ดังนั้นโดรนที่จะให้บริการทุกตัวต้องได้รับการทดสอบบินอย่างน้อย 1,000 ชม.ก่อนที่จะนำไปให้บริการขนส่งผู้โดยสารในเชิงพาณิชย์ได้”

          พูดมาถึงตรงนี้แล้ว ลองย้อนกลับมามองระบบการขนส่งมวลชนของประเทศไทยและความน่าจะเป็นในการใช้โดรนแท็กซี่เหมือนกับดูไบเขาบ้างดีกว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันต้องบอกว่า อีกสักพักใหญ่ๆ เลยแหละ เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงและพัฒนาระบบการคมนาคมสาธารณะกันอีกยาว โดยก่อนอื่นควรที่จะจัดการปัญหาที่เกิดขอพิพาทระหว่างกรมขนส่งและบริการขนส่งสาธารณะ กับ GrabTaxi และ Uber ที่กำลังเป็นที่จับตามองของหลายๆ ฝ่ายเป็นอันดับแรก เพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างปรองดองและช่วยกันคิดพัฒนาข้อกฎหมายเรื่องของการคมนาคมสาธารณะที่ล้าหลังให้สอดคลองกับการใช้ชีวิตของคนในประเทศเสียก่อน เรื่องของเทคโนโลยีแล้วความก้าวหน้าทางการขนส่งมวลชนเหมือนประเทศที่พัฒนาแล้วก็เป็นไปได้ไม่ยากครับ 



ข้อมูลจาก :  BBC Thai