สถานการณ์การบินในปัจจุบันคล้ายกับรถตู้ที่มาแย่งผู้โดยสารรถเมล์ ด้วยเหตุที่รถตู้มีจำนวนมากขึ้น รถเมล์ก็มากขึ้นเช่นกัน แต่การโดยสารรถตู้ไวกว่าใช้ระยะเวลาน้อยกว่า สะดวกสบายมากกว่าผู้โดยสารจึงเลือกโดยสารด้วยรถตู้มากกว่ารถเมล์ เปรียบเทียบเหมือนสายการบินโลว์คอส ที่เปิดเที่ยวบินเยอะมากขึ้น ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินในประเทศแทบจะมีราคาเท่ารถทัวร์แล้วในปัจจุบัน
ทำไมต้องเลือกเรียนสาขาธุรกิจการบิน Airline Business (ALB) วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอยกตัวอย่างง่ายๆ ปัจจุบันถ้าหากน้องๆ ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวสักหนึ่งที่วิธีการเดินทางที่น้องๆ จะเลือกก็คงหนีไม่พ้นทางอากาศ หรือเครื่องบิน เพราะรวดเร็วและสะดวกสบาย แต่น้องๆ เคยสังเกตไหมว่าตั้งแต่เราก้าวเข้าสนามบินก็พบกับภาษาอังกฤษแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประตูทางเข้า GATE เมื่อผ่านเคาเตอร์เช็คอิน หน้าจอแสดงเที่ยวบินที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แม้กระทั่งใบ Boarding Pass ที่เป็นข้อมูลเที่ยวบิน ไม่มีตัวอักษรภาษาไทยปรากฎอยู่เลยสักตัว ไม่ต้องพูดถึงบนเครื่องบินเลยคะ แน่นอนว่าทุกตัวอักษรล้วนแล้วแต่เป็นภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ประกาศรับสมัครงานของสายการบิน 1 ในคุณสมบัติที่น้องๆ ต้องมีคือ คะแนนผลการทดสอบ TOEIC ที่ไม่ต่ำกว่า 650 คะแนน เพราะฉะนั้นถ้าหากเลือกเรียน
สาขาธุรกิจการบิน Airline Business (ALB) หลักสูตรนานาชาติ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่านานาชาติ เริ่มตั้งแต่วันแรกในห้องเรียนเราก็จะเจอกับการเรียนการสอนที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด จนกระทั่งจบหลักสูตร 4 ปี เราจะอยู่กับมันทุกวันทั้ง ฟัง พูด อ่าน และเขียน อาจารย์มั่นใจว่าเมื่อน้องๆจบการศึกษาออกไปจะมีทักษะทางภาษาอังกฤษ ที่พร้อมสำหรับการทำงาน 100% แน่นอน
Mr. Mathias Huysmuns นักศึกษาชั้นปีที่ 2 (Airline Business) ผมเกิดและเติบโตในประเทศเบลเยียม เป็นโชคดีของผมที่ได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวในวันหยุดที่ประเทศไทย มันทำให้ผมตกหลุมรักประเทศไทยเข้าอย่างจัง ผมบอกกับตัวเองว่าผมต้องกลับมาที่นี่อีกครั้งอย่างแน่นอน ผมจึงหาเหตุผลที่จะสามารถทำให้ผมได้อยู่ในประเทศไทยนานขึ้น ซึ่งคำตอบที่ผมได้ก็คือ “ผมจะเรียนต่อที่ไทย”
ทำไมถึงเลือกเรียนที่สาขาธุรกิจการบิน วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ?
วันนั้นผมกำลังเดินอยู่ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว มีการนิทรรศการเพื่อการศึกษาพอดีและมหาวิทยาลัยศรีปทุมก็ได้ไปจัดบูธที่งานด้วย อาจารย์ที่คณะอธิบายผมเกี่ยวกับโปรแกรมธุรกิจการบินว่าเรียนเกี่ยวกับอะไร อธิบายทุกๆอย่างอย่างละเอียด ทั้งชีวิตการเป็นอยู่ในมหาวิทยาลัย บรรยากาศในห้องเรียน และห้องปฏิบัติการเรียนจริง
มันทำให้ผมประทับใจมาก ผมขอบอกก่อนว่าสาขาธุรกิจการบิน เป็นสิ่งที่ผมสนใจอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ผมเรียนที่ประเทศเบลเยียม นั่นแหละคือเหตุผลที่ทำให้ผมต้องมาเรียนที่นี่ให้ได้
ความแตกต่างระหว่างบรรยากาศในการเรียนการสอนที่ประเทศเบลเยียม และที่ประเทศไทย ?
ที่ประเทศเบลเยียมการเรียนการสอนในห้องเรียนจะค่อนข้างจริงจัง แต่ที่ประเทศไทยทุกคนดูมีความสุข การเรียนมีการสอดแทรกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็น วันพ่อ วันแม่ วันลอยกระทง วันสงกรานต์ และทุกคนต้องมีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น แต่ในทางกลับกันที่ประเทศเบลเยียมเรามีเพียงแค่วัน Freshy Day แต่ใครจะร่วมหรือไม่ร่วมก็ได้
ส่วนในเรื่องของระบบการเรียนการสอนที่ไทยและประเทศเบลเยียม ที่ประเทศไทยถ้าคุณไม่เข้าเรียนแน่นอนว่าคุณจะไม่มีทางทำข้อสอบได้เลย แต่ที่ประเทศเบลเยียมคุณจะเข้าเรียนหรือไม่เข้าเรียนนั้นขึ้นอยู่กับคุณ แต่คุณต้องทำข้อสอบให้ได้เท่านั้น
Mathias ชอบระบบการศึกษาแบบประเทศไทย หรือประเทศเบลเยียมมากกว่ากัน ?
ผมชอบระบบของประเทศไทยมากกว่า มันทำให้ผมได้เจอกับประสบการณ์จริง ไม่ว่าจะเป็นในการทำงาน ที่จะมีอาจารย์คอยช่วยเหลือ และแนะนำ รวมไปถึงยังแนะนำการสร้างสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในชีวิตจริง
สวัสดีค่ะ พี่ชื่อนางสาวพิมพ์วลัญช์ มังสิงห์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 (Airline Business) พี่ขอแทนตัวเองว่า พี่จี แล้วกันนะคะ ขอบอกก่อนว่าส่วนตัวพี่เองมีพื้นฐานภาษาอังกฤษค่อนข้างดี เพราะตอนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย พี่ได้มีโอกาสไปศึกษาต่อที่ สหรัฐอเมริกา แล้วกลับมาศึกษาต่อที่ไทย การที่พื่เลือกเรียนต่ออินเตอร์ เพราะพี่คิดว่าโอกาสในเรื่องของสายงานมันกว้างกว่าอยู่แล้ว
ระบบการเรียนการสอนที่ต่างประเทศกับที่ไทย มันแตกต่างกันมากไหม ?
พี่ว่าไม่ค่ะ เพราะที่นี่มันเป็นอินเตอร์อยู่แล้ว ปรับตัวแค่การอยู่ในสังคม ส่วนเรื่องหลักสูตรไม่มีปัญหาค่ะ เพราะหลักสูตรค่อนข้างจะเหมือนกัน
ในคลาสการเรียนการสอนอาจารย์ สอนภาษาอังกฤษอย่างเดียวไหม หรือมีภาษาไทยด้วย ?
เป็นภาษาอังกฤษ 100% เลยค่ะ
ระหว่างเรียนการบิน หลักสูตรภาษาไทย กับหลักสูตรภาษาอังกฤษ มันแตกต่างกันมากไหม ?
แตกต่างค่ะ เพราะพี่มีเพื่อนที่เรียนการบิน หลักสูตรภาษาไทยอยู่ที่นี่ หลักสูตรอินเตอร์มีความหนาแน่นกว่า ส่วนภาคไทยเขาจะมีเน้นเสริมด้านภาษาอังกฤษเล็กน้อย
แต่ในทางกลับกันหลักสูตรนานาชาติ ภาษาอังกฤษเราได้อยู่แล้ว เราก็จะไปโฟกัสในหลักสูตรมากขึ้น แม้กระทั่งในข้อสอบยังต่างกัน
มีเคล็ดลับอะไรฝากให้น้องที่พอรู้ภาษาอังกฤษบ้างอยากเรียนอินเตอร์แต่ไม่กล้า ?
คือ พี่บอกก่อนเลยว่าก่อนพี่มาเรียนอินเตอร์เป็นคนที่ไม่ชอบภาษาอังกฤษเลย คือพื้นฐานก็ไม่ได้ดีเลย ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรง แต่ด้วยความที่เราอยากเล่นกับเพื่อน มันเลยทำให้เราต้องพยายาม ถ้าเราไม่ได้ภาษาอังกฤษเราจะสื่อสารกับใครไม่ได้เลย หลังจากที่พี่เริ่มสื่อสารภาษาอังกฤษพอได้บ้างแล้วนี่เราจะรู้สึกเราเจออะไรกว้างขึ้น เรารู้อะไรมากขึ้น หลังจากนั้นมันทำให้เรามีแรงจูงใจ อยากเล่นกับเพื่อน อยากรู้เรื่องราวมากขึ้น อาจจะหา content ที่ชอบ เช่น ตอนเด็กพี่ชอบ จัสติน บีเบอร์ พี่ก็ต้องไปหาข่าวสารของเขา เพลงของเขา แล้วเอามาแปล แล้วเอาไปคุยกับเพื่อน อีกปัญหาส่วนใหญ่เลยที่คนไม่กล้าพูด เพราะกลัวจะพูดผิด การสื่อสารแค่สื่อสารให้อีกคนเข้าใจก็พอแล้ว
สวัสดีครับ พี่ชื่อนายอาฟันดี มะยูนุ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 (Airline Business) หรือจะเรียกพี่สั้นๆว่า พี่ฟาน ก็ได้ครับ พี่ขอบอกเลยก่อนว่าที่พี่เลือกเรียนหลักสูตรนานาชาติเพียงแค่เหตุผลเดียวเลย อยากพูดภาษาอังกฤษได้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้โฟกัสภาษาอังกฤษเลย พี่ไปโฟกัสแต่ภาษามาเลเซียกับอาหรับ
ความรู้สึกของวันแรกที่เข้ามาเรียนใน คลาสอินเตอร์ ?
พี่กลัวมาก คือตอนเรียน พี่ยอมรับว่าไม่เข้าใจเลยถึงกับขั้นร้องไห้เพราะพี่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้
ใช้ระยะเวลานานขนาดไหนเราถึงก้าวผ่านตรงนั้นแล้วกล้าที่จะพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น ?
ไม่ถึง 1 ปีนะ ช่วงที่อยู่ปี1 พอเริ่มเข้าเทอม 2 มันเริ่มเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะคำถามแรกของพี่คือตอนปี 1 เราสอบยังไงในเมื่อมันต้องเขียนภาษาอังกฤษ ? พี่เริ่มจากการอ่านหนังสือเยอะ พวกหนังสือที่เรียนพี่หยิบขึ้นมาอ่านหลายรอบมากพี่ใช้วิธีจะแปลความหมาย คำที่พี่ไม่รู้ ในห้องจะคอยจดเทคนิคในการสอบตรงที่อาจารย์แนะนำมา เริ่มจากต้องเขียนให้หมดก่อนว่าจะสอบอะไร แล้วเอามาแปล แล้วเอามาอ่าน ท่องอีกที
ฝากถึงน้องๆที่ภาษาอังกฤษเป็นศูนย์ แต่ต้องการจะเรียนหลักสูตรนานาชาติหน่อย ?
ให้น้องๆตั้งเป้าหมายของตัวเองไว้ก่อนเลยว่า เป้าหมายของเรานั้นคืออะไร แล้วเอาชนะมันให้ได้ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดๆ ระหว่างทางมันอาจจะเจออุปสรรคมากมาย ต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น แต่ตอนนี้พี่สามารถพูดโต้ตอบกับชาวต่างชาติได้ มันมากกว่าคุ้มค่า
"สุดท้ายนี้พี่อยากให้น้องหาวิธีที่ทำให้ตัวเองพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ ในแบบวิธีของตัวเอง เพราะเราไม่สามารถ copy วิธีของคนอื่นมาทำกับตัวเองได้"