สอบเข้ามหาวิทยาลัย

อยากรู้ไหมอาชีพ "นักโภชนาการ" สำคัญมากแค่ไหน ???

 

UploadImage
              ณ ที่เมืองลิเวอร์พูลประเทศอังกฤษ Klopp ยังไม่ได้แนะนำเหล่านักเตะให้ผู้หญิงคนนี้รู้จัก ผู้หญิงคนที่จะมาเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา…. เมื่อเธอได้เข้ามาร่วมงานกับสโมสรตอนช่วงพรีซีซั่นที่ Palo Alto ในฤดูร้อนที่ผ่านมา Klopp ได้รอคอย สองถึงสามวัน กระตือรือร้นเพื่อที่จะดูท่าทีของเธอ ว่าจะชนะพวกเขามากกว่าคำพูดของ Klopp ได้หรือไม่

Klopp : “โดยปกติแล้วช่วง พรีซีซั่น นักเตะสามารถกินมากเท่าไหร่ก็ได้ เท่าที่พวกเขาต้องการ จะเร็วเท่าไหร่ก็ได้เท่าที่พวกเขาสามารถทำได้”
       เเต่หลังจาก สองสามวันที่ Palo Alto เขาได้สังเกตบางสิ่งเปลี่ยนไป เหล่านักเตะ เหนื่อยหน่ายเจ็บปวดกับการฝึกซ้อมอันหนักมาก พวกเขานั่งที่โต๊ะอาหารนั่งแบบอ้อยอิ่งไม่มีชีวิตชีวา เเต่ตอนนี้พวกเขาได้ไปต่อคิวที่สลัดบาร์ “ซึ่งผมไม่เคยเห็นแบบนั้นมาก่อนเลย คือพวกเขานั่งกินอยู่ที่โต๊ะแล้วก็ดูท่าทางชอบมันเอามากๆ”

       หลังจากนั้น Klopp ก็ยืนขึ้นที่ร้านอาหารและกล่าวต้อนรับ Staff ใหม่สองคน คือ Andreas Kornmayer ผู้ที่เคยเป็นโค้ชฟิตเนส ให้กับ Bayern Munich “คือมันง่ายมากที่จะแนะนำ Andy คนนี้ให้ทุกคนรู้จักเพราะว่าเหล่านักเตะส่วนใหญ่รู้จักเขาอยู่แล้ว และพวกเขาก็เคยมีโค้ชฟิตเนสกัน" แต่พอมาแนะนำคนที่สองให้กับนักเตะรู้จัก คนที่ทำให้ klopp เริ่มรู้สึกเชื่องช้าลงกระอักกระอ่วน ไม่กระตือรือร้นอย่างเช่นตอนแรก คือ Mona Nemmer ผู้หญิงที่ได้มาจาก Bayern Munich เช่นกัน ผู้ที่จะมาทำหน้าที่หัวหน้านักโภชนาการของ ลิเวอร์พูล ซึ่งการนัดพบปะ ในครั้งนี้สามารถทำให้เกิดบรรยากาศที่น่าอึดอัดได้ เหล่านักเตะคงไม่อยากจะเปิดรับอะไรที่พวกเขาไม่คุ้นเคย และถ้าหาก Klopp จะต้องมาบรรยาย รายละเอียดว่าทำไมเธอถึงถูกจ้างมา พวกเขาก็อาจจะสงสัยหรือแคลงใจเข้าไปอีก เอาจริงๆแผนการของเธอคือ โภชนาการที่เป็นไปตามหลักการสำหรับนักเตะแต่ละคน โดยอาหารนั้นจะต้องเป็นอาหารที่หาได้จากท้องถิ่น และเป็นอาหารออแกนิกมากเท่าที่จะเป็นไปได้ สำหรับ อาหาร 4 มื้อต่อวัน แม้แต่ในคลาสการเรียนทำอาหารก็ด้วย ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยได้รับรู้มากก่อน และนี่มันก็เกินกว่าสโมสรฟุตบอลทั่วไปจะทำ

UploadImage

       ถึงแม้ว่า Klopp จะไม่ได้กล่าวทั้งหมดให้กับนักเตะฟัง แต่อาหารที่เหล่านักเตะทานไปก็ทำหน้าที่อธิบายไปทั้งหมดแล้วละ อาหารของโมนานั้นคือสิ่งที่เหล่านักเตะของ Klopp ต้องการ พอรวบรวมสติกลับมาได้ Klopp ก็ขอร้องให้นักเตะทุกคนวางมีดและส้อมลงก่อน และพวกนักเตะนั้นก็ตาเป็นประกายและสนอกสนใจ “พวกเขาได้กินอาหารที่น่าเหลือเชื่อเข้าไป” “โมนาได้สร้างความประทับใจแรกไปเรียบร้อยแล้วละ พวกเขาก็เลยตั้งใจรับฟังสิ่งที่ผมพูด”

หกเดือนหลังจากเข้ามาทำงาน โมนา ได้รับการยกย่องภายในสโมสรว่าเป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฤดูร้อน ไกลเกินกว่าที่จะมาถ่อมตัว ว่ามันเป็นเพราะเธอถึงทำให้ลิเวอร์พูลมาอยู่อันดับที่สามของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก (บทความนี้ออกมาก่อนที่ลิเวอร์พูลจะลงแข่งกับ Stoke) เธอยืนยันว่าเธอนั้นเป็นแค่ เฟือง ของเครื่องจักรตัวหนึ่งเท่านั้น “ในทุกฝ่ายๆของสโมสรนี้ ไม่ว่าจะ การแพทย์, ทีมโค้ช, จิตวิทยา, หรือ วิทยาศาสตร์การกีฬา ก็มีความสำคัญกันทั้งนั้น” เธอกล่าว

       เธอไม่เคยมาคิดว่าตัวเธอเองเป็นผู้รู้ คำพูดที่เธอตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษ เธอพูดได้อย่างคล่องแคล่วโดยมีสำเนียงลิเวอร์พูลติดอยู่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าได้รับอิทธิพลมา เป็นลักษณะการลากเสียงยาวในช่วงท้าย เธอนั้นยกย่องทุกคน เธออยู่ที่ลิเวอร์พูล เพื่อที่จะสนับสนุนพวกเขา และเชื่อมทุกคนเข้าไว้ด้วยกัน

       Klopp ยืนยันว่า “คุณคงไม่เจอคนแบบเธอเยอะนักหรอก” เธอได้บินไปพบกับพวกเจ้าของทีมลิเวอร์พูล ทั้ง John Henrry และ Tom Werner ที่บอสตันมาแล้ว ส่วน Lallana นักเตะกองกลางทีมชาติอังกฤษ ยอมรับว่าเพื่อนร่วมทีมของเขานั้น รักเธออย่างมาก

“เธอเหมือนเป็นแม่พวกเราเลยละ” ลัลลานาพูดแบบเขินๆ

ความเป็นห่วงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเธอนั้นถือเป็นเคล็ดลับของ โมนา นักเตะบางคนอย่างเช่น ผู้รักษาประตู Mignolet และ แบ็กซ้าย Milner มักจะชอบถามคำถามใส่เธอ และมีความตั้งอกตั้งใจที่จะเรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ว่าเธอนั้นทำอะไรอยู่ และทำไปทำไม เธอมีความสุขที่จะเข้าถึงนักเตะทุกๆคน “เธอไม่ได้พยายามที่จะทำให้เราไม่ทราบเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์หรอก” Lallana กล่าว แต่ว่านั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เธอทำนั้นไม่มีวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องอยู่นะ

        โมนา อายุ 32 ปี ไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานในด้านการกีฬาเลย เธอเข้ามาในด้านกีฬาอย่างไม่ตั้งใจ หลังจากที่เล่าเรียนด้านโภชนาการอาหารที่บ้านเกิดของเธอที่เยอรมัน “ฉันได้เรียนรู้เยอะมากเกี่ยวกับเรื่องราวทางทฤษฎี แต่ฉันขาดด้านประสบการณ์จริงไป” เธอกล่าว “ฉันก็เลยไปฝึกงานเป็นเชฟ” เมื่อโอกาสมาถึงที่จะได้ช่วยเหลือนักเตะทีมเยาวชนของเยอรมันในขณะที่พวกเขาเดินทางไป Tournament เธอเหมาะสมกับสิ่งที่พวกเขาต้องการพอดีนั่นคือ คนที่ควรรู้ว่านักเตะควรจะกินอะไร และจะทำมันอย่างไร

       งานของเธอที่เยอรมันนั้นเป็นอะไรที่พื้นฐานมากนั่นคือ “แค่อย่าทำให้เกิดอาหารเป็นพิษเวลาที่พวกเขาอยู่ที่ไนจีเรีย” “ฉันถลำลึกเข้าไปในด้านการกีฬามากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งไปเรียน ไปงานประชุมวิชาการ แล้วก็ไปเป็นเด็กฝึกงานในด้านโภชนาอาหารเเละการกีฬา” ชื่อของเธอเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างมากในเยอรมัน ซึ่งมากพอที่จะทำให้เธอนั้นได้งานที่ Bayern Munich

       เธอใช้เวลา 3 ปีที่นั่น เลี้ยงดูสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมัน ก่อนที่เธอจะถูกแนะนำให้กับ klopp เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทั้งสองคนได้ไปพบกันที่บ้านเก่าของ Klopp ใน Dortmund แล้วทันทีทันใดนั้นก็รู้สึกถูกชะตากันเเละด้วยการที่ Bayern นั้นอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงจาก Pep ไปสู่ Carlo Ancelotti ลิเวอร์พูลก็ได้เห็นโอกาส เลยพยายามที่จะเชิญชวนเธอไปอยู่ด้วย

       สาเหตุที่ทำเธอตกลงที่จะย้ายนั้นไม่ใช่การสนับสนุนจาก Klopp แต่อย่างใด แต่ดันเป็นความเชื่อมั่นของเจ้าของทีมลิเวอร์พูล อย่าง Henrry และ Werner ต่างหาก “พวกเขามีวิสัยทัศน์ที่สุดยอดมาก” เธอกล่าว “พวกเขาเป็นคนที่เปิดใจอย่างมากเลยละ พวกเขาเเละ klopp ให้ความสำคัญและความนับนับถือในเรื่องโภชนาการอาหารมากๆ และพวกเขาก็ให้โอกาสฉันได้ลองทำดู ซึ่งนี่มันไม่ได้เป็นเรื่องปกติเท่าไหร่นัก”

      ราคามันไม่ค่อยถูกนักหรอกนะ ในหลายๆสโมสรขณะนี้พวกเขาเเค่จ้างนักโภชนาการอาหารเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น พวกเขาจะเข้ามาเยี่ยมสโมสรบางครั้งในหนึ่งสัปดาห์ แต่กลับกันที่ลิเวอร์พูล พวกเขาให้โมนา จัดการคุมทุกอย่างได้เต็มที่

เเต่เธอก็ไม่เข้ามาควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ที่ Melwood หรือ ที่สนามแอนฟิลด์หรอก ที่โรงอาหารของสนามก็ไม่ต่างกัน มีเพียงแค่โต๊ะวางน้ำผลไม้สดๆ และจุดสำหรับ กราโนลา หรือถั่ว และสลัดบาร์อันโด่งดังของเธอเท่านั้นเอง

       ที่สำคัญ เธอได้วางจุดน้ำผลไม้นั้นไว้ ที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของนักเตะในทีมชุดใหญ่ ซึ่งจะทำให้นักเตะสามารถเติมพลังได้ในทันทีที่พวกเขาก้าวออกจากสนาม เเละที่แอนฟิลด์ตอนนี้ก็มีห้องครัวอยู่ในห้องแต่งตัวของทีมเหย้าด้วย เพื่อที่จะสามารถเตรียมอาหารตามสั่งหลังจากจบเกมส์ได้ทันที

แต่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงนั้น มันก็ซ่อนอยู่ในอาหารที่เหล่านักเตะได้ทานกันนั่นละ “อาหารจะเป็นอาหารในท้องถิ่นและเป็นอาหารตามฤดูกาล” “พวกเราโฟกัสที่อาหารจริงๆ เพื่อที่จะได้โภชนาการอาหารแบบธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

เมื่อถึงเวลาจำเป็น โมนา จะเดินทางไปหาแหล่งสินค้าที่ดีที่สุดพร้อมกันกับทีมเชฟของเธอ เธอหาปลามาได้จากสก็อตแลนด์ เนื้อกวางจาก Norfolk เนื้อออแกนิกจากเชสเตอร์ “มันสำคัญกับพวกเราเลยว่าเหล่าสัตว์ทั้งหลายจะต้องมีชีวิตที่ดี” เธอกล่าว หนึ่งในงานแรกของเธอคือการที่ต้องเดินทางไปลอนดอนเพื่อที่จะหาร้านเบเกอรี่ที่ใช่

UploadImage

      เธอจะหลีกเลี่ยงอาหารที่ถูกเตรียมไว้แล้ว โดยเธอจะทำซอสหรือของตกแต่งหน้าอาหารเฉพาะในแต่ละจานเอง เธอมองไปในรายละเอียดแม้กระทั่งน้ำมันที่นำมาใช้ทำอาหาร เธอจะใช้เกลือจากทะเลแทนที่จะเป็นเกลือสังเคราะห์ทางเคมี “เราต้องการที่จะเข้าไปจัดการมันให้มากเท่าที่จะมากได้” “อะไรที่มันเป็นไปได้กับอาหาร อะไรที่มันมีประโยชน์”

สไตล์เตรียมทำอาหาร อย่างเช่นการทอด จะถูกมองว่าเป็นอาหารแบบ “เส้นแดง” (คือไม่ดีที่จะทำ) แต่มันก็เป็นหัวใจหลักของความเชื่อของ โมนา เช่นกันคือ “ไม่มีอะไรที่ถูกห้ามได้จริงๆหรอก”

“เราสามารถมีช็อคโกแลตพุดดิ้งได้นะ” “แต่เราก็สามารถที่จะเลือกใช้ ข้าว หรือ นมอัลมอนด์ ไม่ใช้แป้ง เเล้วเลือกใช้โกโก้ที่มีคุณภาพสูง ใช้กากน้ำตาลแทนน้ำตาล ซึ่งมันจะทำให้คุณได้อาหารอีกแบบไปเลย”

“มันไม่ดีหรอกที่จะบอกให้พวกเขากินแอปเปิ้ล ลูกเกด และข้าวโอ๊ตเป็นอาหารเช้า ถ้าหากพวกเขาไม่สามารถหามันได้” เธอกล่าว เธอยังบอกอีกว่าโรงอาหารในตอนนี้ “มีความรู้สึกเป็นเหมือนตลาด” เพราะนักเตะสามารถที่จะเลือกอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ อย่างที่ทำกับสลัดหรือน้ำผลไม้ โมนา เองก็มั่นใจว่าไม่มีอาหารจานใดที่แย่เลย

ยังมีสิ่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ลิเวอร์พูลก็คือ ทุกสิ่งตอนนี้นั้นถูกคัดสรรให้เหมาะสมแก่เเต่ละคนไป “พวกเราไม่มีใครเหมือนกันหรอก” Klopp กล่าว “ซึ่งมันก็ไม่มีเหตุผลเลยที่พวกเราจะต้องกินอะไรที่เหมือนกัน”


UploadImage
 
      โมนา ปรึกษากับเหล่านักเตะ ได้ร่างคำแนะนำสำหรับโภชนาการอาหารสำหรับนักเตะทั้งทีม พวกมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ผลของการทดสอบเท่านั้น แต่ยังต้องนึกถึงไขมันในร่างกาย อัตราเผาผลาญพลังงานของร่างกาย และการพักผ่อน รวมไปถึงสัญชาติของนักเตะและตำแหน่งอีกด้วย

“พวกเขาต้องการระดับพลังงานที่แตกต่างกันไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาอยู่ในตำแหน่งไหนบนสนาม” เธอกล่าว “ผู้รักษาประตูไม่ได้วิ่งมากเท่ากองกลาง และชาวบราซิลพวกเขามีวัฒนธรรมทางการกินอาหารเช้าแตกต่างจากทางอังกฤษ ทุกสิ่งทุกอย่างแตกต่างไป ตามความต่างของวัฒนธรรม ลักษณะร่างกาย ตำแหน่ง เรามีนักเตะที่ต้องเน้นโปรตีนให้มาก และ นักเตะบางส่วนที่ต้องการแร่ธาตุในแบบแตกต่างกันไป

       เธอจะเปลี่ยนเมนูของเธอแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย หรือแม้กระทั่งปรับตามจำนวนของเกมที่จะต้องลงเตะ โมนาจะได้รับตารางการฝึกซ้อมของ Klopp ล่วงหน้าอยู่เเล้ว ซึ่งเธอเองจะคอยอัพเดตกับทีมแพทย์ของสโมสร นักกายภาพบำบัด โค้ชฟิตเนส หรือแม้แต่นักจิตวิทยา นักเตะที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับคำแนะนำในการเรียกคืนความฟิตในสนามซ้อมในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป หรือแม้กระทั่งนักเตะที่ไม่ได้ลงสนามก็จะได้รับคำแนะนำที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสิ่งพวกนี้จะไม่มีการทำกันอย่างเป็นทางการเพราะเชื่อว่าการที่คุยกันเร็วๆ มันได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าการเรียกแต่ละคนไปพบเธอที่ออฟฟิศ แม้แต่การใช้แอพพลิเคชั่นก็ถูกมองว่าดีกว่าการใช้แบบสอบถามที่มันยาวๆ

UploadImage

        โมนาเองก็ค่อยๆปรับเปลี่ยนนิสัยนักเตะ เช่นกัน แทนที่จะให้ลูกอมแก่นักเตะในช่วงพักครึ่ง Lallana , Milner, Henderson จะได้รับน้ำแอปเปิ้ลผสมคาเฟอีนแทน

แล้วก็จะมีพาสต้าและซอสแบบทำเองให้เลือกหลังจากจบเกมส์ โมนา จะต้องเดินทางไปกับทีมด้วยเพื่อที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าโรงแรมจะทำตามเมนูของเธอได้ และภายใต้การนำของเธอทีมจะต้องมีอาหารในรถบัสด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่าอาหารของเธอนั้นโด่งดังมากเสียจน Klopp ไม่จำเป็นต้องบังคับให้นักเตะกิน 4 มื้อต่อวันในตอนอยู่ที่สนามซ้อม นักเตะอีกหลายคนยังใช้โอกาสที่โมนาเรียกว่าเป็น “บริการห่อเอากลับบ้าน” ได้อีกด้วย นักเตะแต่ละคนถูกสอนให้ทำอาหารของเธอกินเองที่บ้าน และสโมสรยังวางแผนว่าจะเชิญครอบครัวของนักเตะมาในปีหน้าเพื่อที่จะเรียนรู้ในการทำอาหารให้ถูกหลัก

“พวกเรามีความฝันแปลกๆถึงขนาดที่ว่าจะเปิดร้านอาหารและทำคู่มือทำอาหารเลยละ” klopp กล่าว จะว่าไปแล้วสิ่งที่ Klopp กล่าวถึงมานั้นน่าจะขายดีแน่ๆ พวกนักเตะอาจจะไม่ได้สังเกตถึงจุดนั้นหรอก แต่ว่าตอนนี้พวกเขาก็ได้เข้าไปอยู่ในศาสตร์แห่งการโภชนาแล้ว

“เอาจริงๆเรายังไปกันไม่ถึงครึ่งทางเลย” Klopp กล่าว “แต่พวกเรากำลังเดินไปในทางที่ถูกต้องแล้วละ พวกเราสามารถทำให้ที่นี่มีฝ่ายโภชนาการอาหารที่ดีที่สุดในโลกได้นะ เอาจริงๆผมเป็นคนไม่ได้ภูมิใจกับอะไรมากนัก แต่ผมภาคภูมิใจมากๆกับสิ่งนี้”


UploadImage

UploadImage
       อยารู้ไหมอาชีพ "นักโภชนาการ" ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับอะไร เราจะเตรียมตัวในการสอบอย่างไรบ้าง แต่ละชั้นปีในรั้วมหาวิทยาลัยต้องเรียนรู้เกี่ยวกับอะไรบ้างนะ ฐานเงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่เท่าไหร่กันนะ ค้นหาคำตอบได้ที่โปรแกรมนี้เลย Careerexplore "นักโภชนการ"


ขอบคุณข้อมูลจาก 
Liverpool Thailand Fanclub FC