สอบเข้ามหาวิทยาลัย
"บิ๊กตู่"รับปากปลดล็อคอุปสรรคขวางวิจัยมหา'ลัย
วันที่เวลาโพส
16 ส.ค. 59 16:30 น.
อ่านแล้ว
284
ประธาน ทปอ.เผย “บิ๊กตู่” ร้องขอมหา'ลัยเป็นแกนหลักสร้างนวัตกรรม พร้อมรับปากช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคงานวิจัย ขณะที่ ม.วิจัย 9 แห่ง เสนอตัวเป็นเจ้าภาพขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 ชี้แจง ทปอ. 21 ส.ค.นี้
วันนี้(16 ส.ค.) ศ.นพ.อุดม คชินทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า ตามที่ ทปอ.ได้ประชุมร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับบทบาทของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0หรือ “ไทยแลนด์ 4.0” เมื่อเร็วๆนี้ นายกฯได้ขอให้มหาวิทยาลัยเป็นแกนหลักในการวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรมในการพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกัน ทปอ.ได้นำเสนอปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา เช่น งบประมาณในการดำเนินการวิจัย โดยขอเป็นงบฯผูกพัน เพราะงานวิจัยแต่ละเรื่องไม่สามารถเสร็จภายใน 1 ปี ขอให้การแก้ไขระเบียบพัสดุ เพื่อปลดล็อคการทำวิจัย เช่น การขอใช้เครื่องมือกับภาคเอกชน หรือ การนำเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนมาใช้จ่ายในงานวิจัยได้อย่างคล่องตัวขึ้น การเปิดให้อาจารย์ นักวิจัย ในมหาวิทยาลัยสามารถทำงานร่วมกับภาคเอกชนได้ โดยให้ถือเป็นการปฏิบัติราชการ เป็นต้น ซึ่งนายกฯ รับปากที่จะแก้ไขตามที่ ทปอ.เสนอ
ประธาน ทปอ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ทปอ.ได้เสนอให้รัฐบาลจัดกลุ่มมหาวิทยาลัย เป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ มหาวิทยาลัยวิจัย มหาวิทยาลัยเฉพาะทาง และมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน ซึ่งที่ประชุมได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปดำเนินการ เพราะที่ผ่านมา สกอ.ก็เคยมีการแบ่งกลุ่มมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้ ในการประชุม ทปอ.วันที่ 21 ส.ค.นี้ ตนจะนำเรื่องที่พบนายกฯ ไปแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ เพราะถือเป็นเรื่องด่วน นอกจากนี้ ทปอ.จะประสานการทำงานกับมหาวิทยาลัยราชภัฎ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันให้มากขึ้น โดย มหาวิทยาลัยวิจัย 9 แห่ง จะเป็นเจ้าภาพด้านต่างๆ และช่วยสร้างเครือข่ายร่วมกันด้วย
ด้าน พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า หลังจากนี้ ทปอ.ต้องไปตั้งคณะทำงาน เพื่อขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ส่วนงานวิจัยจะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับนานาชาติ ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น ซึ่งอาจจะต้องดึงสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)มาร่วมด้วย เนื่องจากเป็นหน่วยงานหนึ่งที่เป็นช่วงต่อของงานวิจัย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เดลินิวส์
วันนี้(16 ส.ค.) ศ.นพ.อุดม คชินทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า ตามที่ ทปอ.ได้ประชุมร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับบทบาทของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0หรือ “ไทยแลนด์ 4.0” เมื่อเร็วๆนี้ นายกฯได้ขอให้มหาวิทยาลัยเป็นแกนหลักในการวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรมในการพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกัน ทปอ.ได้นำเสนอปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา เช่น งบประมาณในการดำเนินการวิจัย โดยขอเป็นงบฯผูกพัน เพราะงานวิจัยแต่ละเรื่องไม่สามารถเสร็จภายใน 1 ปี ขอให้การแก้ไขระเบียบพัสดุ เพื่อปลดล็อคการทำวิจัย เช่น การขอใช้เครื่องมือกับภาคเอกชน หรือ การนำเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนมาใช้จ่ายในงานวิจัยได้อย่างคล่องตัวขึ้น การเปิดให้อาจารย์ นักวิจัย ในมหาวิทยาลัยสามารถทำงานร่วมกับภาคเอกชนได้ โดยให้ถือเป็นการปฏิบัติราชการ เป็นต้น ซึ่งนายกฯ รับปากที่จะแก้ไขตามที่ ทปอ.เสนอ
ประธาน ทปอ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ทปอ.ได้เสนอให้รัฐบาลจัดกลุ่มมหาวิทยาลัย เป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ มหาวิทยาลัยวิจัย มหาวิทยาลัยเฉพาะทาง และมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน ซึ่งที่ประชุมได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปดำเนินการ เพราะที่ผ่านมา สกอ.ก็เคยมีการแบ่งกลุ่มมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้ ในการประชุม ทปอ.วันที่ 21 ส.ค.นี้ ตนจะนำเรื่องที่พบนายกฯ ไปแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ เพราะถือเป็นเรื่องด่วน นอกจากนี้ ทปอ.จะประสานการทำงานกับมหาวิทยาลัยราชภัฎ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันให้มากขึ้น โดย มหาวิทยาลัยวิจัย 9 แห่ง จะเป็นเจ้าภาพด้านต่างๆ และช่วยสร้างเครือข่ายร่วมกันด้วย
ด้าน พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า หลังจากนี้ ทปอ.ต้องไปตั้งคณะทำงาน เพื่อขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ส่วนงานวิจัยจะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับนานาชาติ ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น ซึ่งอาจจะต้องดึงสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)มาร่วมด้วย เนื่องจากเป็นหน่วยงานหนึ่งที่เป็นช่วงต่อของงานวิจัย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เดลินิวส์
