คณะรัฐมนตรี มีมติ
1. เห็นชอบในหลักการโครงการทุนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา เพื่อพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์
2. ให้กระทรวงศึกษาธิการแจ้งคณะกรรมการที่ทำหน้าที่อำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา เมื่อมีการแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวแล้ว ในโอกาสแรกเพื่อให้เกิดการบูรณาการในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติต่อไป
3. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รับเรื่องนี้ไปประกอบการพิจารณาจัดทำแผนการให้ทุนการศึกษาและทุนวิจัยของประเทศในระยะต่อไปในทุกระดับการศึกษาให้สอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี รวมทั้งความต้องการบุคลากร องค์ความรู้ และทักษะที่จำเป็นของภาคราชการและภาคเอกชน ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559
สาระสำคัญของโครงการฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพการแพทย์และถวายเป็นราชสักการะและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา และเพื่อสนองพระปณิธานขององค์ประธานมูลนิธิจุฬาภรณ์ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ โดยสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่บุคคลทั่วไปสำหรับศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ณ ต่างประเทศ และผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรีสาขาวิชาแพทยศาสตร์ สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ และสาขาวิชารังสีเทคนิค
เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว จะปฏิบัติงานชดใช้ทุน ณ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร/อาจารย์ สำหรับการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต พยาบาลศาสตรบัณฑิต วิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชารังสีเทคนิค สาขาวิชาชีวสารสนเทศศาสตร์และชีววิทยาระบบ ของวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ รวมทั้งรองรับการให้บริการรักษาพยาบาลให้เพียงพอรองรับโครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขนาด 400 เตียง
ทั้งนี้ เป้าหมายการดำเนินงาน/ผลผลิต จะเริ่มให้ทุนการศึกษาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ไปจนถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยผู้รับทุนรุ่นสุดท้าย (พ.ศ. 2565) จะสำเร็จการศึกษาในปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 โดยหน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการจะจัดทำรายละเอียดแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อใช้เป็นแนวทางในการบริหารโครงการ การติดตามและการประเมินผลให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะดำเนินการออกระเบียบเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดสรรและการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามหลักการที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรี และประเมินผลโครงการทุก 3 ปี และเมื่อจบโครงการ เพื่อประเมินกระบวนการคัดเลือก ผลการปฏิบัติงานชดใช้ทุน และผลลัพธ์โครงการว่ามีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หรือไม่