EECd แหล่งสร้างงานคนยุคดิจิทัล เตรียมรับ "ซิลิคอนวัลเลย์ เมืองไทย"

ปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นยุคที่ทั่วโลกตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจดิจิทัล เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ สร้างบุคลากรและนวัตกรรมส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยเอง 

เมื่อ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่มีการจัดตั้ง เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิตอล หรืออีอีซีดี (Digital Park Thailand : EECd) เพื่อเป็นฐานการพัฒนาองค์ความรู้และการสร้างนวัตกรรมดิจิทัล ขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 รองรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลแห่งอนาคต บนเนื้อที่ 709 ไร่ ณ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 

ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการเพื่อเปิดให้ภาคเอกชนยื่นข้อเสนอการพัฒนาพื้นที่โครงการในรูปแบบการให้เอกชนเข้าร่วมทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถประกาศเชิญชวน TOR ได้ประมาณเดือนตุลาคม 2561 เพื่อทำการคัดเลือกเอกชนให้ได้ภายในเดือนธันวาคม 2561 และลงนามในช่วงต้นปี 2562 


โครงการนี้ กำหนดกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ประกอบด้วย 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะซอฟต์แวร์และระบบอัตโนมัติ บริการด้านดิจิทัล อุปกรณ์และบริการสื่อสาร ข้อมูลและเนื้อหาดิจิทัล และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิตอล ครอบคลุมประเภทกิจการ 54 กิจการที่ได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ

รวมถึงการจัดตั้งสถาบันไอโอที เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลแห่งอนาคต ใช้เป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ที่ขณะนี้เริ่มเข้าสู่การดำเนินงานขั้นตอนก่อสร้างแล้ว ด้วยงบประมาณ 3,699 ล้านบาท แล้วเสร็จในปี 2564 ส่วนการก่อสร้างสถาบันไอโอที ถือเป็น 1 ในโครงการที่สำคัญในอีอีซีดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบก่อสร้างและปรับพื้นที่ และจะเริ่มก่อสร้างอาคารแรกขนาด 3 พันตารางเมตรในเดือนสิงหาคม 2561 จากทั้งหมด 6 หมื่นตารางเมตร  

โดยภาครัฐจะลงทุนในส่วนของพื้นที่อาคาร โครงสร้างพื้นฐานดิจิตอลที่เป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เช่น สนามทดสอบยานยนต์ไร้คนขับ และระบบขนส่งส่วนบุคคลอัจฉริยะ ห้องทดสอบเครื่องบินขนาดเล็ก เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2564 


นอกจากนี้ยังมีการชักชวนนักลงทุนกลุ่มเป้าหมาย เพื่อมาลงทุนในพื้นที่อีอีซีไอ ในปี 2561 มีแผนที่จะโรดโชว์ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา จีน เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งมีนักลงทุนกลุ่มเป้าหมายในแต่ละประเทศราว 24 องค์กร อาทิเช่น บริษัท ไมโครซอฟท์ฯ สาขาไต้หวัน, บริษัท เอซุสฯ (ASUS), บริษัทไอบีเอ็ม, Facebook, บริษัท แอปเปิล อิงค์, ศูนย์การวิจัยขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NASA), บริษัท HUAWEI, บริษัท NHN Japan หรือ LINE, และ บริษัท มิตซูบิชิฯ บริษัท เป็นต้น 

ใครไม่อยากตกขบวน ก็ต้องเร่งพัฒนาทักษะและเรียนรู้ทางด้านดิจิทัลเตรียมไว้ เพราะจากทิศทางการพัฒนาและการส่งเสริมจากภาคัฐและหลายหน่วยงานทั่วประเทศที่กำลังดำเนินอยู่นี้ คงไม่ผิดถ้าจะบอกว่าน้องๆ นักศึกษารวมทั้งบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับภาคไอทีและธุรกิจดิจิทัลหลายๆ ฝ่าย จะมีโอกาสในการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีความก้าวหน้าและโอกาสประสบความสำเร็จในตลาดงานอยู่ไม่น้อย 



ที่มา :
www.thansettakij.com
www.prachachat.net
www.thaigov.go.th