สอบเข้ามหาวิทยาลัย

World Schooling เทรนด์ "ให้โลกเลี้ยงลูก"

UploadImage

พบกันอีกแล้วนะคะ  ครั้งนี้พี่จ๋า AdmissionPremium เปิดไปเจอบทความ World Schooling เทรนด์ "ให้โลกเลี้ยงลูก" เป็นบทความที่น่าสนใจมาก โดยที่ ครอบครัว Snaiths  พวกเขาพาลูกเดินทางทั่วโลกเพื่อเรียนรู้ท่องโลก และพร้อมกับถ่ายทอดความรู้จากพ่อและแม่ระหว่างการเดินทางไปอีกด้วย มาติดตามบทความกันได้เลยจากด้านล่าง นี้เลยนะคะ 

หนุ่มสาวหลายคนมีความฝันอยากแบกเป้ไปเที่ยวรอบโลก แต่ถ้าไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองก็คงต้องทำมาหากินกันก่อนถึงจะมีเงินพอที่จะเดินทางได้

พอเข้าวัยทำงานแต่งงานแล้วก็ไม่เท่าไหร่ต่างฝ่ายต่างดูแลกันได้ถ้าอยากไปเที่ยวแบบลุยๆ แต่ถ้าเกิดว่ามีลูกขึ้นมาทีนี้สิจะไปไหนก็คงลำบากต้องให้ลูกโตก่อน กว่าจะไปเที่ยวได้ตามเป้าหมายก็อาจต้องรอเป็นสิบปี

แต่ตอนนี้กระแส worldschooling กำลังมาแรง พ่อแม่หลายครอบครัวพาลูกๆ ออกไปท่องโลกโดยไม่ต้องรอให้ลูกๆ โต โดยทดแทนการเรียนในระบบด้วยการถ่ายทอดความรู้จากพ่อแม่ระหว่างการเดินทางเหมือนกับ homeschooling แต่คราวนี้เปลี่ยนจาก "บ้าน" ไปเป็น "โลก" แทน

หนึ่งในตัวอย่างครอบครัวที่พาลูกๆ ที่ยังเล็กออกเดินทางไปรอบโลกคือครอบครัว Snaiths จากอังกฤษ ที่แม่ Gilly เป็นอดีตครูชีวะ ส่วนพ่อ Steve เป็นนักบัญชีจากสำนักงานระดับโลกแต่เกษียณตัวเองตั้งแต่อายุ 48 ปี และลูกอีกสองคน วัย 5 ขวบ และ 8 ขวบ

ครอบครัว Snaiths เดินทางออกเดินทางมาแล้ว 3 ปี ไปมา 5 ทวีป ด้วยรถบรรทุกดัดแปลงเป็นรถบ้านที่มีทั้งห้องนอนห้องครัวห้องนั่งเล่น และบางครั้งก็เป็นห้องเรียนให้กับเด็กๆ 

เรื่องการเรียนของเด็กๆ Gilly บอกว่าเธอซื้อแบบเรียนที่ใช้กันในอังกฤษมาสอน แต่บางเรื่องเธอก็สอนเด็กๆ ให้สอนคล้องกับสถานที่ อย่างไปเที่ยวอเมริกาใต้เธอก็เลือกสอนเรื่องเกี่ยวกับชนเผ่ามายา แทนที่จะสอนเรื่องโรมัน 

เด็กๆ จะใช้เวลาเรียนอย่างเป็นเรื่องเป็นราวแค่วันละ 2 ชั่วโมง แต่ก็เรียนทุกวันไม่มีวันหยุด

แต่สิ่งหนึ่ง Steve กังวลก็คือ การที่พวกเขาเดินทางตลอดไม่อยู่ติดที่ ทำให้เด็กๆ ไม่มีโอกาสได้สร้างมิตรภาพในระยะยาว เหมือนกับเด็กๆ ที่เข้าเรียนตามโรงเรียนทั่วๆ ไป ซึ่งเขาหวังว่า เมื่อเด็กๆ กลับเข้าสู่การเรียนตามระบบพวกเขาจะสามารถปรับตัวได้


ถือเป็นชีวิตที่ดูน่าอิจฉาทีเดียว สำหรับครอบครัวจากประเทศพัฒนาแล้วซึ่งมีเงินเก็บมากพอที่จะเดินทางไปรอบโลกได้ในวัยที่ยังมีเรี่ยวมีแรงทำอะไรได้อีกมาก 

ไม่รู้ว่าคนอื่นๆ อ่านแล้วอยากจะเอาอย่างบ้างหรือป่าว และจะรู้สึกกังวลหรือไม่กับการให้ลูกออกเดินทางไปพร้อมกันโดยไม่ได้เข้าเรียนเหมือนอย่างเด็กวัยเดียวกัน

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก :  thematter.co