หลักสูตร MBA ในประเทศสหรัฐอเมริกา
หากเรากำลังมองหาสถานที่ศึกษาต่อในระดับ MBA คำถามแรกที่เราคิด คือ เราจะเลือกสถาบันไหนที่เหมาะกับเรา และดีที่สุด? ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรพิจารณาก่อนเสมอ ประเทศอเมริกาก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ หลักสูตร MBA มีชื่อเสียงระดับโลก และเน้นการสอนให้นักศึกษาเป็นผู้นำในโลกธุรกิจ อีกทั้งมีความหลากหลายของหลักสูตร และเปิดโอกาสให้นักศึกษาสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนในโลกธุรกิจอีกด้วย วันนี้เรามีแนวทางที่จะช่วยให้การเลือกสถาบันที่ตรงใจเรามาให้อ่านกันด้วย เพื่อให้กาพิจารณาของเราง่ายขึ้น
สิ่งสำคัญ คือ เราต้องรู้ว่าคุณต้องการศึกษาเกี่ยวกับอะไร
เราต้องรู้ก่อนว่าเป้าหมายทางอาชีพของเราคืออะไร เพราะจะทำให้สามารถพิจารณาเลือกสถานศึกษาที่เหมาะสมกับราได้ง่ายขึ้น เช่น การศึกษาหลักสูตร MBA ทั่วไป หรือหลักสูตร MBA เฉพาะที่จะทำให้เราสามารถไปถึงเป้าหมายทางอาชีพที่วางแผนไว้ นอกจากนี้สถานที่ตั้งของสถานศึกษาก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหลักสูตร MBA ส่วนใหญ่จะส่งนักศึกษาออกไปฝึกงานกับบริษัทในท้องถิ่น และชุมชน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ทำความรู้จักกับผู้คนในวงการ และโอกาสที่จะได้งานทำในสาขาที่ต้องการในอนาคตอีก
มองหาสถานศึกษาที่เสนอหลักสูตร และมุ่งเน้นการบริการต่าง ๆ
ก่อนที่เราจะทำการสมัครเข้าเรียน เราควรตรวจดูว่าสถานศึกษาก่อน เพราะหลักสูตร MBA ของประเทศสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่จะรับนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสี่ปีที่ตั้งอยู่ภายในประเทศหรือปริญญาเทียบเท่าจากประเทศอื่น นอกจากนี้ควรหาหลักสูตรที่มีโปรแกรม และบริการต่าง ๆ เพื่อช่วยนักศึกษาให้พบกับเพื่อนใหม่ และบริการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเข้าเมือง และการขอวีซ่า เราต้องตรวจให้แน่ใจว่าเราจะได้รับการช่วยเหลือชี้แนะเกี่ยวกับการศึกษา และอาชีพของเรามากเท่าไหร่ รวมไปถึงการช่วยเหลือด้านการปรับตัวให้เข้ากับสถานที่เรียนใหม่ด้วย
มองหาหลักสูตรที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของคุณ
ควรตรวจดูที่ตั้งของสถานศึกษาที่เราสนใจ และศึกษาเกี่ยวกับเมืองนั้น และดูว่าผู้คนส่วนใหญ่ทำกิจกรรมอะไรเพื่อเป็นการคลายเครียด และดูว่ามีกิจกรรมทางด้านศิลปะ และการบันเทิงต่าง ๆ หรือโอกาสในการไปท่องเที่ยวในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นหรือไม่
ท้ายสุดแล้วคนเราทุกคนก็ต้องเดินไปตามฝันแบบที่วางไว้ การที่เราหาประสบการณ์แปลกใหม่ ความรู้ที่เราไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เป็นการเพิ่มความสามารถ และศักยภาพให้เราอีกอย่างหนึ่ง เพื่อให้เราได้ก้าวออกไปสู่โลกภายนอก และใช้ความรู้ ประสบการณ์ที่เราได้เรียนมา ตามหาความฝันในแบบของเราได้อย่างมั่นใจ “คนเรามีความฝันอยู่ทุกที่ อยู่ที่ว่าจะเดินไปหาฝันนั่นอย่างไร”
สิ่งสำคัญ คือ เราต้องรู้ว่าคุณต้องการศึกษาเกี่ยวกับอะไร
เราต้องรู้ก่อนว่าเป้าหมายทางอาชีพของเราคืออะไร เพราะจะทำให้สามารถพิจารณาเลือกสถานศึกษาที่เหมาะสมกับราได้ง่ายขึ้น เช่น การศึกษาหลักสูตร MBA ทั่วไป หรือหลักสูตร MBA เฉพาะที่จะทำให้เราสามารถไปถึงเป้าหมายทางอาชีพที่วางแผนไว้ นอกจากนี้สถานที่ตั้งของสถานศึกษาก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหลักสูตร MBA ส่วนใหญ่จะส่งนักศึกษาออกไปฝึกงานกับบริษัทในท้องถิ่น และชุมชน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ทำความรู้จักกับผู้คนในวงการ และโอกาสที่จะได้งานทำในสาขาที่ต้องการในอนาคตอีก
มองหาสถานศึกษาที่เสนอหลักสูตร และมุ่งเน้นการบริการต่าง ๆ
ก่อนที่เราจะทำการสมัครเข้าเรียน เราควรตรวจดูว่าสถานศึกษาก่อน เพราะหลักสูตร MBA ของประเทศสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่จะรับนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสี่ปีที่ตั้งอยู่ภายในประเทศหรือปริญญาเทียบเท่าจากประเทศอื่น นอกจากนี้ควรหาหลักสูตรที่มีโปรแกรม และบริการต่าง ๆ เพื่อช่วยนักศึกษาให้พบกับเพื่อนใหม่ และบริการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเข้าเมือง และการขอวีซ่า เราต้องตรวจให้แน่ใจว่าเราจะได้รับการช่วยเหลือชี้แนะเกี่ยวกับการศึกษา และอาชีพของเรามากเท่าไหร่ รวมไปถึงการช่วยเหลือด้านการปรับตัวให้เข้ากับสถานที่เรียนใหม่ด้วย
มองหาหลักสูตรที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของคุณ
ควรตรวจดูที่ตั้งของสถานศึกษาที่เราสนใจ และศึกษาเกี่ยวกับเมืองนั้น และดูว่าผู้คนส่วนใหญ่ทำกิจกรรมอะไรเพื่อเป็นการคลายเครียด และดูว่ามีกิจกรรมทางด้านศิลปะ และการบันเทิงต่าง ๆ หรือโอกาสในการไปท่องเที่ยวในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นหรือไม่
ท้ายสุดแล้วคนเราทุกคนก็ต้องเดินไปตามฝันแบบที่วางไว้ การที่เราหาประสบการณ์แปลกใหม่ ความรู้ที่เราไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เป็นการเพิ่มความสามารถ และศักยภาพให้เราอีกอย่างหนึ่ง เพื่อให้เราได้ก้าวออกไปสู่โลกภายนอก และใช้ความรู้ ประสบการณ์ที่เราได้เรียนมา ตามหาความฝันในแบบของเราได้อย่างมั่นใจ “คนเรามีความฝันอยู่ทุกที่ อยู่ที่ว่าจะเดินไปหาฝันนั่นอย่างไร”