ทักษะก่อนก้าวเข้าสู่ MBA และข้อแนะนำ! ที่ต้องเผชิญเมื่อเรียน B-School
นักศึกษาจบใหม่ประสบการณ์ทำงานถือเป็นสิ่งจำเป็นในการสมัครเข้าเรียน B-School เพราะการผ่านงานด้านที่ปรึกษาหรืองานด้านการตลาดถือเป็นเรื่องปกติของผู้สมัคร MBA แต่ประสบการณ์ทำงานต่างหาก ที่จะทำให้นักศึกษานำแง่มุมจากการทำงานจริงๆ มาช่วยในการเรียน ซึ่งเราจะได้พบเจอกับการสอบ, ทำรายงานกลุ่ม, ทำรายงานและนำเสนอหน้าชั้นเรียน ซึ่งบางครั้งก็เป็นความท้าทายหากต้องปรับโหมดเข้าสู่แนววิชาการอีกครั้ง วันนี้เรามีแนวทางการเรียนมาแนะให้สำหรับผู้ที่กำลังก้าวเข้ามาเรียน B-School
1.การบริหารจัดการเวลา
การบริหารเวลาโดยการจัดการทุกอย่างอย่างเป็นระบบและให้ผลคุ้มค่ามากที่สุด เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของชาว MBA ในฐานะพนักงานเราจะต้องนั่งประจำอยู่ที่เดิมและทำงานโดยเป็นกิจวัตรประจำวัน แต่ใน B-School จะต้องมีการประชุมกลุ่ม, การทดสอบ, การเข้าร่วมกิจกรรม ถึงแม้จะไม่ใช่การบังคับแต่ก็เป็นสิ่งที่พึงเข้าร่วม
2.การกำหนดเป้าหมายด้วยตนเอง
พนักงานจะมีเจ้านายคอยกำกับดูแลและกำหนดแนวทางในการทำงาน แต่ใน B-School นักเรียนจะต้องกำหนดทิศทางต่างๆ ด้วยตนเอง การกำหนดเป้าหมาย และทิศทางต่างๆ ด้วยตนเองเป็นสิ่งจำเป็นมากใน B-School โดยเราจะต้องมี Action Plan ของตนเอง B-School หลายๆ แห่งได้กระตุ้นให้นักเรียนเข้ามาเรียนด้วยความคิดของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นวิชาที่ต้องลงทะเบียนเรียนหรือชมรมที่จะเข้าสังกัด
3.อาจมีส่วนร่วมในสังคม
การมีส่วนร่วมในสังคมเป็นสิ่งจำเป็นใน B-School ซึ่งผู้บริหาร B-School ส่วนใหญ่ได้ลงทุนมหาศาลเพื่อกระตุ้นให้เกิดชุมชน การสร้างเครือข่ายอย่างต่อเนื่องระหว่างเพื่อนร่วมชั้น เพื่อนในชมรม และกิจกรรมสังสรรค์ต่างๆ จะช่วยให้นักเรียนมีเครือข่ายกว้างขึ้น และสามารถช่วยเหลือต่อยอดในสายอาชีพอีกด้วย
4.ทักษะ
นักเรียนบางคนเข้าสู่รั้ว B-School ด้วยทักษะเชิงปริมาณ (Quantitative) อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในการเรียน MBA แต่ถ้าเราไม่มีความชำนาญในด้านนี้ก็ควรหาทักษะด้านอื่นๆ มาทดแทน การเงินและการบัญชีก็เป็นทักษะสำคัญในการเรียน MBA ลองศึกษาหาข้อมูล และเตรียมทักษะของตัวเองให้พร้อมก่อนก้าวเข้าสู่โลก MBA
การเตรียมทักษะของตัวเองให้พร้อมก่อนก้าวเข้าสู่โลก MBA เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะถ้าหากเราขาดทักษะ ประสบการณ์ เราก็จะไม่สามารถก้าวไปถึง MBA ได้ “ความลำบากมักมาพร้อมกับความสำเร็จเสมอ“
1.การบริหารจัดการเวลา
การบริหารเวลาโดยการจัดการทุกอย่างอย่างเป็นระบบและให้ผลคุ้มค่ามากที่สุด เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของชาว MBA ในฐานะพนักงานเราจะต้องนั่งประจำอยู่ที่เดิมและทำงานโดยเป็นกิจวัตรประจำวัน แต่ใน B-School จะต้องมีการประชุมกลุ่ม, การทดสอบ, การเข้าร่วมกิจกรรม ถึงแม้จะไม่ใช่การบังคับแต่ก็เป็นสิ่งที่พึงเข้าร่วม
2.การกำหนดเป้าหมายด้วยตนเอง
พนักงานจะมีเจ้านายคอยกำกับดูแลและกำหนดแนวทางในการทำงาน แต่ใน B-School นักเรียนจะต้องกำหนดทิศทางต่างๆ ด้วยตนเอง การกำหนดเป้าหมาย และทิศทางต่างๆ ด้วยตนเองเป็นสิ่งจำเป็นมากใน B-School โดยเราจะต้องมี Action Plan ของตนเอง B-School หลายๆ แห่งได้กระตุ้นให้นักเรียนเข้ามาเรียนด้วยความคิดของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นวิชาที่ต้องลงทะเบียนเรียนหรือชมรมที่จะเข้าสังกัด
3.อาจมีส่วนร่วมในสังคม
การมีส่วนร่วมในสังคมเป็นสิ่งจำเป็นใน B-School ซึ่งผู้บริหาร B-School ส่วนใหญ่ได้ลงทุนมหาศาลเพื่อกระตุ้นให้เกิดชุมชน การสร้างเครือข่ายอย่างต่อเนื่องระหว่างเพื่อนร่วมชั้น เพื่อนในชมรม และกิจกรรมสังสรรค์ต่างๆ จะช่วยให้นักเรียนมีเครือข่ายกว้างขึ้น และสามารถช่วยเหลือต่อยอดในสายอาชีพอีกด้วย
4.ทักษะ
นักเรียนบางคนเข้าสู่รั้ว B-School ด้วยทักษะเชิงปริมาณ (Quantitative) อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในการเรียน MBA แต่ถ้าเราไม่มีความชำนาญในด้านนี้ก็ควรหาทักษะด้านอื่นๆ มาทดแทน การเงินและการบัญชีก็เป็นทักษะสำคัญในการเรียน MBA ลองศึกษาหาข้อมูล และเตรียมทักษะของตัวเองให้พร้อมก่อนก้าวเข้าสู่โลก MBA
การเตรียมทักษะของตัวเองให้พร้อมก่อนก้าวเข้าสู่โลก MBA เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะถ้าหากเราขาดทักษะ ประสบการณ์ เราก็จะไม่สามารถก้าวไปถึง MBA ได้ “ความลำบากมักมาพร้อมกับความสำเร็จเสมอ“