หอการค้าไทยเผย 10 ธุรกิจเด่นปี 61 ธุรกิจไอที-สื่อสารขยับขึ้นแท่นอันดับ 1 ขณะที่ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์เติบโตตามธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ
นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย
ผลวิจัยทางธุรกิจ 10 อันดับธุรกิจดาวเด่น-ร่วง ปี 2561 พบว่า
ธุรกิจดาวเด่น อันดับ 1 ในปี 2016 คือ ธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและอุปกรณ์ (ผู้ให้บริการโครงข่าย) โดยมีคะแนนรวมอยู่ที่ 94.5 คะแนน ตามการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วจากนโยบายส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเตอร์เน็ต การเข้าสู่สังคมเมืองและราคาอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ที่มีราคาต่ำลง
รองลงมาอันดับ 2 เป็นธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม ด้วยคะแนน 93.6 คะแนน ซึ่งเป็นการขยับลงครั้งแรกหลังครองแชมป์อันดับหนึ่งมากว่า 5 ปี ตามด้วยอันดับ 3 เป็นธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นการขยายตัวตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก ทำให้นิยมเลือกซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น เช่นเดียวกับอันดับ 4 ที่เป็นของธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวที่ขยายตัวตามช่องทางการจำหน่ายที่หากหลายและเข้าถึงง่ายและพฤติกรรมการดูแลรักษาสุขภาพผิวพรรณ
อันดับ 5 ได้แก่ธุรกิจด้านปิโตรเคมีและพลาสติก และธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งเติบโตมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ตามธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ อันดับ 6 ได้แก่ ธุรกิจโมเดิร์นเทรด ธุรกิจบริการทางด้านการเงิน และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มแนวใหม่ อันดับ 7
คือ ธุรกิจร้านขายยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์
ส่วนอันดับ 8 ได้แก่ธุรกิจด้านการศึกษาและธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อันดับ 9 ได้แก่ ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจด้านความเชื่อ เช่น หมอดู โหราศาสตร์ เครื่องราง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ธุรกิจด้านความเชื่อเข้ามาติดอันดับธุรกิจดาวเด่น และสุดท้ายอันดับที่ 10 ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจร้านเสริมสวย
โดยปัจจัยสนับสนุนการทำธุรกิจในปี 2561 หลักๆ มาจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2561
ที่มีทิศทางขยายตัวสูงขึ้นเกิน 4% และการลงทุนภาครัฐยังคงขยายตัวต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวและการส่งออก ซึ่งส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนฐานรากเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยศูนย์พยากรณ์ฯ ยังมองว่าจีดีพีปี 2561 จะโตได้ถึง 4.2% ส่วนการส่งออกโต 5% ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังขยายตัวดีอยู่
ขณะที่ปัจจัยบั่นทอนการทำธุรกิจจะมาจากนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจโลก และปัญหาหนี้สินครัวเรือนและหนี้เสียของเอสเอ็มอี มาตรการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
ที่มา :
www.posttoday.com