หุ่นยนต์ตักข้าวในญี่ปุ่นกำลังได้รับความนิยม ยอดขายพุ่ง เพราะรวดเร็ว แม่นยำ และทดแทนการขาดแคลนแรงงานได้ โดยบริษัทผลิตหุ่นยนต์ตักข้าว
Suzumo Machinery ระบุว่า ยอดขายหุ่นยนต์ตักข้าวในเดือนมีนาคมปี 2017 ที่ผ่านมา พุ่งขึ้นถึง 150% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
สาเหตุของการเติบโตมาจากการไปใช้ได้จริงของร้านอาหารในญีปุ่น Yoshinoya Holdings เชนขายข้าวหน้าเนื้อนำเอาหุ่นยนต์ตักข้าวเข้าไปใช้ในสาขากว่า 90% ทั่วญี่ปุ่น พร้อมทั้งบอกว่า ข้อดีของการใช้หุ่นยนต์ตักข้าวคือความรวดเร็ว และประหยัดเวลาไปได้มาก
แม้จะถูกเรียกว่า
“หุ่นยนต์ตักข้าว” แต่ก็ไม่ใช่แค่การตักข้าวทั่วๆ ไป เพราะหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถตักข้าวที่มีปริมาณตั้งแต่ 250 กรัม ไปจนถึง 999 กรัมได้อย่างแม่นยำ ภายใน 5 วินาที นอกจากนั้นหุ่นยนต์ตักข้าวนี้ ยังสามารถแตกไลน์ออกไปทำ “ซูชิ” ได้อีกด้วย เพียงแค่ใส่ข้าว เตรียมวัตถุดิบ หุ่นยนต์จะทำการคำนวณปริมาณที่ถูกต้องและแม่นยำให้คุณทำซูชิได้อย่างง่ายดาย
ลองดูคลิปการทำซูชิของหุ่นยนต์นี้แล้วคุณจะไม่แปลกเลยว่าทำไมยอดขายพุ่ง เพราะทำให้ร้านอาหารประหยัดต้นทุนไปได้มาก ทั้งเรื่องของเวลา และโดยเฉพาะเรื่องแรงงานคนในญี่ปุ่นที่กำลังขาดแคลน
ในแง่การทำตลาด Suzumo ยังเป็นเบอร์ 1 ของญีปุ่น เพราะครองตลาดหุ่นยนต์ตักข้าวไปถึง 90% นอกจากนั้น Suzumo ยังคาดการณ์ว่า ยอดขายในเดือนมีนาคม 2018 จะโตขึ้นอีก 2% จากปีก่อนหน้าที่โตถึง 150% และเจ้าหุ่นยนต์ตักข้าวนี้มีราคา 1 เครื่อง อยู่ที่ประมาณ 11,980 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3.7 แสนบาท
ซึ่งการต่อยอดทางธุรกิจ นอกจากร้านอาหารแล้ว หุ่นยนต์ตักข้าวนี้สามารถนำไปใช้ในโรงพยาบาล โรงแรม หรือการเสิร์ฟอาหารบุฟเฟ่ต์ในงานใหญ่ๆ ที่ต้องการแรงงานคนจำนวนมากก็ได้