ข้อสอบย่อมเปลี่ยนไปตามเวลา นี่ก็ปี 2019 แล้ว ก็ต้องมีการอัปเดตกันบ้าง สำหรับข้อสอบ TOEIC ใหม่ปี 2019 หรือ New TOEIC ตอนนี้เริ่มมีการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยมากขึ้น ทันต่อเหตุการณ์ในปัจจุบันมากขึ้น นำร่องโดยประเทศเกาหลีและญี่ปุ่น และเริ่มขยับขยายไปทั่วโลก และแน่นอนว่าประเทศไทยก็เริ่มมีการเปิดให้สอบ New TOEIC กันแล้ว โดยเปิดให้สมัครเดินละ 1 รอบเท่านั้น
ต้องเกริ่นก่อนว่าปัจจุบัน การสอบ TOEIC มี 2 แบบ คือ 1.TOEIC Listening and Reading Test (การฟังและการอ่าน) และ 2. TOEIC Speaking and Writing Tests (การพูดและการฟัง) ซึ่งยังไม่มีในประเทศไทย ยังคงเป็นข้อสอบการฟังและการอ่านเท่านั้น แต่มีการนำมาปรับใหม่ ดังนี้
1. การฟัง (Listening Comprehension) มี 100 ข้อ คะแนนเต็ม 495 คะแนน เวลา 45 นาที ผู้เข้าสอบจะได้ฟังคำถาม และการสนทนาสั้นๆ เป็นภาษาอังกฤษ แล้วตอบคำถามจากสิ่งที่ได้ยิน โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วนย่อย ดังนี้
1.1 Part 1: Photographs 10 ข้อ Part 2: Question-Response 30 ข้อ Part 3: Conversations 30 ข้อ
1.2 Part 4: Short Talks 30 ข้อ
2. การอ่าน (Reading Comprehension) มี 100 ข้อ คะแนนเต็ม 495 คะแนน เวลา 75 นาที ผู้เข้าสอบจะต้องตอบคำถามจากสิ่งที่อ่าน โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนย่อย ดังนี้
2.1 Part 5: Incomplete Sentences 40 ข้อ Part 6: Text Completion 12 ข้อ
2.2 Part 7: Reading Comprehension 48 ข้อ
**เวลาในการสอบทั้งหมดคือ 2 ชั่วโมง และค่าสอบ 1,500 บาทเท่าเดิม**
ซึ่งจากที่เห็น สิ่งที่ New TOEIC เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด คือจำนวนข้อสอบในแต่ละ Parts ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนจำนวนข้อไม่เท่าเดิม เช่น Short Conversations จากเดิมมี 30 ข้อก็กลายเป็น 39 ข้อสอบ Question-Response จากเดิมมี 30 ข้อ ลดเหลือเพียง 25 ข้อ เป็นต้น ซึ่งเวลาในการสอบ Listening ยังคงเป็น 45 นาที และ Reading ก็ยังคงเป็น 75 นาทีเท่าเดิม
ดังนั้น ที่เราต้องทำ คือการปรับโฟกัสข้อสอบให้ดี เมื่อแต่ละ Parts มีจำนวนข้อสอบไม่เท่าเดิม เราต้องมาปรับกระบวนการทบทวนใหม่ หากข้อไหนมีจำนวนมากขึ้น และเป็นหัวข้อที่เราไม่ถนัด เราต้องใช้เวลากับข้อนั้นมากที่สุด และทบทวน Part นั้นให้ดี ศึกษารูปแบบประโยคใหม่ๆ ที่มีการใช้ในปัจจุบัน เท่านี้ การปรับเปลี่ยนข้อสอบ TOEIC ก็ไม่ยากเกินความสามารถของทุกคนแล้ว
อ้างอิงจาก
www.2btopic.com
www.opendurian.com