กระทรวงศึกษาธิการเกาหลีใต้เริ่มบังคับใช้นโยบายห้ามสอนภาษาอังกฤษแก่เด็กประถม 1 และ 2 ในโรงเรียนทั่วประเทศ โดยให้เหตุผลว่า ช่วงปฐมวัยควรเป็นเวลาเรียนรู้ภาษาเกาหลีซึ่งเป็นภาษาแม่
โดยคำสั่งดังกล่าวที่ห้ามโรงเรียนประถมทั่วประเทศสอนวิชาภาษาอังกฤษแก่นักเรียนชั้น ป.1 และ ป.2 เริ่มมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2561 โดยเว็บไซต์โคเรียไทม์ส ของเกาหลีใต้ รายงานอิงจากแถลงการณ์กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงความเท่าเทียมทางเพศ ครอบครัว และภาษี ซึ่งระบุว่า
นโยบายดังกล่าวถูกกำหนดขึ้นเพื่อปราบปรามโรงเรียนเอกชนที่แสวงหาผลประโยชน์จากการเปิดสอนภาษาอังกฤษแก่เด็กประถม โดยเก็บค่าเล่าเรียนสูงเกินจริง ทั้งนี้การเรียนการสอนไม่ได้มาตรฐานโรงเรียนประถมหรือสถาบันสอนภาษาเอกชนที่ฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าว จะถูกพิจารณาปิดกิจการและถูกปรับเงิน 5 ล้านวอน (ประมาณ 1 ล้านบาท)
ด้าน ควอนจียอง ผู้อำนวยการกรมคุ้มครองและส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ปฐมวัย กระทรวงศึกษาธิการแห่งเกาหลีใต้ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีรา ระบุว่า "พ่อแม่ชาวเกาหลีใต้จำนวนมากเชื่อว่าการเรียนรู้ภาษาที่สองนอกเหนือจากภาษาแม่ ควรเริ่มต้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิธีเรียนรูู้ภาษาต่างประเทศควบคู่ไปกับการเรียนภาษาเกาหลี แต่ในความเป็นจริงแล้วช่วงวัยที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ภาษาที่สอง ซึ่งในกรณีนี้คือภาษาอังกฤษ ควรเริ่มเมื่อเด็กเข้าสู่ชั้นประถม 3 เป็นต้นไป"
Credit : www.koreatimes.co.kr
อย่างไรก็ตาม โรเบิร์ต คลูนเดอร์ ศาสตราจารย์ด้านสัทศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์โคเรียไทม์ส โดยระบุว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
ยังไม่เคยเห็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการสอนภาษาที่สองแก่เด็กปฐมวัย ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 5-7 ปี จะส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ภาษาแม่ และการสอนภาษาต่างประเทศแก่เด็กที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไปจะพบปัญหาเด็กพัฒนาทักษะการออกเสียงได้ช้ากว่าเด็กที่เริ่มเรียนภาษาต่างประเทศตั้งแต่ปฐมวัย
นอกจากนี้ การสั่งห้ามโรงเรียนประถมสอนภาษาอังกฤษแก่เด็กนักเรียนชั้น ป.1-2 ทั่วประเทศ จะส่งผลกระทบต่อครูและครูผู้ช่วยประมาณ 7,000 คนทั่วประเทศซึ่งจะต้องตกงานหรือสูญเสียรายได้ และก่อนหน้านี้ ผู้ได้รับผลกระทบได้ร่วมกันลงชื่อร้องเรียนต่อศาลเกาหลีใต้ แต่ศาลมีคำพิพากษาให้ปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเริ่มเสนอต่อที่ประชุมสภาตั้งแต่ปี 2559
แหล่งข่าวในกระทรวงศึกษาธิการรายหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า "รัฐบาลตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างโอกาสเรียนรู้ภาษาต่างประเทศของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เพราะทักษะด้านภาษาจะช่วยพัฒนาความสามารถและโอกาสทางอาชีพการงานของเด็กนักเรียนในอนาคต
แต่การเปิดสอนภาษาอังกฤษของโรงเรียนเอกชนส่วนใหญ่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ เด็กจากครอบครัวฐานะดีมีโอกาสเรียนรู้ภาษาอื่นๆ มากกว่าเด็กจากครอบครัวยากจน ทางกระทรวงจึงได้ริเริ่มนโยบายปรับหลักสูตรการเรียนรู้เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมทางการศึกษาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"
ที่มา :
www.voicetv.co.th
www.aljazeera.com
www.koreatimes.co.kr