"โทรศัพท์มือถือ"
กลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคน ทุกเพศทุกวัยไปแล้ว แม้แต่เด็กประถม ก็ต้องมีมือถือติดตัวกันแทบทุกคน แต่ประเทศฝรั่งเศสเล็งเห็นว่า การใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียนนั้นเป็นปัญหามากกว่าประโยชน์ และต้องจำกัดการใช้ด้วย ดังนั้น รัฐบาลฝรั่งเศสเตรียมที่จะบังคับนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 6 -15 ปี หรือตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาไปจนถึงชั้นมัธยมตอนต้น
ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือภายในโรงเรียนตลอดวัน
โดยการประกาศในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของประธานาธิบดี
Immanuel Macron ที่เคยสัญญาไว้ช่วงเลือกตั้ง รวมไปถึงงานวิจัยของ Bloomberg และ รัฐบาลฝรั่งเศส ที่ตีพิมพ์โดยวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ลอนดอน ซึ่งพบหลักฐานว่า
นักเรียนจากโรงเรียนที่แบนการใช้โทรศัพท์มือถือ มีผลการสอบที่ดีขึ้น 6.4% หรือ ได้เวลาในการเรียนหนังสือกลับมา 5 วันต่อปี เมื่อเทียบกับเวลาใช้โทรศัพท์เลยด้วย
แม้ว่านักเรียนจะยังได้รับอนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียนได้ตามปกติ แต่ทว่าไม่ได้รับอนุญาตให้นำออกมาใช้จนกระทั่งออกจากโรงเรียนในช่วงค่ำไปแล้ว และไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้แม้แต่ในช่วงเวลาพัก
บรรดานักเรียน สมาคมครู และผู้ปกครองส่วนมาก จึงยังไม่ให้การสนับสนุนมาตรการใหม่นี้ โดยสำนักข่าวของอังกฤษอย่าง
เดอะการ์เดียน รายงานว่า ผู้ปกครอง ครู และเด็กนักเรียน ยังคงตั้งคำถามในมาตรการห้ามใช้โทรศัพท์มือถือนี้ เช่น
“ ที่โรงเรียนพวกเราไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียนหรือระหว่างพัก นักเรียนคนไหนถูกจับได้ระหว่างการใช้ภายในห้องน้ำ หรือระหว่างพักเที่ยงกลางวัน โทรศัพท์มือถือจะถูกยึดทันทีและเด็กนักเรียนคนนั้นจะโดนสั่งกักงั้นเหรอ ตลกดีนะ ”
“ แทนที่จะเป็นการห้าม ไม่ดีกว่าหรือที่จะติดตั้งอุปกรณ์บล็อกสัญญาณขึ้นภายในโรงเรียน ”
“แล้วโรงเรียนจะเก็บรักษาโทรศัพท์มือถือเหล่านี้ได้อย่างไร และจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะสามารถส่งกลับคืนให้กับเจ้าของหลังเลิกเรียนในแต่ละวันแล้ว”
“ ผมไม่เข้าใจเลยว่ามันจะได้ผลอย่างไร ใครจะเป็นคนที่เก็บโทรศัพท์มือถือไป พวกเขาจะนำไปเก็บไว้ที่ไหน และพวกเราจะเอากลับมาได้อย่างไร ”
โดย
ณอง-มิเชล บล็องเกอร์ (Jean-Michel Blanquer) รัฐมนตรีการศึกษาฝรั่งเศส ได้แนะนำให้ทางโรงเรียนติดตั้งตู้ล็อกเกอร์เพื่อสำหรับเก็บโทรศัพท์มือถือ ที่ถึงแม้ว่าโรงเรียนจำนวนมากที่อยู่ในย่านใจกลางเมืองจะมีพื้นที่จำกัดก็ตาม
แต่ทาง ผู้ช่วยเลขาธิการทั่วไปของสหภาพอาจารย์ใหญ่ฝรั่งเศส
ฟิลิปเป วินเซนต์ (Philippe Vincent) กล่าวตอบโต้ในข้อเสนอเรื่องนี้ว่า
“นี่เราจะเปลี่ยนให้โรงเรียนกลายเป็นตู้ล็อกเกอร์ขนาดใหญ่แทนหรอ ผมได้ทำการคำนวนส่วนตัวแล้วพบว่า โรงเรียนของรัฐ 5,300 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีนักเรียนราว 500 คน ซึ่งนั่นจะเท่ากับตู้ล็ฮกเกอร์ถึง 3 ล้านเลยนะ”
อย่างไรก็ตาม การบังคับนี้ มีกำหนดเริ่มใช้เดือนกันยายน ปี 2018 ทางการให้เหตุผลว่า
เพื่อสุขภาพของเด็กๆ และสภาพแวดล้อมของโรงเรียน โดย มิเชล บล็องเกอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของฝรั่งเศสกล่าวว่า
“ พวกนักเรียนเอาแต่จ้องอยู่หน้าโทรศัพท์ และจากมุมมองของการศึกษา นี่คือปัญหา โทรศัพท์มือถืออาจมีความจำเป็นสำหรับการศึกษาหรือในกรณีฉุกเฉิน แต่มันก็ยังจำเป็นที่จะต้องมีการจำกัดการใช้ ”