"รากของการศึกษาอาจขม แต่ผลของมันนั้นหวาน" การเรียนเป็นการชวยยกระดับความรู้ของตัวเราเอง ยิ่งเราเรียนรู้มากๆ มันก็ยิ่งเป็นผลดีต่อตัวเราเอง โดยเฉพาะการเรียนภาษาอังกฤษ หลายคนอาจจะเริ่มฝึกฝนอังกฤษจากการอ่าน แตก็ต้องพบกับปัญหาว่าอ่านอย่างไรก็ไม่เข้าใจสักที และทำให้เราเริ่มรู้สึกไม่ค่อยอยากอ่น หมดกำลังใจ และท้ถอยไปในที่สุด วันนี้พี่จึงมี
4 เทคนิคดีๆ ในการฝึกอ่านภาษาอังกฤษ ที่ทำให้เราสามารถเข้าใจ อ่านรู้เรื่อง จนเราอ่านหนังสืออังกฤษกันอย่างคล่องแคล่วว่องไว
1.เริ่มอ่านจากหนังสือง่ายๆ
สำหรับคนที่หัดใหม่ แม้แต่หนังสือเรียนของเด็ก นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ก็อาจจะยากจนเกินไป เพราะฉะนั้นไม่ต้องอายเลยที่จะไปซื้อนิทานภาษาอังกฤษของเด็ก 3 ขวบมาอ่าน ลองนึกถึงตอนเราฝึกภาษาไทยใหม่ๆตอนเด็ก เราก็อ่านนิทานของเด็ก 3 ขวบมาแล้ว ซึ่งจะทำให้เข้าใจและจับรูปแบบประโยคง่ายขึ้น เหมือนกับการกลับไปเริ่มต้นใหม่ และพัฒนามาสู่ความสำเร็จ
2.อ่านมากกว่าคนอื่น
ยิ่งทำอะไรมาก เราก็จะยิ่งเชี่ยวชาญมากกว่าคนอื่นๆ และถ้าคนอื่นอ่านแค่รอบเดียวรู้เรื่อง เราก็อาจจะต้องอ่านตั้งแต่ 2 รอบ 3 รอบ หรือกระทั่ง 4 รอบให้เข้าใจทั้งหมด แต่ก็อย่าเพิ่งท้อถอย พี่ขอแนะนำว่าให้พกหนังสือติดตัวตลอดเวลา และหาโอกาสอ่านบ่อยๆ อ่านในทุกๆ ที่ ที่เรามีโอกาส เพราะคนเรามีเวลาว่างที่อยู่เฉยๆ วันนึงมีเยอะพอสมควร
3.อย่าใช้ดิคชันนารีบ่อย
แม้การเปิดดิคชันนารี จะช่วยให้เราเข้าใจความหมายของแต่ละคำได้มากขึ้น แต่การอ่านไปเปิดไปเกือบทุกคำ มันจะทำให้เราไม่รู้จักการอ่านจับใจความโดยข้ามศัพท์ที่ไม่รู้เรื่องไป เชื่อรึปล่าวว่าฝรั่งหลายคนก็ไม่เข้าใจทุกคำศัพท์ แต่ก็อ่านข้ามโดยอาศัยคำอื่นๆ มาช่วยแปลความหมาย และค่อยมาเปิดหาความหมายคำที่ไม่รู้จริงๆ ในตอนท้าย เมื่อเราอ่านจบ
4.ห้ามท้อถอยเด็ดขาด
เรื่องนี้สำคัญที่สุด หลายคนอาจจะท้อเพียงเพราะเจอคนรอบข้างบอกว่า อ่านหนังสือภาษาอังกฤษทำไม อ่านไปก็ไม่เก่งขึ้น หรือเห็นบางคนมาหัดอ่านทีหลัง แล้วไปได้เร็วกว่า เลยเกิดอาการน้อยใจ ท้อแท้ใจ ขอให้ตั้งเป้าหมายไปที่ตัวเราคนเดียว ดูว่าเราพัฒนาขึ้นจากเมื่ออาทิตย์ก่อน เดือนก่อนหรือไม่ ตั้งเป้าระยะยาวไว้เป็นปีๆ แล้วพยายามทำตามเป้าช้าๆ โดยตั้งใจ อย่ารีบพัฒนาตัวเองโดยที่ยังขาดคุณภาพ
ทั้ง 5 เทคนิคที่พี่บอกมานี้ มันอาจจะไม่ได้ทำตามแล้วเห็นผลรวดเร็ว เปลี่ยนจากคนอ่านไม่ได้กลายเป็นคนอ่านคล่องในเวลาอันสั้น แต่มันเป็นแนวทางที่จะช่วยให้น้องๆ ทุกคน ในการเริ่มฝึกฝนการอ่านภาษาอังกฤษ มันต้องอาศัยใจของเราที่ทุ่มเทลงไปกับมัน น้องๆ คนไหนที่มีความคิดอยากเก่งภาษาอังกฤษควรเริ่มทำอะไรสักอย่างได้แล้ว อย่ามัวปล่อยให้เวลาผ่านไปวันๆ โดยไม่ทำอะไรเลย "ไม่เริ่มต้นในวันนี้ จะไม่มีทางสำเร็จในวันพรุ่ง"