เกณฑ์ช่วยตัดสินใจ เมื่อไม่รู้จะเรียนต่ออะไรดี

น้องๆ คนไหนที่ใกล้จบ ม.6 แล้ว หรือกำลังขึ้นม.ปลาย มีความอึดอัดและกังวลใจเมื่อมีเพื่อน ครู หรือพ่อแม่ ถามเราว่า อยากเรียนต่อคณะอะไร? อยากจบมาทำงานแบบไหน? 

แต่เรากลับให้คำตอบใครไม่ได้ แม้แต่ตัวเอง เพราะจริงๆ ก็ไม่รู้จะเรียนอะไรดี จะเดินทางไหน จะตัดสินใจยังไงดีไม่ให้ผิดพลาดและกลับมาเสียใจภายหลัง

ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดแผกอะไร ถ้าน้องๆ หลายคนยังไม่รู้จักตัวเอง หรือยังไม่แน่ใจว่าชีวิตและอนาคตเราจะไปทางไหนต่อจากนี้ เราจะเหมาะกับคณะหรืออาชีพอะไร? แล้วเรียนจบสาขานี้ไปจะรุ่งไหม?

ในฐานะรุ่นพี่ที่เคยผ่านช่วงเวลานั้นมาก่อน และได้สอบถาม รวบรวมข้อมูลจากประสบการณ์รุ่นพี่จากหลากหลายสายงาน จึงเกิดเป็นบทความนี้เพื่อช่วยน้องๆ หาคำตอบ

นี่คือ 6 หลักคิดและเกณฑ์ช่วยตัดสินใจ เลือกสาขาเรียนที่ใช่แม้ไม่รู้จะเรียนอะไร เราคัดสรรมาฝากน้องๆ ทุกคนที่กำลังสับสนและตัดสินใจไม่ได้ จะมีอะไรช่วยเราฟันธงอนาคตได้บ้าง มาดูเลย


สาขาหรือสายงานที่แนวโน้มกำลังมาแรง
โลกเราตอนนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน รวมไปถึงสายงาน อาชีพและสาขาเรียนก็เกิดใหม่ตามมาด้วย ซึ่งน้องๆ จะเห็นได้จากข่าว อาชีพเกิดใหม่ อาชีพแห่งอนาคต อาชีพสุดฮอตมาแรงทั้งในและต่างประเทศ อาชีพที่โตพร้อม AI อาชีพมาแรงตามเทรนด์ยุค 4.0 เป็นต้น ซึ่ง AdmissionPremium ของเราก็มีการนำเสนอเป็นทางเลือกให้น้องๆ อยู่เรื่อยๆ 


สาขาหรือสายงานนอกกระแส
สาขานอกกระแสที่ไม่ใช่แค่ แพทย์ วิศวะ บัญชี พยาบาล ครุศาสตร์ บริหาร หรือนิเทศศาสตร์ เป็นสาขาที่ไม่ค่อยมีใครแย่งเข้า และเราเห็นว่ามีโอกาสหรือช่องทางทำงานที่ดี อย่างเช่น สาขาทางด้านนวัตกรรม อาชีพเฉพาะทาง สื่อใหม่ สื่อผสม เกม มีเดียอาร์ต การบริการบนเรือสำราญ ความปลอดภัยการบิน การจัด Event ทัศนมาตรศาสตร์ เลขานุการทางการแพทย์ คณิตศาสตร์ประกันภัย เป็นต้น 


เทรนด์อาชีพที่ตลาดต้องการ
นอกจากสาขาหรือสายงานที่มาแรงแล้ว การเลือกสาขาเรียนจากความต้องการของตลาดงานก็เป็นเหตุผลที่ดีอีกอย่างหนึ่ง เพราะเมื่อเราเรียนในสายงานที่ตลาดมีความต้องการอยู่แล้ว ก็จะช่วยการันตีได้ว่าหลังจากเรียนจบ เราจะมีงานทำและมีตลาดงานรองรับ โดยน้องๆ สามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์หางาน รับสมัครงาน เว็บไซต์สำนักข่าว บทความต่างๆ รวมทั้งติดตามบทความอาชีพที่ AdmissionPremium เรานำมาเสนอก็จะพอจะช่วยให้เห็นแนวโน้มหรือทิศทางความต้องการของตลาดได้ชัดเจนขึ้น


ไอดอล ฮีโร่ คนที่เป็นแรงบันดาลใจ
เชื่อว่าเป็นเหตุผลที่เบสิกที่หลายคนบนโลกเราต้องเคยใช้เป็นตัวตัดสินเส้นทางชีวิตแน่นอน จะแปลกอะไรถ้าเราจะเลือกใช้ชีวิตหรือมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จตามไอดอลที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรา ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน ดารา ไอดอล บุคคลสำคัญในสายงานต่างๆ หรือแม้แต่พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ที่เราเคารพ


งานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ชอบ
การเลือกเส้นทางเรียนและอาชีพสำหรับอนาคตตัวเอง ดูเหมือนจะเป็นเร่ืองที่เราต้องคิดวิเคราะห์และหาข้อมูลกันอย่างจริงจัง จนบางครั้งจริงจังเกินไปจนปวดหัว ถ้าน้องๆ คนไหนไม่รู้ไม่อยากคิดไม่อยากใช้สมอง ก็ลองฟังเสียงหัวใจ อนาคตตัวเองจะเป็นอะไรยังไง ก็ลองเอาความชอบ กิจกรรมหรืองานอดิเรกที่เรารัก มาจินตนาการเป็นเส้นทางเรียนหรืออาชีพที่เราต้องอยู่กับมันในอนาคตดูว่า เราจะจะประสบความสำเร็จ และมีความสุข กับสิ่งนี้มากน้อยแค่ไหน 


แผนการเรียน 
หันซ้ายหันขวา ในกรณีที่น้องจนมุมสุดๆ ไม่มีไอดอลหรือไม่ชอบใจสายงานข้างบนที่พี่ๆ แนะนำมาเลย ก็ขอบอกน้องๆ ว่าให้เลือกเรียนต่อตามแผนการเรียนของตัวเองไปเลย (ง่ายดีมั้ยล่ะ) น้องๆ ที่เรียนสายวิทย์-คณิต ก็ยื่นคณะทางวิทย์ น้องคนไหนที่เรียนศิลป์ภาษา ก็เลือกสาขาทางด้านศิลปะ นิเทศศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรือแม้แต่สายอาชีวะ ก็เรียนต่อในระดับปวส. ตามสาขาที่เราเรียนมานั่นแหละตรงและง่ายที่สุด 


พี่หวังว่าข้อมูลหลักเกณฑ์ทั้งหมดที่เรารวบรวมมาให้นี้ จะช่วยเป็นแนวทางหนึ่งให้น้องๆ ได้ค้นพบคำตอบให้กับอนาคตตัวเอง และสุดท้ายอยากจะบอกน้องทุกคนว่า ไม่มีใครจะรู้จักเราดีเท่ากับตัวเราเอง จงตัดสินใจตามที่ตัวเราต้องการจริงๆ แล้วเราจะไม่มีวันกลับมาเสียใจกับสิ่งที่เลือกไปแน่นอน