อย่างที่เราเห็นกันอยู่ว่า ในปัจจุบันนั้นสภาพเศรษฐกิจทั้งระดับโลกและในประเทศไทย ต่างมีการเปลี่ยนแปลงหรือชะลอตัวในหลายด้าน และด้วยการพัฒนาทางเทคโนโลยีต่างๆ ส่งผลให้วิถีชีวิตและพฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนไป เกิดเป็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งในขณะเดียวกัน ธุรกิจที่มีอยู่เดิมก็จำเป็นต้องปรับตัวให้อยู่รอดได้ตามโลกที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างมากด้วย
ดังนั้น หากใครคิดจะทำธุรกิจหรือว่ามีธุรกิจอะไรอยู่ตอนนี้ ก็อาจจะต้องเตรียมตัวรับกับทิศทางและความเสี่ยงต่างๆ ไว้ให้ดี และนี่คือ
8 กลุ่มธุรกิจที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่ามีโอกาสเสี่ยงในปี 2018 จะมีธุรกิจไหนบ้าง ตามมาอ่านกันได้เลย
1 โรงแรมระดับ 3 ดาวและต่ำกว่า 3 ดาว
แม้ภาคการท่องเที่ยวจะคึกคัก แต่กลับส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมที่พักมีการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งผู้ประกอบการขนาดเดียวกันและขนาดใหญ่ที่ลงมาแย่งส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ทำให้ปัญหาอุปทานส่วนเกินส่งผลต่อการทำกำไรและความยั่งยืนของธุรกิจประเภทนี้
2 อสังหาริมทรัพย์
เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโดยตรง และกำลังซื้อที่ยังฟื้นตัวได้น้อยของผู้บริโภคระดับกลางถึงล่าง ชเป็นปัจจัยกดดันให้ตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัวลง นอกจากนี้อุปทานการขายยังอยู่ในระดับสูง รวมทั้งสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อทั้ง Pre-finance และ Post-finance
3 รับเหมาก่อสร้างระดับ SMEs
ภาวะการแข่งขันในธุรกิจค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างที่เป็น SMEs ซึ่งเสียเปรียบผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านต้นทุนและการเข้าถึงลูกค้า บวกกับภาวะขาดแคลนแรงงานภาคก่อสร้าง รวมทั้งราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
4 เฟอร์นิเจอร์ระดับล่าง
ภาพรวมการผลิตและจำหน่ายในประเทศหดตัวลงต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อตลาดเฟอร์นิเจอร์ระดับล่าง ส่งผลให้ผู้ประกอบการในตลาดระดับล่างค่อนข้างเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
5 ผลิตภัณฑ์พลาสติก
เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน ยังคงมีความเปราะบาง และการตีตลาดสินค้าพลาสติกของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
6 เหล็ก
ความผันผวนของราคาเหล็กและการไหลเข้าของเหล็กราคาถูกจากจีน เป็นปัจจัยบั่นทอนและกดดันผู้ประกอบการของไทยจนอาจอยู่ในภาวะทรงตัว
7 สิ่งทอและเครื่องแต่งกาย
การส่งออกสิ่งทอกลุ่มเครื่องแต่งกายมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องประมาณร้อยละ -2.0 เนื่องมาจากการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
8 กระดาษพิมพ์เขียน
กระดาษพิมพ์เขียนมีความต้องการใช้ลดลงจากการแทนที่ของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และการส่งออกไปยังประเทศจีนมีแนวโน้มลดลงจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเปราะบาง