Startup รัก(ษ์)โลก นี่สิเจ๋ง!! "โอ้โฮ" น้ำดื่มสะอาดที่ไม่ต้องอยู่ในขวดพลาสติกอีกต่อไป

"เทคโนโลยี" คือการคิดค้นพัฒนาเพื่อให้ได้สิ่งที่จำเป็นมาใช้ประโยชน์แก่ชีวิตมนุษย์ และเมื่อคนเรานำเทคโนโลยีนั้นมาผนวกกับไอเดียความคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจ แน่นอนว่ามันจะสร้างมูลค่าและประโยชน์อย่างมหาศาลแก่ผู้มองเห็นไม่ว่าจะเป็นใคร

และตัวอย่างที่ชัดเจนในกรณีนี้ เห็นได้จากนักศึกษา 3 คน ของ "อิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน" ประเทศอังกฤษ ที่ร่วมกันทำโครงงานระหว่างเรียนด้วยแนวคิดเรื่องการเปลี่ยนขวดบรรจุน้ำพลาสติกให้เป็นวัสดุแบบใหม่ แนวคิดเรื่องการเปลี่ยนขวดบรรจุน้ำพลาสติกให้เป็นวัสดุแบบใหม่ จนประสบความสำเร็จในการคิดค้นขวดบรรจุน้ำแบบใหม่ด้วยการใช้วัสดุธรรมชาติมาทดแทนพลาสติกที่นับวันจะกลายเป็นขยะที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นทุกที 


โดยสิ่งที่พวกเขาคิดค้นขึ้นได้ นั่นก็คือ “โอ้โฮ” (Ooho) น้ำดื่มที่บรรจุอยู่ในเนื้อเยื่อใส ไร้สี ไร้กลิ่น สามารถกินเข้าไปพร้อมกับน้ำก็ได้ หรือจะคายทิ้งก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเนื้อเยื่อที่เป็นภาชนะบรรจุน้ำดังกล่าวสามารถย่อยสลายไปเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติภายใน 6 สัปดาห์ และทั้ง 3 คน ออกมาก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพชื่อ "สคิปปิง ร็อคส์ แล็บ" ใช้เวลาในการระดมทุนและพัฒนากระบวนการผลิต “โอ้โฮ” อยู่ 2 ปีเศษก็สามารถระดมทุนและพัฒนาระบบการผลิตจนสามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในที่สุด

เจ้าก้อน “โอ้โฮ” เป็นน้ำดื่มบรรจุในภาชนะทรงกลม ซึ่งผลิตจากวัสดุชีวภาพเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เทียบได้กับเปลือกผลไม้อย่างหนึ่ง ตัวเนื้อเยื่อดังกล่าวเป็นเนื้อเยื่อชีวภาพประกอบด้วย “โซเดียม อัลจิเนท” กับ “แคลเซียม คลอไรด์” ซึ่งเป็นส่วนผสมที่สกัดได้จากสาหร่ายทะเลเป็นหลัก ปิแอร์ ปาสลิเยร์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง “สคิปปิง ร็อคส์ แล็บ” ระบุว่า เนื่องจากวัสดุที่ใช้มาจากสิ่งมีชีวิต ดังนั้นตัวเนื้อเยื่อดังกล่าวจึงกินได้ และสามารถแต่งสี แต่งกลิ่น รวมถึงรสชาติให้น่ากินได้อีกด้วย




สคิปปิง ร็อคส์ แล็บ ระบุว่า การออกแบบภาชนะเมมเบรนดังกล่าวให้เป็นทรงกลมเพื่อให้เหมาะกับการบรรจุและขนย้าย ทั้งยังสามารถเพิ่มขยายปริมาณของน้ำได้ตามความต้องการ เมื่อเทียบกับขวดน้ำพลาสติก นอกจากจะกินได้และไม่หลงเหลือเป็นขยะพิษให้สิ่งแวดล้อมแล้ว “โอ้โฮ” ยังมีต้นทุนการผลิตถูกกว่าขวดพลาสติก กระบวนการผลิตก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่ากระบวนการผลิตขวดพลาสติกถึง 5 เท่า และสิ้นเปลืองพลังงานน้อยกว่าถึง 9 เท่าอีกด้วย 

โดยสคิปปิง ร็อคส์ แล็บ จะทำการตลาดโดยเน้นจำหน่ายในงานเทศกาลกลางแจ้งต่างๆ ร้านกาแฟ หรือในงานแข่งขันกีฬาอย่างเช่นการวิ่งมาราธอน ซึ่งปกติจะเป็นแหล่งที่บริโภคน้ำในขวดพลาสติกเป็นจำนวนมากอยู่ก่อนแล้ว และถึงแม้เจ้าก้อนโอ้โฮ จะมีข้อจำกัดจนไม่สามารถนำมาใช้ทดแทนขวดน้ำพลาสติกได้ 100% อย่างเช่น ไม่สามารถโยนลงเป้เพื่อพกพาไปไหนมาไหนได้ เพราะความนิ่มและเปราะบาง แต่มันจะช่วยลดปริมาณการใช้ขวดพลาสติกลงได้มาก ถ้าหากนำมาใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสมและเป็นไปได้






ขอบคุณข้อมูล
www.matichon.co.th
www.skippingrockslab.com