ถอด! 5 บทเรียนน่ารู้สำหรับผู้ประกอบการ...เคล็ดไม่ลับภายใต้เสื้อฮู้ดของ Mark Zuckerberg

หลังจากที่ Mark Zuckerberg ได้นำพา Facebook ของเขาพิสูจน์ให้ทั้งโลกเห็นความสำเร็จด้วยการกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกถึง 3 ล้านล้านเหรียญ จึงไม่น่าแปลกใจหากจะมีกูรูหรือนักวิเคราะห์หลายคนในหลายวงการทั่วโลกคนให้ความสนใจและศึกษาที่มาหรือเคล็ดลับของความสำเร็จนี้ และในบทความนี้ได้รวบรวม “5 บทเรียนน่ารู้ ภายใต้เสื้อฮู้ดของ Mark Zuckerberg” ที่ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพทั่วโลกได้เรียนรู้จาก Facebook



1. 'Separate business and friendship' บทวิเคราะห์จาก Kristen Koh Goldstein ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Scalus

หนึ่งบทเรียนสำคัญที่ผู้ก่อตั้งทุกคนสามารถเรียนรู้ได้จาก Mark คือ ความสามารถในการแยกแยะระหว่าง “ธุรกิจกับเพื่อน” หากคุณเคยดูภาพยนตร์ The Social Network ในปี 2010 คุณคงจำเหตุการณ์ที่ Mark ขับไล่ผู้มีส่วนร่วมก่อตั้ง Facebook 2 คนออกไปได้ เพราะ Mark รู้สึกว่าคนเหล่านี้ไม่สามารถที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับ Facebook ได้อีก โดยมิตรภาพจะช่วยทำให้ธุรกิจออกตัวได้ดีในช่วงเริ่มต้น เพราะทีมเล็กมีความคล่องตัว มีความรับผิดชอบและเป้าหมายร่วมกันทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้เร็ว แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีสมาชิกที่ร่วมก่อตั้งเริ่มทำตัวเป็นผู้จัดการจอมจู้จี้ นั่นถือเป็นการทำลายทีมทั้งหมดและกลายเป็นขวากหนามที่ขัดขวางการเติบโตขั้นต่อไปของธุรกิจ ดังนั้น Mark กับทีม Facebook จึงพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสถานการณ์รูปแบบนี้ขึ้นมาอีก


2. 'Move fast, and break things' บทวิเคราะห์จาก Marius Moscovici ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Metric Insights

“เดินหน้าให้เร็ว และสร้างสิ่งใหม่ๆ” ประโยคที่แสดงให้เห็นถึงปรัชญาการทำงานของ Facebook ในขณะที่ธุรกิจส่วนใหญ่ต่างดิ้นรนคงสภาพปัจจุบันที่เป็นผลความสำเร็จในอดีต แต่ Mark กลับยอมเปิดรับแนวคิด “ทำสิ่งใหม่” อันเป็นหัวใจของการปรับปรุง Product ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในระดับที่ไม่เคยมีใครได้ทำมาก่อน


3. 'The trick isn’t adding stuff; it’s taking it away' บทวิเคราะห์จาก Christian Turlica ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ UP Social

เคล็ดลับคือ อย่ายัดทุกอย่างเข้าไป แต่จงเอามันออกมา ในตอนแรกที่ Facebook เกิดขึ้น Mark กล่าวว่า "นี่มันสารพัดประโยชน์มากเกินไป มันทำได้หลายอย่างเกินไป เมื่อคุณสร้าง Product การที่คุณจะใส่ฟีเจอร์อะไรเข้าไปนั้น มันสำคัญมาก ซึ่งฟีเจอร์นั้นต้องเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ สำหรับผู้ใช้กลุ่มเป้าหมาย อย่าสร้าง Product ที่สามารถควบคุมได้ทุกอย่าง เพราะนั่นทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ว่าจุดเด่นของ Product คุณคืออะไรกันแน่ มันเป็นการลดคุณค่าและทำให้ Product ของคุณตายในที่สุด"


4. 'Think big, start small' บทวิเคราะห์จาก Matt Chasen ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ uShip

ในตอนที่ Mark เริ่มปล่อย Facebook ให้ใช้งาน หน้าตาและขนาดของ Product นั้นเรียบง่ายและมีขนาดเล็ก ช่วยให้ “นักศึกษา” ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้ง่าย จากนั้นเขาจึงขยายไปยังกลุ่มคนที่หัวก้าวหน้าและเปิดรับเรื่องนวัตกรรม (Early Adopters) เมื่อทำตามเป้าได้สำเร็จ Facebook ก็พร้อมขยายฐานเป้าหมายให้คนทั่วไปสามารถเข้าใช้งานได้มากขึ้น โดยแนวทางการขยายตัวของ Facebook นั้นยึดหลักปรัชญา “Think big, start small” หรือ “คิดให้ใหญ่ แต่เริ่มให้เล็ก” ซึ่งแน่นอนว่าแนวทางนี้ทำให้ Facebook กลายมาเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจนถึงทุกวันนี้


5. 'Stay connected to the product' บทวิเคราะห์จาก Kraig Swensrud Chief marketing officer ของ Campaign Monitor

“อยู่กับ Product และศึกษามันอย่างลึกซึ้ง” เราแทบไม่เคยเห็น Mark ออกห่างจาก Facebook เลย ข้อเท็จจริงนี้แสดงให้เราเห็นได้ชัดๆ เลยว่า ต่อให้คุณเป็น CEO, CMO หรือแม้กระทั่งเด็กฝึกงานช่วงปิดเทอม การทำความเข้าใจ และเรียนรู้ Product อย่างลึกซึ้งเป็นเรื่องที่แสนจะสำคัญ โดยการผูกตัวเองเข้ากับ Product นี้ ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าทุกคนมีส่วนร่วมและมีความรับผิดชอบในการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้ ซึ่งวิธีนี้ยังช่วยให้คุณสัมผัสได้ถึงความต้องการของลูกค้าอีกด้วย



ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :
1) www.entrepreneur.com
2) startitup.in.th
3) www.recode.net/mark-zuckerberg
4) www.wired.com/wp-content