สอบเข้ามหาวิทยาลัย

​ไม่มีผลงาน ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง? 6 เคล็ดไม่ลับ แนวทางการยื่น Portfolio DEK68 ต้องดู !!

   ไม่มีผลงาน ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง? 6 เคล็ดไม่ลับ แนวทางการยื่น Portfolio DEK68 ต้องดู !!



   1. ตั้ง Goal เป้าหมายให้ชัดเจน
    เริ่มแรกสำคัญเลยว่าน้องๆต้องรู้ก่อนว่าต้องการจะเป็นอะไรในอนาคต แต่ถ้าหากคุณยังไม่แน่ใจว่าชอบหรือต้องการอะไร ไม่ต้องเครียดเลย ใช้เวลาค่อยๆ คิด ลองย้อนกลับไปดูว่ามีอะไรบ้างที่คุณรู้สึกชื่นชอบอย่างมากในอดีต ตอนเด็ก และปัจจุบัน และจินตนาการถึงตัวน้องๆ ในอนาคตว่าอยากเห็นตัวเองเป็นยังไง ทำอะไร อยู่ที่ไหน มีบทบาทอย่างไรในสังคม การทบทวนเรื่องเหล่านี้จะช่วยให้น้องๆค้นหาและรู้จักตัวเองมากขึ้น



   2.  สำรวจและรวมผลงานของตัวเอง
    ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ผลงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสายที่น้องๆจะเข้า ทุกอย่างมีค่าทั้งนั้น! ไม่ว่าจะเป็นงานจิตอาสา, กิจกรรมทางโรงเรียน, การแข่งขันต่างๆ หรือแม้แต่โครงการที่ไม่ตรงสายที่คุณสนใจก็นำมาใส่ด้วยเลย นี่อาจจะเป็นตัวช่วยให้คุณได้ลองยื่นเข้าคณะที่อยากลองดูบ้างใครจะรู้! แนะนำให้จัดเรียงงานเหล่านี้ให้เป็นหมวดหมู่ เช่น กิจกรรมวิชาการ, จิตอาสา, การแข่งขัน, หรือโครงงานที่สำคัญๆ อย่าลืมเก็บรูปตอนทำกิจกรรมไว้ด้วยน้า เพราะภาพจะช่วยให้ผลงานของคุณดูมีชีวิตชีวาและน่าสนใจยิ่งขึ้น



   3. หาข้อมูลคณะ และมหาลัยที่อยากเข้า
     หาข้อมูลเกี่ยวกับคณะและมหาวิทยาลัยที่ตัวเองอยากเข้า การเลือกคณะนั้นควรเลือกที่ตรงกับเป้าหมายในชีวิตของเรา เพื่อให้เราสามารถทำงานที่ชอบและมีความสุขได้ในอนาคต ส่วนเรื่องของมหาวิทยาลัยนั้น มันขึ้นอยู่กับเป้าหมายส่วนตัวของแต่ละคนเลย เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน อย่าลืมน้า หาข้อมูลให้เยอะๆ ควานหาทั้งจากเว็บไซต์, รีวิวของรุ่นพี่, หรือแม้กระทั่งเข้าไปเยี่ยมชมงาน Open House ของมหาวิทยาลัยเพื่อดูสภาพแวดล้อมจริง ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้น้องๆตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าคณะและมหาวิทยาลัยไหนที่เหมาะสมกับน้องที่สุด!



   4. ถ้าไม่มีผลงาน ให้หาเก็บเพิ่มเติม
    ถ้ารู้สึกว่ายังไม่มีผลงานเพียงพอ ก็มาหาเก็บเพิ่มเติมกันเถอะ! ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยก็ตาม หรืออาจจะเข้าร่วมค่ายวิชาการที่เกี่ยวข้องกับสายอาชีพที่น้องๆฝันถึง ควรพยายามเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้ให้มากที่สุด เพราะนอกจากจะได้ผลงานมาใส่ในพอร์ตของเราแล้ว ยังได้ประสบการณ์, มิตรภาพ, และความทรงจำอันมีค่าจากกิจกรรมเหล่านั้นอีกด้วย แถมถ้าเราเข้าค่ายบ่อยๆ ยังได้คอนเนคชั่นเพิ่มขึ้นอีกด้วย! สำหรับการหาค่าย สามารถเช็คได้ที่ 'CAMPHUB' ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีการจัดกิจกรรมค่ายเยอะแยะไปหมดเลย ลองเข้าไปติดตามเรื่อยๆ แล้วจะพบกับโอกาสมากมายที่รอน้องๆอยู่น้า
 


   5.ศึกษารายละเอียดการยื่นพอร์ทของแต่ละมหาลัย
    ในขั้นตอนที่ห้านี้สำคัญมากๆ น้องๆ ต้องเช็ครายละเอียดในการยื่นพอร์ตของแต่ละมหาวิทยาลัยที่น้องๆสนใจ เพราะแต่ละที่กำหนดรายละเอียดและข้อกำหนดต่างๆ ไม่เหมือนกันเลยนะ บางมหาวิทยาลัยอาจจะมีแบบฟอร์มเฉพาะให้ทำตาม, ข้อกำหนดเรื่องจำนวนหน้า, ขนาดตัวอักษร, หรือชนิดของ font ,สีประจำมหาลัย ที่ต้องใช้ น้องๆต้องศึกษารายละเอียดเหล่านี้ให้ละเอียด เพราะหากทำไม่ตรงตามที่กำหนด น้องอาจจะถูกตัดสิทธิ์ในการรับพิจารณาได้ สำหรับการหาข้อมูลเกณฑ์การรับให้เสิช ใน Google ด้วยชื่อคณะและมหาวิทยาลัยตามด้วยคำว่า "รอบ portfolio" หรือเข้าไปดูประกาศบนเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยได้เลย รับรองว่าจะได้ข้อมูลที่ต้องการอย่างถูกต้องแน่นอน!



   6.ถึงเวลามาประกอบร่างportfolioกัน
    เริ่มด้วยการนำผลงานที่มีมาจัดเรียงตามรูปแบบที่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งกำหนดไว้ ถ้าพอร์ตของคุณไม่ได้อยู่ในสายกราฟิกหรือศิลปะที่ต้องเน้นความสวยงามมากมาย ไม่ต้องซีเรียสมากน้องๆแค่ทำให้มันออกมาเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด โดยเน้นเนื้อหาให้กระชับและอ่านง่าย สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องใส่รายละเอียดของกิจกรรมต่างๆ ลงไปให้ครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม น้องๆควรเขียนรายละเอียดนี้ด้วยตัวเอง เพราะเราเป็นคนที่รู้จักประสบการณ์ของเราได้ดีที่สุด การที่เขียนออกมาด้วยตัวเองจะทำให้สามารถถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกที่มีต่อแต่ละกิจกรรมได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ เมื่อถึงเวลาสัมภาษณ์ กรรมการอาจจะถามเกี่ยวกับรายละเอียดในพอร์ต การเขียนด้วยตัวเองจะช่วยให้เราตอบได้ดีและชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของ SOP หรือ Statement of Purpose ซึ่งควรเป็นเรื่องราวที่มาจากความตั้งใจของน้องๆจริงๆ ไม่ควรจ้างคนอื่นเขียน เพราะเรารู้และเข้าใจในสิ่งที่เราเขียนดีที่สุด!

   สุดท้ายนี้ แอดมินจะบอก #DEK68 ว่า ไม่ว่าน้องจะเป็นใคร มีความฝันอยากเป็นอะไร หรือมีเป้าหมายอย่างไร ขอให้น้องๆ ทำมันอย่างเต็มที่แล้วจะไม่มาเสียใจทีหลัง และจงเชื่อมั่นในความฝันของตัวเองเสมอ อย่ามองข้ามหรือดูถูกความฝันของตัวเองเด็ดขาด เพราะนั่นหมายความว่าน้องกำลังขัดขวางโอกาสในอนาคตของตัวเองอยู่นั่นเอง ให้กำลังใจตัวเองเยอะๆ และมั่นใจว่าเพียงแค่น้องกล้าที่จะฝัน นั่นก็คือก้าวแรกที่ดีที่สุด กล้าลงมือทำดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ตัวเราในอนาคตกำลังรออยู่ ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนสนุกกับการเตรียมตัวในรอบ portfolio จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน ลุยยยยย!!!