"อะไรที่ได้มายาก มักจะมีค่ามากเสมอ" การเรียนต่อที่ต่างประเทศคงเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน แต่ก็มีหลายคนที่สนใจ และสหราชอาณาจักหนึ่งในประเทศที่หลายคนอยากไปเรียนต่อมากที่สุด แต่มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรโดยเฉพาะที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ถือว่าเข้ายากมากๆ เลย แต่คงไม่เกินความสามารถของคนที่ตั้งใจจริงๆ
วันนี้พี่จะพามาดู 3 มหาวิทยาลัยที่มีคะแนนสอบเข้าสูงสุดในอังกฤษ
1.University of Cambridge
คะแนนเฉลี่ยของผู้ที่เข้าเรียน 600 คะแนน (แปลว่าอย่างน้อยทุกคนต้องได้ A-level เกรด A กัน 5 วิชา)
มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เก่าแก่เป็นอันดับสอง รองจากอ๊อดซ์ฟอร์ด โดยมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ประกอบด้วยวิทยาลัย 31 แห่งกระจายอยู่ทั่วเมือง การเรียนการสอนแบ่งเป็น 6 คณะ ได้แก่คณะอักษรศาสตร์และมนุษยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ชีวภาพ คณะแพทยศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์กายภาพและคณะเทคโนโลยี
2.University of Oxford
คะแนนเฉลี่ยของผู้ที่เข้าเรียน 574 คะแนน (ต้องได้ A-level อย่างน้อยเกรด A 4 วิชา เกรด B 1 วิชา)
ในโลกนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เพราะมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ และยังผลิตคนมีชื่อเสียงจำนวนมาก เช่น นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร อ๊อกซ์ฟอร์ดไม่ได้มีวิทยาเขตหลักแต่มีวิทยาลัย 38 แห่งกระจายอยู่ทั่วเมือง แต่ละวิทยาลัยจัดการเรียนการสอนและปกครองด้วยตัวเอง
3.Imperial College London
คะแนนเฉลี่ยของผู้ที่เข้าเรียน 567 คะแนน (ต้องได้ A-level อย่างน้อยเกรด A 3 วิชา เกรด B 2 วิชา)
วิทยาเขตหลักของมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ตั้งอยู่ข้างพระราชวังเคนซิงตัน และเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านวิทยาศาสตร์มานมนาน และผลิตนักวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายคน มีทั้งหมด 4 คณะ ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และคณะบริหารธุรกิจ
"อย่าให้กรอบแคบๆ อันน้อยนิด ปิดกั้นความคิดอันยิ่งใหญ่" การเรียนต่อที่ต่างประเทศเป็นการยกระดับตัวเอง และเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตให้ตัวเองแบบครบทุกรส ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นมหาวิทยาลัย 3 แห่งนี้เท่านั้น เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะเลือกไปเรียนมหาวิทยาลัยอะไร? ประเทศอะไร? แต่อย่าให้กรอบความคิดแคบๆ มาปิดบังความคิดที่ยิ่งใหญ่ ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตการเรียนและการประกอบอาชีพในอนาคต