“บัตรเครดิต” ฉลาดใช้อย่างไร ไม่เป็นหนี้!!

การใช้ “บัตรเครดิต” ในการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ หลายคนก็คงรู้จักคุ้นเคยกันดี และในยุคนี้ยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการใช้บัตรเครดิตแทนเงินสดนั้น อำนวยความสะดวกให้มากกว่า โดยเราสามารถติดตามรายละเอียดการใช้จ่ายได้ อันตรายน้อยกว่า เพราะไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมาก และยังได้คะแนนสะสม หรือผลตอบแทนต่างๆ เช่น ส่วนลด เงินคืน หรือการสะสมไมล์ เป็นต้น


อย่างไรก็ตาม หลายครั้งที่ความสะดวกจากบัตรเครดิตก็ทำให้เกิดผลเสียได้ หากผู้ใช้หรือเจ้าของบัตรใช้บัตรเครดิตอย่างไม่ระวัง อาจจะใช้เพลินเกินจนเกิด “หนี้บัตรเครดิต” ตามมาได้ง่ายๆ ทำให้ผลประโยชน์จากบัตรเครดิตที่กล่าวไปข้างต้นหายวับไปกับตา ถ้าเกิดว่าผู้ใช้ เป็นหนี้หรือติดกับดักบัตรเครดิตซะเอง และในบทความนี้เราจะขอแนะนำเคล็ดลับง่ายๆ ในการ ใช้บัตรเครดิตอย่างไรไม่ให้เป็นหนี้ มาฝากสำหรับผู้ที่คิดอยากจะทำหรือผู้ที่ใช้บัตรเครดิตอยู่บ่อยๆ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันได้เลย


1. ตั้งหักบัญชีอัตโนมัติ (Direct Debit)
หากคุณรู้ตัวว่าใจไม่แข็งหรือมีวินัยทางการใช้เงินมากพอ เมื่อบิลบัตรเครดิตออกคุณจะกดเงินออกไปจ่ายตรงเวลาทุกครั้ง และทุกรอบบัญชี หรือลืมวันจ่ายจนต้องมาเสียดอกเบี้ยเพิ่ม วิธีหนึ่งที่จะช่วยคุณได้คือ ทำเรื่องกับธนาคารที่เป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตให้ ตั้งหักบัญชีออมทรัพย์อัตโนมัติ (Direct Debit) ทันทีที่บิลบัตรเครดิตออก ไม่ว่าจะเป็นการหักจากบัญชีเงินเดือนหรือบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป ซึ่งการใช้วิธีนี้ คุณจะไม่ลืมจ่ายและต้องมาเสียดอกเบี้ยทบเป็นรายวันงอกเงยจนกลายเป็นหนี้บัตรเครดิตก้อนโตในอนาคตอย่างแน่นอน


2. ติดตามการใช้จ่ายและจดบันทึกเสมอ
ปัจจุบันนี้มีแอพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือมากมายที่ช่วยเราให้จดบันทึกรายรับรายจ่ายในชีวิตประจำวันได้ง่ายๆ ซึ่ง ผู้เชี่ยวชาญหลายสำนักแนะนำว่า อาจจะไม่ต้องทำทุกวัน อาจทำทุกครั้งที่สิ้นสุดสัปดาห์หนึ่ง ก็ให้คุณนำสลิปบัตรเครดิตมารวมกันและจดบันทึกเข้าไปในแอพลิเคชันเหล่านั้น ก็จะรู้ได้ว่าในขณะนี้ ใช้บัตรเครดิตไปจำนวนเท่าไหร่แล้ว มากเกินไปหรือไม่ นอกจากนี้ เมื่อจบเดือน ก็ควรวิเคราะห์หรือวางแผนรายจ่ายผ่านบัตรเครดิตเปรียบเทียบกับเดือนก่อนๆ ดูรายจ่ายเฉลี่ยของแต่ละเดือน เพียงเท่านี้ การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตก็อยู่ในการควบคุมของคุณแล้ว


3. มีเงินเก็บ สำรองไว้
นอกจากเราจะมีเงินเก็บเพื่อเอาไว้ใช้ยามเกษียณหรือกรณีฉุกเฉินอื่นๆ แล้ว ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินได้แนะนำว่า ให้มีอีกบัญชีหนึ่ง กันเงินเอาไว้สำรองอีกที เพราะหากมีเดือนไหนที่เราต้องมีการใช้บัตรเครดิตมากกว่าปกติ อาทิ ค่าซ่อมรถ ค่าซ่อมบ้าน เจ็บป่วยกะทันหัน ก็จะสามารถเอาเงินในส่วนนี้ใช้ในการจ่ายบัตรเครดิตที่เกินจากปกติ เพื่อจะได้ไม่รบกวนกองทุนเงินในกรณีฉุกเฉิน หรือกองทุนเพื่อใช้ยามเกษียณนั่นเอง


ขอบคุณข้อมูลจาก :
moneyhub.in.th