พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสเทคโนโลยีและวิวัฒนาการแห่งโลกการเงิน ตั้งแต่การนำสิ่งของมาแลกเปลี่ยนกันในอดีตมาสู่การใช้ “เงิน” เป็นสื่อกลางในการแปลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ในปัจจุบันความก้าวล้ำของนวัตกรรมทางการเงินที่เข้ามามีบทบาทช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้คนคือ บัตรใช้แทนเงินสด หรือ “บัตรเครดิต”
ธุรกิจบัตรเครดิตทุกวันนี้มีการแข่งขันกันสูง ทั้งในเรื่องของโปรโมชั่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าหรือค่าธรรมเนียมรายปี อัตราดอกเบี้ย รวมถึงระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย ซึ่งก็จะมีตั้งแต่ 45 วันไปจนถึง 55 วัน ซึ่งอาจทำให้หลายๆ คนคิดว่า นับจากวันรูดซื้อสินค้า ไปจน 45 วันถึงครบกำหนดชำระ แต่แท้จริงแล้วหากกลับไปอ่านสัญญาการใช้บัตรเครดิตดีดๆ จะพบว่า ระยะเวลาในการชำระคืนโดยปลอดดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมการใช้ หากชำระตามกำหนดเต็มจำนวน โดยจะนับถัดจากวันที่สรุปยอดค่าใช้จ่าย ไม่ใช่วันที่ใช้บัตรเครดิตตามที่ผู้บริโภคเข้าใจ หากนับผิดวิธีอาจส่งผลต่อระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยอย่างมาก
ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยฯ ที่ถูกต้องก็ต้องว่ากันตามสัญญา ซึ่งธนาคารก็ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่า ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยนับจากวันที่สรุปยอดค่าใช้จ่าย ดังนั้น ถ้าใช้บัตรเครดิตให้ได้ในระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยนานที่สุด ก็ต้องใช้หลังจากวันที่สรุปยอดค่าใช้จ่ายใหม่ๆ